อาชญากรรม

ทนายแจง มีหลักฐานยืนยัน ‘แอม’ ไม่ได้วางยาฆ่า ‘ก้อย’ - ‘บิ๊กโจ๊ก’เผยคดีคืบหน้าแล้ว 80% มั่นใจ พยานหลักฐานเอาผิดได้

โดย petchpawee_k

6 พ.ค. 2566

122 views

เฉลยแล้ว! ญาติที่แอมร้องขออยากพบคือทนายความ เดินทางมาพบ “แอม ไซยาไนด์” ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง เชื่อไม่เกี่ยวกับคดีการตายของก้อย แต่คดีอื่น ๆ อาจเกี่ยวข้องจริง ยืนยันแอมไม่รับสารภาพแน่นอน

วานนี้ (5 พ.ค.) เวลา 10.30 น. นางสาวธันย์นิชา เอกสุวรรณวัฒน์ ทนายความของแอมเดินทางมาที่ทัณฑสถานหญิงกลาง เพื่อเข้าพบกับ แอม ลูกความของตัว หลังจากที่พนักงานสอบสวนชุดคลี่คลายคดีติดต่อไปว่า นางสาวแอม อยากพบ แต่ไม่ได้บอกว่าอยากพบเพราะอะไร

พร้อมระบุว่าวันนี้จึงตั้งใจมาหาตามคำขอ พร้อมทั้งแจ้งสิทธิ์ ให้ลูกความทราบ โดยยังคงยืนยันว่าลูกความตัวเองไม่ได้กระทำความผิดในคดีการเสียชีวิตของนางสาวก้อย ซึ่งทนายเองก็ยืนยันว่ามีหลักฐานชัดเจนเช่นเดียวกัน ว่านางสาวแอมไม่ได้วางยาฆ่า นางสาวก้อย  

แต่ในส่วนคดีอื่นๆ อีก 10 กว่าคดี ทนายความบอกว่ายังไม่ได้พูดคุยกับแอม แต่จากหลักฐานพยาน ที่สื่อมวลชนแต่ละสำนักมีการนำเสนอก็เชื่อได้ว่าแอมอาจมีส่วนเกี่ยวข้องจริง ต้องรอวันนี้ที่จะเข้าไปสอบถามข้อเท็จจริง ซึ่งหากพบว่าแอมกระทำผิดจริง ก็จะบอกให้ลูกความยอมรับสารภาพในคดีที่เหลือ

ยกเว้นคดีของนางสาวก้อย ที่ยืนยันว่าจะไม่มีการรับสารภาพในชั้นสอบสวนเด็ดขาด หากจะยอมรับจริงๆ ก็จะไปยอมรับในชั้นศาลเท่านั้น เนื่องจากทางฝั่งแอมเองก็มีพยานวัตถุและพยานบุคคลในคดีก้อย ที่เชื่อได้ว่าไม่เกี่ยวข้องจริง ๆ


เมื่อนักข่าวถามถึงพยานหลักฐานที่ตำรวจมีคือขวดไซยาไนด์ จากบุคคลที่นำมามอบให้กับตำรวจเป็นพยานในคดีนี้นั้น ทนายความระบุว่า ก็คงต้องรอดูการเบิกความพยานคนดังกล่าวว่าจะเป็นบุคคลที่อยู่กับร่องกับรอยหรือไม่

ในส่วนที่ผู้สื่อข่าวถามถึงประเด็น มรรยาททนายความ ว่า หากทนายเห็นว่ามีช่องว่างทางกฎหมายที่เป็นประโยชน์กับลูกความ ก็จะชี้ช่องทางให้หรือไม่ ซึ่งทนายตอบว่า ทุกอย่างที่เป็นประโยชน์กับลูกความก็จะทำทั้งหมด ซึ่งส่วนตัวก็มองว่า แอมไม่น่าจะรับสารภาพอย่างแน่นอน

ยอมรับบุคคลที่แอมร้องขอกับตำรวจว่าอยากพบ คือตัวเอง และตัวเองเป็นบุคคลที่แอมไว้ใจที่สุด โดยบอกว่า รู้จักกันมานานประมาณปีกว่าๆ ที่ผ่านมาปรึกษาทุกอย่างตลอด


