'บิ๊กตู่' ควงแกนนำ รทสช. ทำบุญสงกรานต์ 3 วัดรวด - โผล่เซอร์ไพรส์ เล่นน้ำถนนข้าวสาร

เมื่อวันที่ 14 เม.ย.66 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานยุทธศาสตร์ และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมด้วย นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค นายเอกณัฐ พร้อมพันธ์ เลขาธิการพรรค นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชา และนางสาวศิลัมพา เลิศนุวัฒน์ ผู้สมัครเขตคลองสาน ลงพื้นที่ทำบุญเทศกาลสงกรานต์ โดยวัดแรกคือวัดพิชัยญาติการามวรวิหาร เขตคลองสาน มีพระพุทธรูปเก่าแก่ สมเด็จพระสิทธารถพุทธเจ้า หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า หลวงพ่อสมปรารถนา  


โดยพลเอกประยุทธ์ สวมเสื้อมัดย้อมสีฟ้าครามสดใส ซึ่งทันทีที่เดินทางถึง มีประชาชนและแฟนคลับที่มาทำบุญ รอต้อนรับ พร้อมรดน้ำขอพร อยู่บริเวณทางเข้า โดยระหว่างที่ พลเอกประยุทธ์ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ยังบริเวณจุดต่าง ๆ ประชาชนได้ตะโกนให้กำลังใจนายกรัฐมนตรีอยู่ตลอดเวลา ว่าลุงตู่สู้ ๆ ลุงตู่เบอร์ 22 พร้อมชมว่าตัวจริงหล่อกว่าในทีวี


พล.อ.ประยุทธ์ เปิดเผยว่า วันนี้ตนเดินทางมาขอพร ให้ประเทศชาติบ้านเมือง วันนี้มันสงบอยู่หรือไม่ มีประชาชนจำนวนมากเดินทางท่องเที่ยว โดยภายหลังจากที่พลเอกประยุทธ์ สักการะบูรพะมหากษัตริย์ ได้ระบุว่า เห็นหรือไม่ พระองค์ท่านทั้งหลายได้ทำสืบทอดกันมา ดังนั้นเราควรที่จะทำสืบทอดต่อกันไปไว้ให้คนรุ่นหลังของเรา ก่อนที่จะบอกว่า อย่าลืมเลือกเบอร์ 7 นะ แล้วอย่าลืมเลือกเบอร์ 22 ให้นายก พร้อมทำท่าสัญลักษณ์ Y2K ซึ่งเป็นเชิงสัญลักษณ์หมายเลข 22 ของพรรครวมไทยสร้างชาติ บอกนี่คือประเทศไทยของเราประกอบด้วย ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์


จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้ทักทายประชาชนที่มาปฏิบัติธรรม ว่า วันนี้ทุกคนมารักษาศีล นอกจากทำให้ตัวเองและครอบครัวแล้ว ก็ช่วยกันทำเพื่อประเทศชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ ผมเองก็ทำหน้าที่ อธิษฐานให้ครอบครัวตัวเอง แต่อย่าลืมต่อท้ายอธิษฐานให้คนอื่นด้วย ผมก็ศึกษามาว่าทั้งหมดนั้นคือกุศล เผื่อแผ่แบ่งปันให้กับคนอื่น ความรู้สึกที่กับดี ๆ ให้คนอื่น ผมคิดว่าบรรยากาศทุกอย่างก็จะดีขึ้น วันนี้ก็ดีใจ ขอให้ทุกคนได้สมปรารถนา ในสิ่งที่ตั้งใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปฏิบัติธรรมในวันนี้ จะได้มีกุศลสร้างสมไปเรื่อย ๆ ไม่ว่าชาตินี้ชาติหน้าอยู่หรือเปล่าก็แล้วแต่ แต่ทำวันนี้ให้ดีที่สุดก็แล้วกันเพื่อบ้านเมือง


