อาชญากรรม

เปิดวงแชร์มรณะโยง 'แอม' เล่น 6 คน ทยอยดับแล้ว 3 - เปิดใจ 'แต้ว' หนึ่งในผู้รอดชีวิต

โดย weerawit_c

27 เม.ย. 2566

1.5K views

เปิดข้อมูล 2 ผู้เสียชีวิตรายใหม่ พัวพันวงแชร์มรณะ มีแอมเป็นเท้ารายแรก เจ๊น้อยขายผัก ออกไปซื้อของกับแอม แล้วกลับมานั่งกินถั่วที่ร้าน ชัก มือเกร็ง น้ำลายฟูมปากเสียชีวิตคาร้าน สามีคาใจ วงจรปิดถูกถอดปลั๊กวันเกิดเหตุ และแอม ยืมเงินก่อนตาย

อีกรายคือ ครูอ๊อด เสียชีวิตขณะกินขนมจีนแกงไก่ ก่อนตายเพิ่งสนิทสนมกับแอมจากวงแชร์ หลังก่อนเรื่องมีเจ้าหนี้ทวงเงินถึงบ้านเพียบ แถมบัตรเครดิตก็ถูกกดเงินสดมาร่วมแสน เจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานหาความเชื่อมโยงแล้ว


ยังคงเป็นประเด็นต่อเนื่องที่เรียกว่าช็อกสังคมกับกรณีการก่อเหตุของนางสาวสรารัตน์ หรือแอม ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาฆ่าผู้อื่น โดยเจตนา จากกรณีของการนำสารพิษผสมให้นางสาวก้อยได้รับสารพิษเข้าไปในร่างกาย ก่อนจะพาไปปล่อยปลาและเสียชีวิตที่ท่าน้ำอำเภอบ้านโป่งจังหวัดราชบุรี


ซึ่งพฤติกรรมของนางสาวแอมนั้นพบว่าจะมีการเล่นแชร์หลายวง ทั้งเงินสดทองรูปพรรณและแชร์รายสัปดาห์ โดยพบว่าวงแชร์ มีหนึ่งวงที่มีจำนวนผู้เล่นเพียงแค่ห้าคนแต่ในจำนวนห้าคนนี้ทยอยเสียชีวิตจำนวน 3 รายประกอบด้วย


1. แอม เป็นท้าวแชร์

2. พี่น้อยขายผัก (เสียชีวิต10สค 65)

3. พี่นุ้ย ตร.(เสียชีวิต10สค65)

4. น้องแต๋ว (ไม่ทราบสถานะ)

5. ครูอ้อด (เสียชีวิต พฤศจิกายน2565)

6. น้องมิ้ง โชห่วย (ไม่ทราบสถานะ )


วงแชร์นี้ นางสาวแอมกำหนดว่า เงินต้นจำนวน 100,000 บาท ส่งรายห้าวันส่งทุกวันศุกร์ มือละ 15,000 บาท เดี๋ยวแชร์แล้วส่งดอกให้เท้าคือนางสาวแอม อั้นดอกอยู่ที่ 4,000 บาท และลงหมายเลขบัญชีของนางสาวแอม


ทีมข่าวเรื่องเล่าเช้านี้ลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่าผู้เสียชีวิตทั้ง 3 รายนั้นเป็นปริศนาที่ทั้ง 3 คนมีอาการลักษณะคล้ายกันและที่สำคัญทั้ง 3 คนก่อนจะเสียชีวิต ได้มาพบกับหมอดูที่สำนักแห่งหนึ่งในพื้นที่มหาชัย อำเภอเมืองสมุทรสาคร


สำหรับผู้เสียชีวิตนั้นกรณีของ ร้อยตำรวจเอกหญิงกานดาโตไร่ หรือ ผู้กองนุ้ย  ซึ่งเสียชีวิตเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2565 ทีมข่าวได้ไปพูดคุยสอบถามกับครอบครัวของผู้กองนุ้ยแล้ว พบว่า คุณแม่ให้ข้อมูลว่าก่อนที่ผู้กองนุ้ยจะเสียชีวิตนั้น ได้เดินทางไปหาหมอดูในพื้นที่มหาชัย ในช่วงเย็นวันที่ 9 ส.ค.65 ก่อนต่อมาจะพบว่าเสียชีวิตในช่วงกลางคืนวันที่ 9 ต่อเนื่องเข้าวันที่ 10 สิงหาคม 2565


