พยานปากสำคัญ เผย แอมเอาถุงสีดำเอกสารนายแด้ พร้อมขวดยาไซนาไนด์ มาฝากไว้และให้ทำลายทิ้ง

ทีมข่าวยังได้พูดคุยกับพยานปากสำคัญที่ แอม นำของกลางและขวดยาไซยาไนด์มาฝากให้ทำลายทิ้งด้วย แต่พยานเอะใจจึงนำส่งตำรวจ



ขณะที่มีรายงานข่าวจากชุดสืบสวนระบุว่า ขวดยาไซยาไนด์ที่ แอม ใช้ก่อเหตุกับนางสาวก้อย ผู้เสียชีวิตรายล่าสุด แอม นำมาฝากไว้กับเด็กวัยรุ่นกลุ่มหนึ่ง ซึ่ง ทีมข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ได้ไปเจอกับเด็กวัยรุ่นกลุ่มนี้ เปิดเผยว่า แอมนำถุงดำที่มีเอกสารของนายแด้มาฝากไว้ ซึ่งในถุงดำมีกล่องพัสดุที่บรรจุขวดยาไซยาไนซ์อยู่ด้วย แต่ทางเด็กวัยรุ่นไม่รู้



หลังจากสื่อเริ่มติดตามทำข่าวและมีมูลว่าอาจเป็นการฆาตกรรมต่อเนื่อง แอมจึงติดต่อไปที่วัยรุ่นกลุ่มนี้อีกครั้ง บอกให้นำถุงดำไปฝัง ไปทำลายทิ้ง ก่อนจะเปลี่ยนใจและติดต่อมาอีกรอบ บอกว่า ให้นำถุงดำมาคืนโดยด่วน , ทางกลุ่มวัยรุ่นรู้สึกเอะใจและเห็นจากข่าวจึงนำของกลางทั้งหมดและขวดยาไซยาไนด์ดังกล่าว มาส่งให้กับตำรวจจนนำไปสู่การออกหมายจับ แอม เมื่อวานนี้




นอกจากนี้ทีมข่าว ได้รับการเปิดเผยจาก น้าชายของนายแด้ บอกว่าวันเกิดเหตุ 12 มีนาคม ที่ผ่านมา ทั้งคู่เดินทางไปเที่ยวและทำบุญ ที่จังหวัดอุดรธานี ก่อนจะได้รับโทรศัพท์จากแอมว่า แด้เป็นลม ล้มหมดสติต้องหามส่งโรงพยาบาลและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งทุกคนได้ก็ตกใจและไม่เชื่อว่าคนแข็งแรงแบบแน่จะเป็นลมจนเสียชีวิต



พอถามแอมก็ให้ข้อมูลไม่ตรงกัน บอกกับน้าชายแด้อีกอย่าง บอกกับแม่แด้อีกอย่าง ทำให้น้าชายรู้สึกสงสัย แต่ตอนนั้นก็ไม่ได้ติดใจเอาความอะไรจนกระทั่งมาเห็นเป็นข่าวใหญ่เชื่อว่าน่าจะเป็นฝีมือของแอมที่ลงมือฆ่าหลานชาย




ขณะที่หลานชายของนายแด้ เป็นคนเปิดโรงดูศพครั้งสุดท้าย ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่าสภาพศพที่เห็นไม่เหมือนกับศพคนเสียชีวิตทั่วไป และจากข้อมูลที่แอมบอกว่า นายแด้ ล้มกระแทกพื้นรุนแรง ซึ่งตามร่างกายไม่มีรอยเขียวฟกช้ำตามที่แอมบอก แต่ร่างกายกลับเขียวม่วงทั้งตัว ทำให้ทุกคนสงสัยว่า แด้ น่าจะโดนวางยา ส่วนแอม เป็นเมียที่กำลังตั้งท้องกับแด้อยู่ จึงไม่มีใครคิดว่า แอม จะเป็นคนลงฆ่านายแด้