พร้อมกันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังบอกว่า เห็นอาหารแล้วก็น่าทานของโปรดทุกอย่าง ขณะที่ประชาชนที่มาปฏิบัติธรรมจับมือ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ บอกจับได้หรือเปล่า เขาไม่ให้จับไม่ใช่หรือ เสียศีลไปแล้ว แต่ไม่เป็นไรต่อศีลได้ พระท่านเตือนว่าอย่าจับมือใครเผลอแป๊บเดียว จับไปแล้ว ก่อนจะบอกว่า ไม่อยากทำให้ทุกอย่างเสียหายวุ่นวาย แต่ไม่เป็นไรหรอก อยู่ที่จิตใจ จิตใจเราตั้งมั่น อนุโมทนาไปกับทุกคน


แล้วเราจะรู้ เราเกิดมาเพื่อทำอะไรหาให้เจอ ต้องหาวิธีการที่ดีที่สุดให้ถูกต้องเพื่อชาติบ้านเมือง สิ่งสำคัญที่สุดคือการทำความดี ทำความดีจากหัวใจ เพราะเป็นสิ่งที่มีทุกคนใครไม่มีหัวใจไม่ได้ หัวใจมีไว้รักตัวเอง รักคนอื่น และรักสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ หัวใจดวงเดียวนี่แหละ คือพลังสำคัญของพวกเรา อะไรจะสำเร็จก็เกิดขึ้นกำหนดใจของเรา อย่างที่ศาสนาสอน ขอให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ประเทศไทยมีความก้าวหน้า เป็นความก้าวหน้าที่ทุกอย่างจะต้องมีความมั่นคงทและยั่งยืน ถ้าทำอะไรผลีผลามมันก็ล้มทั้งหมด เพราะประเทศไทยมีหลายโครงสร้างด้วยกัน ทั้งความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม


พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า เลขมันมีเลข 1 ถึงเลข 10 กับเลข 7 จำไว้แล้วกัน พื้นที่ พูดได้หรือเปล่านี่ ถ้านึกถึงนายก ถ้านึกถึงผมก็ 22 มีแค่ 2 เบอร์เท่านั้นแหละกาให้ถูกก็แล้วกัน ถ้ารักกันก็ต้องช่วยกันประเทศไทยเป็นของเราทุกคน ไม่ใช่เป็นของนายกคนเดียว ไม่ใช่นายกต้องทำคนเดียว ประชาชนต้องทำกับนายกด้วยจะสำเร็จได้อย่างแน่นอน


อย่างไรก็ตาม แม่ชีผู้ควบคุมและพระ ได้แจ้งเตือนผู้ที่มาปฏิบัติธรรม ที่ไปจับมือ ถ่ายรูปแนบชิดนายกรัฐมนตรี ให้ไปต่อศีลใหม่ในวันนี้ (15 เม.ย.) และตำหนิว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควรไม่งาม


โดยก่อนนายกรัฐมนตรีเดินทางกลับ ได้กล่าวต่อสื่อมวลชนว่าวันนี้ตนขอให้ประเทศชาติและประชาชน ปลอดภัย และขอให้การดำเนินการทางการเมืองของพรรคสำเร็จ พร้อมกล่าวอีกว่า เวลาขอพระขอให้คนอื่นเขาเยอะ ๆ ผลกลับมาที่ตัวเองหมด


เมื่อถามว่าการลงพื้นที่ในครั้งนี้ถือเป็นยุทธศาสตร์การหาเสียงของพรรคใช่หรือไม่ พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า ยุทธศาสตร์อะไร วันนี้ไม่ต้องไปสงสัยอะไรมากนัก นโยบายอะไรต่าง ๆ ฟังเขาบ้างนะ ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ 3 อย่างไปตามดูก็แล้วกัน