ทีมข่าวเรื่องเล่าเช้านี้ได้พบผู้เสียชีวิตอีกสองรายกับแแชร์มรณะนี้ คือเจ๊น้อยขายผัก หรือ นางสาวรจรินทร์อายุ 39 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของธุรกิจขายผักสดอยู่ในตลาดมหาชัย


ทีมข่าวเรื่องเล่าเช้านี้ได้พูดคุยกับสามีของเจ๊น้อย ซึ่งเปิดใจว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเจ๊น้อยนั้นคาใจมาตลอด เพราะการเสียชีวิตนั้นพบว่ามีลักษณะแปลกที่มีน้ำลายฟูมปาก และมือเกร็งปากเขียวช้ำ จากนั้นไม่นานก็เสียชีวิตซึ่งผิดปกติอย่างมาก แต่ตอนนั้นไม่สามารถตรวจสอบหรือเรียกร้องอะไรได้ กระทั่งมาเจอเหตุการณ์ของนางสาวก้อยซึ่งมีลักษณะ การเสียชีวิตที่คล้ายกันและทุกคนที่เสียชีวิตก็รู้จักกับนางสาวแอม


โดยเจ๊น้อย ได้รู้จักกับแอมจากการเล่นแชร์ในพื้นที่จังหวัดราชบุรี รู้จักกันได้ประมาณ 6-7 เดือนและสนิทสนมกันมากแชทคุยทางโซเชียลตลอดเวลา และพบว่ามีการทำธุรกิจเกี่ยวกับเงินกู้หรือแชร์ และทั้งแอมและพี่น้อยก็มีการยืมเงินกันไปมาลักษณะช่วยกันหมุนเวียนทำธุรกิจ ตลอดระยะเวลาที่คบกันและทำธุรกิจร่วมกันเจ๊น้อยไม่เคยมีปัญหาหรือทะเลาะกับนางสาวแอมและนางสาวแอมก็มักชวนไปทำบุญปล่อยปลาและไปดูดวงกันบ่อย แล้วก็ชอบพากันไปดูร่างทรง


วันเกิดเหตุ 10 สิงหาคม 2565 พบว่านางสาวแอมเดินทางมาที่มหาชัยมาซื้ออาหารทะเล โดยเจ๊น้อยได้ขึ้นรถไปด้วยกับแอมจากนั้นก็กลับมาที่ร้านขายผักและ ได้มาขอกล่องโฟมที่ร้านเพื่อใส่อาหารทะเล แต่นางสาวแอมจอดรถส่งเจ๊น้อย และลงจากรถมา มีถือถุงอาหาร 2 ถุง ไม่รู้อะไร จากนั้น ก็กินที่โต๊ะ แล้ว ชักเกร็งน้ำลายฟูมปาก จากนั้นก็นำส่งโรงพยาบาล หมอบอกว่าไม่มีอ๊อกซิเจนในเลือด ทำให้หัวใจวาย


“ผมคาใจมาตั้งแต่แรกวันเกิดเหตุเพราะเจ๊น้อยเป็นคนแข็งแรง และยังบอกว่าวันนั้นจะขับรถไปจากมหาชัยไปราชบุรีเพื่อไปหาตนเอง ซึ่งการตั้งข้อสงสัยนอกจากการเสียชีวิตที่เป็นปริศนาแล้วยังพบว่าก่อนที่จะเสียชีวิตเจ๊น้อยมีการโอนเงินให้นางสาวแอมจำนวน 60,000 บาท”