ต่อมาทนายธันย์นิชา เปิดเผยภายหลังเข้าพบแอม เป็นเวลา 1 ชั่วโมงครึ่งว่า  วันนี้ได้พูดคุยกับแอมและแจ้งสิทธิแล้วว่าเขาจะให้การหรือไม่ให้การอย่างไรก็ได้ และเมื่อแอมได้เจอกับตนเองก็ไม่ได้เครียด ยิ้มแย้มปกติ


ส่วนทางคดีวันนี้แอมยัง รับทราบข้อกล่าวหาไม่ครบทุกคดี รับทราบไปเพียง 8 คดีเท่านั้น ซึ่งแอม ได้ให้การปฏิเสธในทุกคดี และขอไปให้การในชั้นศาล พร้อมบอกกับตนเองมาว่า หลังจากนี้ ขอไม่ต้องให้ใครมารบกวนเขาอีก ขอให้มีแค่ทนายความมาได้เพียงคนเดียว เนื่องจากเขาไม่อยากลงมาพบบ่อยๆ อยู่ในช่วงตั้งครรภ์ด้วย


ส่วนในวันนี้ (6 พ.ค.) ที่ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะเข้ามาพบนั้น ตนเองก็บอกไปว่าให้แอมรายงานท่านไปเหมือนวันนี้ให้ท่านได้ยินด้วยตนเอง


พร้อมยอมรับว่าที่ พันตำรวจโทวิฑูรย์ รังสิวุฒาภรณ์ หรือ รองอ๊อฟ อดีตรองผู้กำกับการสอบสวน สภ.สวนผึ้ง ซึ่งเป็นอดีตสามีของแอมเข้ามาพบนั้น ทำให้แอมเครียด และรู้สึกอ่อนไหว ซึ่ง รองอ๊อฟ ก็มาพูดคุยกันดี ส่วนมากจะถามไถ่ว่าเป็นยังไงบ้างและบอกว่าครอบครัวเดือดร้อน และส่วนมากจะพูดคุยถึงเรื่องที่บ้านและครอบครัวมากกว่า

ทั้งนี้ นอกจากเรื่องคดี แอมยังฝากบอกว่า ตนเองก็ดีใจที่ลูกสาวได้ไปอยู่อีกจังหวัดหนึ่งแล้ว และไม่ได้ฝากเรื่องให้ดูแลลูก เพราะตนเองไม่เลี้ยงเด็กและเขาอยู่ไกล แต่ตนเองก็บอกให้สบายใจได้ ตนเองไม่ทิ้งแอมแน่นอน ถ้าไม่มีเงินไม่เป็นไรที่จ่ายมาแล้วก็จะทำให้เต็มที่


 พร้อมทั้งตนเองยังบอกแอมอีกว่า “อย่างดีก็แค่ประหารชีวิต และข้อหานี้ ถ้าจะประหารชีวิตก็จะต้องสุดๆ จริงๆ ชีวิตเรามีเพียง 1 ชีวิต หากจะรับสารภาพอันหนึ่งก็จะมีผลต่อคดีอื่น ๆ ด้วย และคดีมี 3 ศาลหากถึงชั้นฎีกาแล้ว ยังขอถวายฎีกาได้อีก และหากจะประหารชีวิตก็จะต้องสุดจริงๆ” และแอมก็ยืนยันว่าจะสู้คดี และขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น


นางสาวธันย์นิชา ทนายความ ระบุอีกว่า ขณะนี้มั่นใจในพยานหลักฐานที่แอม มีในคดีของก้อย อย่างแน่นอน ส่วนในคดีอื่นๆ ตนเองขอเวลาไปรวบรวมพยานหลักฐานก่อน เพราะตนเองจะเป็นทนายความให้กับแอม ในทุกคดี


ซึ่งตนเองก็ได้ให้กำลังใจแอม ให้สู้ๆ เดี๋ยวออกมาเจอกัน และแอมก็ให้กำลังใจตนเองโดยถามว่า “พี่เหนื่อยมั้ย เลยบอกไม่เหนื่อย” และไม่หนักใจในการทำคดี เพราะมีหน้าที่ในการนำเสนอให้ผู้พิพากษาได้เห็น ส่วนการตัดสิน เป็นอำนาจของศาล การชั่งน้ำหนักพยาน ก็เป็นศาลที่จะใช้ดุลยพินิจเช่นกัน