ก่อนที่สื่อมวลชนจะขอให้ทำสัญลักษณ์ Y2K โดยนายกรัฐมนตรีได้ทำท่าและกล่าวติดตลกว่า เดี๋ยวนี้ทำคล่องแล้ว จากนั้นนายกรัฐมนตรีเดินทางไปยังวัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร เขตบางกอกใหญ่ ซึ่งเชื่อกันว่าหากเดินทางไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ยังวัดนี้ จะสร้างความเป็นสิริมงคล ส่งเสริมความก้าวหน้าในตำแหน่งการงาน เพิ่มความแข็งแกร่งให้กับจิตใจตามความเชื่อ  


โดยเมื่อพลเอกประยุทธ์ เดินทางมาถึงวัดหงส์รัตนารามวรวิหาร ได้เข้าสักการะพระเทพปริยัติมุนี หรือ มีชัยวีรปัญโญ หรือ เจ้าคุณมีชัย เจ้าอาวาสวัดหงส์ ซึ่งเป็นพระอาจารย์ที่นายกรัฐมนตรีให้ความเคารพนับถือ รวมทั้งเป็นที่เคารพนับถือของตำรวจทหาร ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ สักการะพระประธาน หลวงพ่อแสนหรือพระแสนเมืองเชียงแตง พระพุทธรูปศิลปะล้านช้าง ประจำพระอุโบสถ จากนั้นได้สักการะหลวงพ่อทองคำสิ่งศักดิ์สิทธิ์เก่าประจำวัด อายุกว่า 700 ปี มีพุทธคุณเรื่องอายุมั่นขวัญยืน


โดยพลเอกประยุทธ์ เปิดเผยภายหลังสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ว่า ขอพรให้ประเทศชาติและประชาชน และขออวยพรให้ตัวเองนิดหน่อยเชื่อมั่นในการทำความดีกุศลที่ดีเพราะจะต้องคุ้มครอง วันนี้ตนมาทำบุญไม่ขอพูดถึงเรื่องการเมือง


พร้อมเปิดเผยถึงการเข้าพบ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เมื่อวานนี้ ที่มูลนิธิป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ว่า พูดคุยกว่า 1 ชั่วโมง ซึ่งก็เป็นการเข้าไปตามปกติเพราะท่านเคยเป็นผู้บังคับบัญชา ก็คุยกันเรื่องเก่า ๆ เรื่องเดิม ๆ สนุกสนานกันดีไม่มีอะไร การเมืองก็ไม่พูดกัน


เมื่อถามว่าได้อวยพรอะไรพลเอกประวิตรหรือไม่ พลเอกประยุทธ์ ระบุว่าก็อวยพรให้ท่านสุขภาพแข็งแรง ประสบความสำเร็จ ฉันจะอวยพรอะไรอย่างอื่นได้มากกว่านี้หรือไง คําอวยพรก็ต้องเป็นแบบนี้ พร้อมย้ำว่าไม่มีการพูดคุยเรื่องการเมือง การเมืองเลิกพูดกัน เคารพเหมือนเดิมแต่ไม่พูดกันเรื่องการเมือง


โดยภายหลังการสรงน้ำพระ ที่บริเวณสระน้ำศักดิ์ และศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า ขอให้การทำงานประสบความสำเร็จ ทำจิตใจให้เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนประเทศก็จะสำเร็จ ๆ ขอให้ทุกคนร่วมกันทำให้ประสบความสำเร็จในการเลือกตั้ง การทำความดีทำได้ตลอดเวลา ทั้งทางจิตใจ ต้องบริหารจิตใจตัวเองให้ดี ซึ่งตนสวดมนต์มาโดยตลอด พยายามสวดให้ได้มากที่สุดพยายามตรวจมาหลายปีแล้ว ก่อนจะบอกว่าตนนั้นบวชเรียนมา 4 ครั้ง โดยเป็นการบวชเณรและบวชพระ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แต่ไม่ใช่วัดหงษ์ ตนบวชที่วัดราชโอรส


เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าหากมีโอกาสจะบวชอีกครั้งหรือไม่ เพราะอายุเยอะแล้ว พลเอกประยุทธ์ กล่าวติดตลกว่าพูดจาไม่สุภาพ ไม่แก่บ้างก็แล้วไป ตัวเองยังไม่แก่มากยังทำประโยชน์ได้อีกพอสมควร สมองยังดีอยู่