ซึ่งเรื่องเงินนั้นไม่รู้ว่ามีการโอนให้กันยืมกันเป็นจำนวนเท่าไหร่ เพราะแอม และเจ๊น้อย จะรู้กันอยู่สองคน แต่มีช่วงหนึ่งที่แอมเกิดปัญหาเรื่องการเงินแล้วมาขอให้เจ๊น้อยช่วย โดยการนำที่ดินไปจำนองในราคา 600,000 บาท และนางสาวแอมจะขอยืมเจ๊น้อยจำนวน 300,000 บาท แต่ตนห้ามไว้ไม่ให้ไปจำนอง และเจ๊น้อยเคยนำรถไปจำนำกับ นางสาวแอมในราคา 100,000 บาท เพียงระยะเวลาไม่กี่เดือน นางสาวแอมบอกจะเอารถคืน ต้องจ่าย 400,000 บาทซึ่งตอนนั้นตนก็ยอมจ่ายให้กับนางสาวแอมเพราะต้องการจบเรื่องไม่อยากมีปัญหา


หากมองความสัมพันธ์แล้วเจ๊น้อยกับแอมสนิทกันมาก ทั้งๆ ที่เพิ่งรู้จักกันได้ไม่นานแต่ดูรักและเป็นห่วงมากโดยเฉพาะแอมจะซื้อของมาให้เจ๊น้อยเป็นประจำโดยไม่คิดเงินดูแลห่วงใยกันมาตลอด และ เจ๊น้อยจะบอกเสมอว่าแอมเป็นคนนิสัยดีและใจดี


ผมไม่คิดอยู่แล้วว่าเจ๊น้อยจะมีอาการป่วยกะทันหันจนทำให้เสียชีวิตแบบเฉียบพลัน แต่ตอนนั้นไม่รู้จะทำอย่างไร และไม่เคยคิดว่าเจ๊น้อยจะถูกวางยา ตอนแรกยอมรับว่า รู้สึกแปลกใจสาเหตุการเสียชีวิต เพราะภรรยาของตนก็แข็งแรงดี แต่จู่ๆ กลับเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น กระทั่งมีข่าวของนางสาวก้อยที่เสียชีวิตปริศนา จริงตั้งข้อสังเกตว่าภรรยาของตนก็อาจจะถูกกระทำการลักษณะดังกล่าวด้วยหรือไม่


โดยแพทย์วินิจฉัยสาเหตุการเสียชีวิต ของเจ๊น้อยว่าเกิดจากภาวะเลือดเป็นกรด และชัก ทางครอบครัวตั้งข้อสังเกตว่า วงแชร์ดังกล่าวตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 65 แต่ผ่านมาเพียง 6 วัน กลับเสียชีวิต ซึ่งเสียวันเดียวกันกับ “พี่นุ้ย ตร.” หรือ “ผู้กองนุ้ย” หรือ ร้อยตำรวจเอกหญิงกานดา ซึ่งเป็นเรื่องที่บังเอิญมากเกินไป


ทางด้านลูกน้องเจ๊น้อย คนที่อยู่ในเหตุการณ์ และเข้าช่วยเจ๊น้อย บอกว่า รู้สึกเสียใจมาก ที่มารู้ว่าเจ๊น้อยถูกวางยาจากฝีมือของเพื่อนเจ๊เอง โดยวันเกิดเหตุตนเองเห็นเจ๊น้อยนั่งกิน สลัดที่ถือมาจากข้างนอกจากนั้นนั่งกินไปด้วย ทำงานไปด้วย


แต่กินได้ไม่นานไม่ถึงสามคำก็พบว่าเจ๊ล้มหน้าคว่ำลงกับพื้นจากนั้นมือชักเกร็งแล้วก็พูดไม่ได้และน้ำลายฟูมปากไหลออกมาจากปากจากนั้นก็ปากเขียวม่วงมัไม่สามารถสื่อสารอะไรได้ตนจึงรีบพยุงขึ้นและเรียกรถโรงพยาบาลมารับตอนนั้นก็แปลกใจ ว่าเจ๊เป็นอะไรเพราะปกติเป็นคนแข็งแรงมากและการที่น้ำลายฟูมปากเหมือนกับการถูกยาพิษแต่ไม่รู้ว่าเป็นอะไร ยังเข้าใจว่าหรือเป็นการแพ้อาหารเพราะ


