อาชญากรรม

สอบเข้ม 2 มือปืน ยิงสนั่นที่ RCA ยันรู้ตัวหมดแล้ว เคยมีเรื่องกันมาก่อน เอาปืนซุก กกน.เข้าร้าน

โดย passamon_a

18 เม.ย. 2566

111 views

ตำรวจเตรียมสอบเข้ม 2 มือปืน ที่ก่อเหตุยิงใน RCA ก่อนนำตัวฝากขัง ยืนยันรู้ตัวคนร้ายทั้ง 2 กลุ่ม ที่ทะเลาะวิวาทในสถานบันเทิง RCA แล้ว ส่วนคนที่เห็นเหตุการณ์ ยืนยันว่าเป็นพฤติกรรมที่น่ากลัว


จากเหตุการณ์ที่มีคนร้ายก่อเหตุใช้อาวุธปืน ยิงภายในสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ใน RCA เมื่อเวลา 00.57 น. วันที่ 17 เม.ย.66 ที่ผ่านมา ด้านถนนฝั่งพระรามเก้า ทำให้นักเที่ยวโดนลูกหลงบาดเจ็บ ต้องหามส่งโรงพยาบาลหลายคน หลังเกิดเหตุตำรวจจับตัวมือปืนได้ทันที คุมตัวสอบสวนที่ สน.มักกะสัน


เมื่อวันที่ 17 เม.ย.66 ทีมข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ ที่ย่าน RCA พระราม 9 มีอุปกรณ์ที่ใช้เล่นน้ำสงกรานต์วางอยู่เป็นจำนวนมาก ไม่มีคนของร้านหรือพนักงาน เข้ามาในพื้นที้ มีเพียงคนงานที่เข้ามาเคลื่อนย้ายเวที ที่ใช้จัดงานสงกรานต์ เอาออกจากพื้นที่เท่านั้น


เบื้องต้นจากการสอบถามคนที่อยู่ที่ใกล้ ๆ กับร้านที่เกิดเหตุ บอกว่าไม่รู้เรื่องราวที่เกิดขึ้น เพราะไม้ได้ทำงานในช่วงที่เกิดเหตุ ส่วนเมื่อสอบถามกับพนักงานคุมเครื่องปั่นไฟ ที่ใช้กับเวทีภายในงานสงกรานต์เมื่อคืนนี้ บอกว่า ตนเองได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด จากนั้นไม่นาน ผู้คนก็แตกตื่นวิ่งหนีกันออกมา ตนเองไม้รู้สาเหตุว่าเกิดจากอะไร แต่ได้ยินคนพูดว่าเป็นเรื่องหึงหวง และไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมนี้ เป็นอันตรายต่อคนอื่น ๆ


ส่วนบรรยากาศที่ สน.มักกะสัน เบื้องต้นผู้ต้องหาคือ นายณัฐนนท์ อายุ 41 ปี และนายณัฐพล อายุ 19 ปี เบื้องต้นมีความผิดในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น และผิด พ.ร.บ.อาวุธปืน ซึ่งตำรวจเตรียมนำตัวทั้ง 2 คน มาสอบปากคำอีกครั้ง เพราะยังไม่ทราบถึงสาเหตุที่แท้จริง เนื่องจากเมื่อคืนนี้ทั้งสองอยู่ในอาการมึนเมา ให้การวกไปวนมา ก่อนที่จะมีการคุมตัวส่งไปฝากขังที่ศาลอาญาต่อไป


ทีมข่าวได้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับ พลตำรวจโท ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และพลตำรวจตรี อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 เปิดเผยตรงกันว่า วันเกิดเหตุหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไว้ได้ พร้อมอาวุธปืน เบื้องต้นได้ทำการสอบปากคำผู้ต้องหาอย่างละเอียดแล้วพบว่าทั้งสองคนอยู่ในอาการมึนเมามาก ยังให้การใด ๆ ได้ไม่มาก จึงได้ทำการเค้นสอบปากคำมาจนถึงช่วงตอนประมาณตี 5 จึงให้ผู้ต้องหาได้พักผ่อนก่อนที่จะนำตัวมาทดสอบอีกครั้ง


ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่าในจุดเกิดเหตุมีการล้างทำความสะอาดในจุดเกิดเหตุจนสะอาด และไม่ได้มีการกันพื้นที่ไว้ ยืนยันว่าหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานให้กองพิสูจน์หลักฐานเข้ามาเก็บพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว


สำหรับการจัดงานในจุดดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจสนมักกะสันได้วางกำลังเจ้าหน้าที่จำนวนหลายนาย ทั้งในและนอกเครื่องแบบเข้าไปควบคุมสถานการณ์ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา เพราะเกรงว่าจะเกิดเหตุในลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้น อีกทั้งยังได้ตั้งจุดคัดกรองไม่ให้นำสิ่งผิดกฎหมายและอาวุธปืนเข้าไปด้านในได้


ทั้งนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะนำข้อมูลการนำอาวุธเข้าไปในบริเวณงานจากผู้ก่อเหตุไปถอดบทเรียน เพื่อวางแนวทางการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุในลักษณะนี้ขึ้นอีก


ขณะที่ พลตำรวจตรีอัฏธพร กล่าวถึงพฤติการณ์ของผู้ต้องหาว่า ทั้ง 2 คน ถืออาวุธปืนคนละกระบอกไล่ยิงกันมา จากถนนด้านหน้าสถานบันเทิง และเมื่อมาถึงหน้าสถานบันเทิง ผู้ก่อเหตุได้ใช้อาวุธปืนยิงเข้าไปในร้านโดนนักท่องเที่ยวจนได้รับบาดเจ็บ ตอนนี้ยังไม่สามารถบอกได้ว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนนั้น เป็นเพื่อนกันหรือไม่ มาพร้อมกันหรือไม่ หรือเป็นคู่อริกันหรือไม่ ซึ่งตำรวจจะต้องไปไล่กล้องวงจรปิดดูอีกครั้ง


นอกจากนี้ จากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาทั้ง 2 พบว่า นายณัฐนนท์ มีประวัติเกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติดในพื้นที่ สน.ดินแดง และนายณัฐพล มีประวัติเกี่ยวข้องกับการลักทรัพย์ ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี


ต่อมาเวลา 16.00 น. ภายหลังการประชุมชุดสืบสวนนาน 2 ชั่วโมง พล.ต.ต.อัฏธพร กล่าวว่า ขณะนี้มีกล้องวงจรปิดที่สามารถจับภาพบริเวณจุดเกิดเหตุ โดยเป็นภาพมุมสูงขณะที่ รปภ.กรูกันเข้าไประงับเหตุได้แล้ว ซึ่งจากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า บริเวณถนนหน้าร้านมีการเช่าพื้นที่จากผู้ที่มีสิทธิ์จากการทางรถไฟเพื่อจัดงานสงกรานต์ดังกล่าว โดยแบ่งกลุ่มคู่กรณีออกเป็น 2 กลุ่ม คือกลุ่มแรกมีจำนวน 10 คน แบ่งเป็นชาย 9 คน หญิง 1 คน กลุ่มที่ 2 มีจำนวน 9 คน แบ่งเป็นชาย 5 คน และหญิง 4 คน และผู้ได้รับบาดเจ็บโดนลูกหลง 4 คน


ผบก.น.1 กล่าวว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้ได้รับบาดเจ็บไปแล้ว 2 ปาก ในฐานะผู้เสียหาย โดยตรวจสอบสถานบันเทิงออนิกซ์ ได้มีการขออนุญาตการเปิดสถานบริการตามข้อ 3 (1) อยู่ในเขตโซนนิ่ง โดยปิดให้บริการถึงเวลา 02.00 น. ส่วนการเอาผิดกับสถานบันเทิง จุดเกิดเหตุอยู่บริเวณด้านหน้าร้าน ต้องมีการตรวจสอบว่า มีการควบรวมกับทางร้านหรือไม่ เพราะทราบว่า อาหารก็มีพนักงานของร้านออนิกซ์เป็นคนนำมาเสิร์ฟ การเก็บเงินก็เป็นของร้านออนิกซ์ ซึ่งจะต้องมีการสอบให้ครบทุกมิติ