พลเอกประยุทธ์ เปิดเผยว่า ได้ขอพรให้ประเทศชาติและประชาชน และอวยพรให้ตัวเองนิดหน่อย และเชื่อมั่นในการทำความดีกุศลที่ดี พระก็ต้องคุ้มครอง


พลเอกประยุทธ์ กล่าวถึงสถานการณ์การเล่นสงกรานต์ที่ถนนข้าวสารว่า ได้สั่งการไปเยอะแล้ว และบางอย่างก็มีหลักการอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องสั่งอะไรเพิ่มเติม แต่เมื่อมีคนเข้ามาเล่นน้ำสงกรานต์ในพื้นที่เยอะ ก็เห็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องวางแผนรับมือ แต่ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับประชาชนด้วยว่าจะเชื่อฟังหรือไม่ ทุกคนอย่างมีกฎหมายทุกตัว คนเป็นพันเป็นหมื่น เจ้าหน้าที่จะสู้ได้หรือ


เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ที่มีบางพรรคการเมืองหาเสียงโดยใช้นโยบายจะแก้มาตรา 112 พลเอกประยุทธ์ถามกลับว่าแล้วพวกเราคิดอย่างไรเล่า ควรไหมเล่า เมื่อสื่อตอบกลับว่าไม่ควร พูดดัง ๆ แล้วเอาไปเขียนอ่านด้วยนะ พร้อมกล่าวต่อว่ามันไม่ใช่เรื่องไม่ใช่เวลา คนทั้งแผ่นดินเขาเทิดทูน แล้วคุณจะทำไปเพื่ออะไร


โดยก่อนพลเอกประยุทธ์ เดินทางไปยังวัดระฆังฯ ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า ทำอะไรตนก็นึกถึงประชาชน แม้ไม่ได้ไปเยี่ยมประชาชนทุกจังหวัด แต่ไปด้วย ถนน เส้นทางน้ำ รถไฟ ซึ่งเป็นผลงานที่ทำ เป็นการไปเยี่ยมแทนตัวเองในฐานะนายกรัฐมนตรี ก่อนจะถามสื่อมวลชนกลับว่านี่ล่ะใครเป็นคนทำ โดยพลเอกประยุทธ์ยังกล่าวย้ำว่าตนยังแข็งแรง ก่อนจะถามกลับสื่อมวลชนว่าแช่งตนทุกวันหรือ ตนเองแข็งแรงและอารมณ์ดีด้วย พร้อมทำท่าเบ่งกล้าม และกล่าวว่า หากใจไม่สู้จะอยู่มา 8 ปีหรือ ซึ่งเรียกเสียงฮือฮาจากสื่อที่มารอส่ง พลเอกประยุทธ์ขึ้นรถ ซึ่งระหว่างที่พลเอกประยุทธ์อยู่บนรถได้กล่าวติดตลกว่า รักนะจ๊ะ เมื่อกี้ลืมบอก


ขณะที่ในช่วงบ่าย พลเอกประยุทธ์ ได้เดินทางไปวัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหารหาร ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานรูปหล่อสมเด็จพระราชาคณะของวัดนี้ 3 องค์ ได้แก่ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) สมเด็จโต / สมเด็จพระพุฒาจารย์ สมเด็จปิลันทน์ / สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ก่อนที่จะเดินพบปะกับประชาชนยังตลาดวังหลัง


ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก โดยมีประชาชนขอถ่ายรูป เซลฟี่และตะโกนให้กำลังใจพลเอกประยุทธ์ โดยมีประชาชนซึ่งเป็นแม่ค้าในละแวกนั้นตะโกนว่าลุงตู่อยู่ต่อ บอกว่าให้นำนายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ มาช่วยหาเสียงด้วย เนื่องจากตนเป็นแฟนคลับ เพราะนายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ เป็นคนพูดจริงทำจริง โดยนายกรัฐมนตรีได้ตอบติดตลกว่านายศรัณย์วุฒิขี่ม้าอยู่ อยู่คนละพื้นที่ มาไม่ได้ตลาดนี้ไม่มีพื้นที่พอให้ขี่ม้า