มาวันนี้รู้ว่าเจ๊อาจจะถูกวางยาจนเสียชีวิตก็เสียใจมาก เพราะเจ๊น้อยเป็นคนดีและช่วยเหลือลูกน้องรักลูกน้องทุกคน หากเจ๊ยังอยู่เจ๊ก็จะดูแลลูกน้องและหลานเป็นอย่างดีวันนี้จึงจะขอไปให้การกับตำรวจเพื่อให้ตรวจสอบว่าเจ๊น้อยถูกวางยาหรือไม่ ทุกวันนี้ยังมีรูปเจ๊น้อยวางอยู่ที่เคาน์เตอร์ข้างโต๊ะทำงานลูกน้องทุกคนในร้านก็ยังคิดถึงและนึกถึงวันที่เกิดเหตุหากเป็นไปได้อยากขอให้คนที่ทำกับเจ๊น้อยได้รับโทษสูงสุด


ขณะเดียวกันช่วงวันเกิดเหตุ ปรากฏว่ากล้องวงจรปิดของร้าน ที่ส่องมาเห็นถึงจุดที่เจ๊น้อยเสียชีวิต ถูกใครไม่รู้ ถอดปลั๊กกล้องวงจรปิดออกไป ทำให้ไม่มีภาพเหตุการณ์ที่บันทึกไว้ช่วงก่อน ระหว่าง และหลังเกิดเหตุ


หลังจากได้พูดคุยกับครอบครัวของเจ๊น้อยแล้ว ทางด้านลูกสาว และอดีตสามีได้มาปรึกษากับมูนิธิวินวิน อยากจะขอให้ตำรวจหรือคดีและดำเนินการตามกฏหมาย แต่กังวลว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมเนื่องจากนางสาวแอมมี่สามีเป็นตำรวจและเป็น ผู้กว้างขวางจึงเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม


ทางด้านลูกสาวเจ๊น้อยได้นำเอกสารหลักฐานการเสียชีวิตโทรศัพท์มือถือมาให้ตำรวจ ลูกสาว บอกว่า ไม่เคยเจอนางสาวแอมแต่รู้จักว่าแม่สนิทสนมและรักนางสาวแอมมากต้นจะเรียกนางสาวแอมว่าป้าแอม ตอนที่แม่เสียชีวิตต้นก็ไม่ได้ติดใจว่าจะมีคนทำให้แม่เสียชีวิตจนกระทั่งมาเห็นข่าวแล้วมาดูว่าแม่ของตนเองนั้นเสียชีวิตในลักษณะคล้ายกันและตนเองก็คาใจมาตลอดว่าเหตุใดอยู่ดีๆแม่ถึงเกิดอาการแบบนั้น


ลูกสาวเจ้น้อยบอกว่า “การกระทำของนางสาวแอม ไม่ได้ฆ่าแค่แม่คนเดียวแต่มีหลายคน  ตลอดระยะเวลา 17 ปีที่ผ่านมาแม้ว่าครอบครัวของตนเองพ่อแม่จะแยกทางกันแต่ตนก็มีแม่ที่คอยดูแลมาตลอดให้คำปรึกษาและความอบอุ่นพอมาวันนี้ไม่มีแม่ชีวิตมันเคว้งคว้าง ไม่ตายก็เหมือนตาย”


สำหรับวงแชร์มรณะนี้พบผู้เสียชีวิตสามรายรายที่สามชื่อว่าครูอ๊อด ทีมข่าวเรื่องเล่าเช้านี้ได้พูดคุยกับนางสาวสนุ้ก ซึ่งเป็นน้องสาวของครูอ๊อด เปิดใจเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นว่าครูอ้อด ไปรู้จักกับนางสาวแอมผ่านทางโซเชียล ซึ่งทั้งสองคนสนิทกันมาก จะคุยโทรศัพท์กันทุกวัน คุยทุกเรื่องเปิดใจ จากนั้นนางสาวแอมก็ชวนเล่นแชร์และช่วงที่รู้จักกับนางสาวแอม พี่สาวมีเรื่องปัญหาการเงิน นางสาวแอมก็เหมือนมาช่วยและเป็นเหมือนที่ปรึกษา ส่วนเรื่องการยืมเงินกันนั้นไม่มีใครรู้เพราะว่าหลักฐานอยู่ในโทรศัพท์มือถือของพี่สาว