พล.ต.ต.อัฏธพร กล่าวว่า โดยขณะนี้ได้รับการติดต่อจากคู่กรณีทั้งสองฝ่ายที่จะเข้ามาให้การกับทางเจ้าหน้าที่ จากการสอบสวนถึงสาเหตุความขัดแย้งนั้น ทราบว่าทั้ง 2 กลุ่มอยู่ฝั่งธนบุรีและมีความขัดแย้งกันมาก่อน แต่ยังไม่มีการลงลึกในประเด็นว่า มีการตามมาหรือไม่หรือมาเจอโดยบังเอิญ ซึ่งจะต้องมีการสอบสวนอีกครั้ง


ส่วนที่ผู้ต้องหาติดต่อว่าจะขอเข้ามอบตัวนั้นเป็นเพียงการกล่าวอ้าง อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจรู้ตัวรู้ชื่อคู่อริทั้ง 2 กลุ่มแล้ว ใครทำหน้าที่อะไร ใครมาจองโต๊ะ ใครจ่ายเงิน สามารถระบุได้หมด โดยทางฝ่ายป้องกันและปราบปราม สน.มักกะสัน ได้ไปเอาใบเสร็จกับทางร้านเพื่อมารวบรวมประกอบสำนวน ขณะนี้ยังไม่มีการให้ประกันตัวผู้ต้องหาแต่อย่างใด เนื่องจากยังอยู่ระหว่างการสอบสวน


ผบก.น.1 กล่าวว่า จากภาพคลิปวงจรปิดพบเห็นประชาชนที่ทำการไลฟ์สดและถ่ายรูปเซลฟี่ จึงขอให้ประชาชนที่มีคลิปภาพในจุดเกิดเหตุ ส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่เพื่อเป็นข้อมูลทางเจ้าหน้าที่จะเก็บไว้เป็นความลับ และหากมีผู้บาดเจ็บเพิ่มเติมอีก ขอให้มาแสดงตัวเพื่อเป็นประโยชน์แก่ตัวท่านเองในการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย ทั้งนี้พนักงานสอบสวนจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด


ขณะเดียวกันทีมข่าวได้คุยกับ นายภัควัฒน์ หรือ ปอนด์ หนึ่งในคนที่เข้าไปเที่ยวที่สถานบันเทิงย่าน RCA และอยู่ในช่วงเวลาที่เกิดเหตุยิงกัน เปิดเผยกับทีมข่าวว่า วันเกิดเหตุตนกับเพื่อนรวม 6 คน ก็ไปเที่ยวเล่นน้ำกัน แต่ตอนแรกเล่นอยู่ที่ฝั่งตรงข้าม จนถึงประมาณ 23.30 น. จึงย้ายไปเล่นต่อที่ RCA โดยตนนั่งอยู่โต๊ะโซนด้านนอกใกล้กับจุดเข้าออก ไม่ได้นั่งอยู่ลึกมาก ก็เปิดโต๊ะแล้วเล่นน้ำกันตามปกติ พอช่วงประมาณเที่ยงคืนกว่า อยู่ ๆ เพลงก็ดับ ทุกอย่างเงียบ คนก็งงกัน ตอนแรกตนยังคิดว่า ร้านปิดแล้วหรอ ทำไมถึงปิดเร็วก่อนเวลา


แต่สักพักก็เริ่มมีคนที่อยู่ด้านในวิ่งกรูกันออกมา แล้วมีการซุบซิบพูดคุยกัน ตอนแรกตนคิดว่ามีคนมีเรื่องชกต่อยกันแค่นั้น แต่พอมีการ์ดเดินมา ตนก็เลยถามว่าข้างในมีเรื่องอะไร การ์ดก็บอกว่า ข้างในมีคนยิงกัน พอรู้ตนก็ตกใจ กลัวไปหมด รีบพากันหนีออกมา ซึ่งคนก็เยอะมาก ค่อนข้างชุลมุน ทุกคนพากันหนีออกมาข้างนอกจนหลงกับเพื่อนไปหมด แต่คำถามที่เกิดขึ้นตอนนั้นคือคิดอยู่แค่ว่า ปล่อยให้มีปืนเข้ามาได้ยังไง