นางสาวธันย์นิชา ยังกล่าวอีกว่า ขณะนี้กำลังรวบรวมหลักฐานฟ้องคนที่โพสต์หมิ่นประมาทแอม ใช้คำพูดถ้อยคำแรงๆ ว่าแอมไปฆ่าคน ส่วนเรื่องบิวตี้ของตน ไม่แคร์ไม่สนใจยืนยันจะไม่ฟ้องชาวเน็ต ความสำคัญอยู่ที่เนื้อคดีหลัก คนที่คอมเม้นต์ว่าหรือบูลลี่ตนนั้นเป็นแค่เรื่องดราม่าเฉยๆ ปล่อยว่างได้ก็ปล่อยวาง

------------------------------------------------------

‘บิ๊กโจ๊ก’ เผย คดี ‘แอมไซนาไนด์’ คืบหน้าไปแล้ว 80% ไม่เข้าสอบปากคำแอมในเรือนจำแล้ว หลังไม่รับสารภาพ ระบุ ไม่มีผล มั่นใจในพยานหลักฐานเอาผิดได้


พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ประชุมติดตามความคืบหน้าคดีแอม ไซยาไนด์ ร่วมกับทีมสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดี ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 โดย ระบุว่า ความคืบหน้าทั้งหมด 15 คดี จากการประชุมฝ่ายสืบสวนสอบสวนมีความคืบหน้าไปมาก พยานหลักฐานที่ยังมีช่องโหว่เหลือไม่เยอะแล้ว และยืนยันได้ว่าพยานหลักฐานขณะนี้ มัดตัวแอมได้อย่างแน่นอน


 ส่วนในวันนี้ (6 พ.ค.) ตนเองจะไม่เข้าไปที่เรือนจำแล้ว เพราะเจ้าตัวเขาไม่รับสารภาพ ซึ่งก็ไม่เป็นไรแต่ยืนยันได้ว่าพยานหลักฐานที่มีเพียงพอแล้ว ส่วนทนายความจะว่าอย่างไรก็ว่าไป เพราะไม่มีทนายความคนไหนที่บอกว่าสู้คดีไม่ได้ ตอนติดคุกทนายเขาไม่ได้ติดด้วย


 และการที่แอมร้องขอพบทนาย ซึ่งระบุว่าเป็นบุคคลที่ไว้ใจนั้น ก็ไม่ได้เกินความคาดหมาย เพราะตนเองไม่ได้รอตรงนี้ เพราะมีการรวบรวมพยานหลักฐานไปถึง 80% แล้ว เขาจะให้การหรือไม่ให้การยังไงก็ไม่มีประโยชน์สุดท้ายเขาจะยอมจำนวนกับหลักฐานพวกนี้เอง

----------------------------------------------------------

‘บิ๊กโจ๊ก’ เผย ‘ไอซ์ ดาราสาว’ อ้างซื้อไซยาไนด์มากำจัดสัตว์มีพิษ ลั่นฟังไม่ขึ้นจ่อเรียกสอบปากคำ ระบุ 8 พ.ค.เชิญ ผอ.กรมโรงงาน ชี้แจงรายละเอียดบริษัทนำเข้าไซยาไนด์ ทั้งหมด

ส่วนประเด็นของ ดาราสาว ‘ไอซ์ ปรีชญา’ ที่สั่งซื้อไซนาไนด์ ทางออนไลน์ไปโดยอ้างว่า เพื่อไปกำจัดสัตว์มีพิษในบ้านนั้น ฟังขึ้นหรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุว่า คงฟังไม่ขึ้นแต่คงต้องเรียกมาสอบปากคำก่อน


และในวันจันทร์ที่ 8 พ.ค. ได้เชิญ ผอ.กรมโรงงาน มาให้ข้อมูลและรายละเอียด ในการนำเข้าไซยาไนด์ และข้อมูลบริษัทที่นำเข้าทั้งหมดด้วยว่าแต่ละบริษัทมีวัตถุประสงค์ใดในการนำเข้ามาบ้าง ซึ่งวัตถุประสงค์หลักคือการนำมาศึกษาวิจัย และนำมาใช้ในอุตสาหกรรมเหมืองแร่


รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/RVKV8t3XUy0

คุณอาจสนใจ