หลังจากพี่สาวเสียชีวิตไปนางสาวแอม ก็ลบแชทที่เคยแชทกับพี่สาวและส่งภาพสลิปการโอนเงินก็ยกเลิกข้อความทั้งหมดทำให้ไม่สามารถรู้ว่าพี่สาวได้คุยอะไรกับนางสาวแอมและเรื่องเงินก็ไม่มีใครรู้


ซึ่งครูอ๊อด เสียชีวิตวันที่ 25 พฤศจิกายน 2565 ทางครอบครัวไม่มีใครแจ้งนางสาวแอม แต่อยู่ดีๆ ก็ไม่รู้ว่านางสาวแอมรู้เรื่องได้อย่างไร ว่าพี่สาวตนเองเสีย นางสาวแอมเดินทางมาที่บ้านเป็นคนที่ 4 เรื่องนี้ก็แปลกใจ ส่วนสาเหตุการเสียชีวิต ตอนแรกไม่ได้ติดใจอะไรเพราะรู้ว่าครูอ๊อดป่วยเป็นมะเร็งเม็ดเลือด วันที่ 24 พฤศจิกายน 2565 จะต้องเดินทางไปพบแพทย์เพื่อรับคีโม


ช่วงเย็นของวันที่ 24 พ.ย. 65 ครูอ๊อดได้ขับรถไปส่งเพื่อนจากนั้นจะเดินทางไปหาลูกชายที่บ้านของอดีตสามีซึ่งใช้ระยะเวลาเพียง 15 นาที ในการเดินทางแต่ปรากฏว่าวันนั้นใช้ระยะเวลาเดินนาน กว่า1ชั่วโมง ครอบครัวตั้งข้อสังเกตว่าช่วงเวลาที่หายไปนั้นครูอ๊อดได้ไปพบกับใครหรือไม่


จนกระทั่งเช้าวันที่ 25 พฤศจิกายน พ่อเห็นว่าพี่สาวไม่ยอมตื่นจะไปพบแพทย์ จึงลงไปปลุกเคาะประตูเรียกอย่างไรก็ไม่เปิด จนต้องพังประตูเข้าไปก็พบพี่สาวนอนอยู่หน้าห้องน้ำในสภาพมือหงิก ที่ปากมีน้ำลายฟูมปาก ปากเป็นสีเขียว


ซึ่งตอนแรกครอบครัวไม่ได้ติดใจการเสียชีวิตเพราะพี่สาวมีโรคประจำตัวมะเร็งเม็ดเลือดขาวอยู่แล้ว แต่มีการชันสูตรศพถามว่าขณะที่เขาเสียชีวิตไม่มีใครรู้ว่ามีอาการและผลชันสูตรออกมาลักษณะการเสียชีวิตขาวกับเคสของคุณก้อยและคนอื่นๆ


ด้วยความที่แปลกของนางสาวแอมที่บอกว่ารักพี่สาวเรามาก ก็ไม่เข้าใจว่ารักพี่สาวมากแต่ทำไมถึงต้องทำเช่นนี้ ในตลอดระยะเวลาที่นางสาวแอมและครูอ๊อดรู้จักกันนั้น ทั้งสองคนรักกันมากถึงขั้นตายแทนกันได้จริง แต่แปลกที่คนสนิทและคนในครอบครัวไม่มีใครรู้จักนางสาวแอม


สำหรับการจัดงานศพ 7 วัน ก็พบว่าตลอดการจัดงานนางสาวแอมไม่เคยเดินทางมาโดยอ้างว่าทำใจไม่ได้และมาวันเผา ซึ่งหลักฐานที่จะระบุว่าครูอ๊อดก่อนจะเสียชีวิตได้อยู่กับนางสาวแอมหรือไม่ไม่มีหลักฐานยืนยัน จนกระทั่งมาพบกรณีการเสียชีวิตของนางสาวก้อยจึงเริ่มสงสัยพฤติกรรมของนางสาวแอมว่าพี่สาวจะเป็นเหยื่อของการวางยาของนางสาวแอมหรือไม่