โดยเป็นที่น่าสังเกตว่าทั้ง 3 วัด เป็นวัดที่พลเอกประยุทธ์ให้ความศรัทธาเป็นอย่างมาก ตั้งแต่ดำรงตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการทหารบก ผู้สื่อข่าวรายงานว่าถือเป็นครั้งแรกที่พลเอกประยุทธ์ ทำบุญในช่วงเทศกาลสงกรานต์แบบเปิดเผยต่อสื่อหลังดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมา 8 ปี


จากนั้นเวลา 14.40 น. พลเอกประยุทธ์ พร้อมด้วยบรรดาสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้เดินทางมาเล่นน้ำสงกรานต์ ที่ถนนข้าวสาร โดยไม่ได้มีการแจ้งล่วงหน้า ทำให้บรรดาสื่อมวลชนที่ติดตามการทำข่าวต้องนั่งรถตุ๊ก ๆ เพื่อตามขบวนให้ทัน รวมไปถึงบรรดานักท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่ เทศกิจ และเจ้าหน้าที่ตำรวจต่างตกใจ พร้อมถามว่าใช่พลเอกประยุทธ์ตัวจริงหรือไม่


โดยพลเอกประยุทธ์ เข้าทางฝั่งถนนตะนาว ซึ่งเป็นทางออก ซึ่งบรรยากาศนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ให้ความสนใจฉีดน้ำใส่และมาขอถ่ายรูป ซึ่งทางนายกรัฐมนตรีก็อนุญาตให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปคู่ พร้อมฉีดน้ำกลับใส่นักท่องเที่ยวอย่างสนุกสนาน และพลเอกประยุทธ์ ยังบอกว่าสงกรานต์ชุ่มฉ่ำ ๆ


จังหวะหนึ่ง นายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึงเต๊นท์ทางเข้างานบริเวณถนนข้าวสารฝั่งถนนจักรพงษ์หรือวัดชนะสงคราม นายกรัฐมนตรีได้เดินทางมาทักทายสื่อมวลชนที่ประจำ ณ ตรงนั้นพร้อมฉีดน้ำใส่ โดยนายกรัฐมนตรีได้อวยพรเนื่องในโอกาสวันสงกรานต์ว่า ขอให้มีความสุขตลอดไป สุขภาพแข็งแรง ขอให้ประชาชนอยู่ดีกินดีขึ้น และบ้านเมืองสงบสุข พร้อมพูดแซวนักข่าวและฉีดน้ำใส่ นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังเปิดเผยว่า ดีใจมากที่ประชาชนออกมาเที่ยวจนทำให้เงินสะพัดและเศรษฐกิจดีขึ้น


จากนั้นพลเอกประยุทธ์ได้เดินอ้อมถนนข้าวสาร วนกลับมาที่จอดรถ ที่ถนนตะนาว พร้อมบอกอีกว่า วันนี้ตนได้โดนน้ำเย็นสาดก็รู้สึกจะเย็น ตนไม่ได้เล่นน้ำสงกรานต์มาตั้งแต่อายุ 15 ปี ที่เป็นนักเรียนเตรียมทหาร แต่ถนนข้าวสารก็เคยมาตามวาระงานและโอกาส แต่ไม่เคยมาเล่นน้ำสงกรานต์


โดยในช่วงท้ายเมื่อถามว่า พลเอกประยุทธ์รู้สึกเหนื่อยหรือไม่ในการลงพื้นที่ พลเอกประยุทธ์ถึงกับชวนสื่อมวลชนวิ่ง ไปยังจุดที่รถจอดรอ และเดินทางกลับในทันที

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/bFvH8ycUSHA