ทั้งนี้ ตอนที่เกิดเหตุ ตนไม่ได้ยินเสียงปืนเลย เพราะว่าเสียงเพลงดังมาก และตนก็ไม่ได้สังเกตเห็นความผิดปกติอะไรก่อนเกิดเหตุ เพราะทุกคนกำลังสนุกกับการเล่นน้ำ ซึ่งตนก็ไม่รู้เลยว่า เหตุเกิดตรงไหน แต่เชื่อว่าต้องเป็นด้านในแน่ ๆ เพราะคนวิ่งกรูกันออกมาจากด้านใน อีกทั้งจุดที่ตนอยู่ นั้นก็ใกล้กับหน้าร้าน แต่ตนไม่ได้ยินเสียงปืน แต่ตนไปเห็นคลิปของคนที่อยู่ด้านใน ว่าได้ยินเสียงปืนชัดเจน


คุณปอนด์ เล่าเพิ่มเติมว่า ตอนที่จะเข้าไปด้านในนั้น จะมีการตั้งจุดตรวจบัตรประชาชนก่อน พอตรวจบัตรแล้ว ถึงจะเลี้ยวขวาเข้าไปเพื่อซื้อบัตรเข้างานราคา 500 บาท พอได้ริสแบนด์แล้ว จึงจะถึงจุดตรวจคัดกรองอาวุธ ซึ่งจะมีการ์ดอยู่ประมาณ 3-4 คน วิธีการตรวจก็จะให้ยกมือขึ้นแล้วจับคลำตามตัว แต่ก็ไม่ได้จับทุกส่วน และไม่ได้มีการใช้เครื่องสแกนโลหะ มีเพียงซุ้มประตูที่ไม่รู้ว่าใช้สแกนโลหะด้วยหรือไม่ โดยตนเองเข้าไปแล้วออกมา ก่อนจะเข้าไปอีกรอบ พบว่ารอบแรกมีการตรวจเข้มงวด แต่พอรอบสอง คนค่อนข้างเยอะ ตนก็รู้สึกว่า การ์ดตรวจไวขึ้น จับแบบเร็ว ๆ


ส่วนข้อมูลที่บอกว่าผู้ก่อเหตุซ่อนปืนไว้ที่เป้านั้น คุณปอนด์บอกว่า ไม่ได้มีการตรวจถึงขนาดนั้น เพราะหากทุกคนโดนจับโดยคลำที่เป้าก็คงไม่มีใครโอเค ซึ่งตนก็มองว่า ทางร้านควรเพิ่มมาตรการในการคัดกรองอาวุธ ด้วยการใช้เครื่องสแกนโลหะ มาสแกนตามร่างกาย ก็น่าจะรัดกุมมากกว่านี้


และนอกจากทางเข้าออกทางหลักแล้ว คนที่มีริสแบนด์แล้ว ก็สามารถเข้าออกอีกจุดได้ด้วย ซึ่งจุดนั้นตนไม่ได้ใช้เข้าออก เลยไม่รู้ว่ามีการตรวจคัดกรองเหมือนกับด้านหน้าหรือไม่ แต่ก็เห็นว่ามีการ์ดยืนอยู่


คุณปอนด์ บอกอีกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเหตุการณ์ที่น่ากลัว และทุกคนก็ไม่เข้าใจกันว่าสถานที่แบบนี้ ปล่อยให้มีการนำปืนเข้าไปได้อย่างไร โดยค่าบริการ ค่าเปิดโต๊ะ ก็ไม่ใช่ถูก ๆ อย่างตนเองเปิดโต๊ะไป 7,000 บาท เที่ยวได้แค่ไม่นานก็มาเกิดเหตุ ทั้งกลัวและก็เซ็งด้วย โดยหลังจากนี้ หากจะไปเที่ยวอีกก็กลัวแต่ก็คงต้องระวังตัวเอง เพราะไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/sm6vrdvRJ0Y

คุณอาจสนใจ