ขณะที่พ่อกับแม่ของครูอ๊อด เมื่อวานนี้ (26 เม.ย.) อยู่ด้วยตอนที่เจ้าหน้าที่เข้าเก็บหลักฐานในห้องนอนของครูอ๊อด ด้านคนเป็นแม่ เปิดเผยว่าตอนลูกสาวเสียชีวิตคนในครอบครัวไม่มีใครติดใจสงสัยเนื่องจากลูกตรวจพบว่าเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวระยะเฉียบพลัน และยังไม่ทันได้ให้คีโม จึงคิดว่าเสียชีวิตด้วยโรคประจำตัว พอมีข่าวว่าอาจเป็นการฆาตกรรมต่อเนื่อง ทางแม่ครูอ๊อดคิดว่าถ้าตำรวจสามารถหาพยานหลักฐานได้ก็ให้เอาผิดตามกฎหมาย


ส่วนแรงจูงใจในการก่อเหตุกับครูอ๊อด ผู้เป็นพ่อให้ข้อมูลที่น่าสนใจ คือ ครูอ๊อด หลังจากเสียชีวิตจู่ๆ ก็มีเจ้าหนี้มาทวงเงินถึงบ้าน 3-4 เจ้า ทั้งหนี้บัตรเครดิตที่ครูอ๊อดกดเงินสดออกมาประมาณ 100,000 บาท, ไหนจะเงินกู้สหกรณ์ 600,000 บาท, กู้คุณครูที่โรงเรียนบ้านคลองโยง 80,000 บาท, กู้แม่ค้าในตลาดอำเภอเมืองนครปฐม อีกหลายแสนบาท ซึ่งจำนวนนี้ทางนางสาวแอม เคยเดินทางมาทวงถึงที่บ้านด้วย แต่พ่อของครูอ๊อด ไล่ตะเพิดเจ้าหนี้ทุกราย


ทางด้านแต้ว 1 ในผู้รอดชีวิตวงแชร์มรณะ แอม ไซยาไนด์ ได้เปิดเผย ข้อมูลกับทีมข่าวว่า ตอนนี้อาการปลอดภัยแล้ว รู้จักกับแอมผ่านรุ่นพี่ โดยบอกกับแต้วว่าถ้ามีงานก็ให้นำมาทำธุรกิจดีกว่าอยู่เฉยๆ แต้วจึงตัดสินใจโอนเงินให้แอมลงทุน จากนั้นก็ได้ผลตอบแทนคืนมา หลังจากนั้นแอมชวนมาเล่นวงแชร์รายได้กำไรดี เป็นรายสัปดาห์ ตัวเองตั้งใจขอเป็นมือสุดท้ายเพื่อจะกินดอกเบี้ยอย่างเดียว แต้วจ่ายเงินจนถึงช่วงหนึ่ง จึงสังเกตว่าทำไมเงียบไปไม่มีการส่งในกลุ่ม จึงถามแอม แอมตอบว่า ส่งไปแล้วในไลน์ส่วนตัว ครั้งแรกจ่ายดอก 5 สิงหา แอมเป็นท้าวแล้วจึงได้เงินไป จน 10 สิงหางวด 2 แอมส่งรูปมาบอกว่า พี่น้อยผัก เสียชีวิตแล้ว จำเป็นต้องยุบวงแชร์


แต้วบอกว่าต้องการขอเงินคืน แอมโอนเงินกลับมาให้ แต่ขอยืมเงินแต้ว 50,000 บาท โดยอ้างว่า พี่น้อยผักยืมเงินไปไม่มีเงินคืน เดี๋ยวจะไปคุยกับแฟนเค้าเพราะรู้ว่าเค้าทำประกันชีวิตไว้ ต่อมาแต้วก็ทวงเงินแอม แต่ก็ยังไม่ได้เงินคืน ตอนแรกไม่เอะใจถึงสาเหตุการตายของพี่น้อย เพราะแอมบอกว่าพี่น้อยมีโรคประจำตัว



รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/FXUoeUu5RI4

คุณอาจสนใจ