สะเทือนขวัญที่สุราษฎร์ฯ! ด.ต.คลั่งพาพวกยิงถล่มบ้านพ่อตา ดับรวม 6 ศพ จับได้แล้ว 1 เร่งล่าที่เหลือ

สุราษฎร์ธานี สะเทือนขวัญ ด.ต.คลั่งพาพวกบุกบ้านพ่อตา ดับ 3 ศพ เจอยิงสวน ตายอีก 1 ด้าน ตร.เร่งล่า จับได้ 1 ราย อ้างถูกหลอกให้เป็นสายยาเสพติด ชี้ ด.ต.คุมสติไม่อยู่มีความเครียด คาดฆ่าลูกตัวเองก่อนเอาศพทิ้งในรถข้างวัดมัดตราสังข์  ก่อนช็อกซ้ำ พบอีกศพ ภรรยา ด.ต. ในรีสอร์ท เสียชีวิตก่อนก่อเหตุ

จากกรณี เมื่อช่วงเย็น วันที่ 8 เมษายน 2566 ที่ ด.ต.อรรถพร วิเชียร อายุ 46 ปี ผบ.หมู่ งานป้องกันปราบปราม สภ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมพวกรวม 4 คน ใช้อาวุธปืนสงครามเอ็ม M16 และอาวุธปืนลูกซองยิงถล่มบ้านพัก ในสวนปาล์มที่ ต.กะเปา อ.คีรีรัฐนิคม และมีการยิงต่อสู้กัน มีผู้เสียชีวิตรวม 4 ศพ คือ

• นายธรรมรงค์ อายุ 60 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่1
• นางนิลทิพย์ แตง อายุ 49 ปี ภรรยา
• นายพรศักดิ์ เพชรชู หรือผู้ใหญ่กรอก อายุ 56 ปี
• นายธรรมรัตน์ วิเชียร (ทีมก่อเหตุ)  อายุ 48 ปี พี่ชาย
  

จากการตรวจสอบจากภาพวงจรปิด พบว่า

• ก่อนเกิดเหตุ นายพรศักดิ์ หรือผู้ใหญ่เกราะ ได้เดินเข้าไปในบ้านของนายธรรมรงค์
• ต่อมา ได้มีเก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า รวีออส ขับเข้ามาจอดที่บริเวณรั้วหน้าบ้าน
• มีคนร้ายทั้งหมดประมาณ 4 คน มีคนขับรถ ด.ต.อรรถพร กับนายธรรมรัตน์ พี่ชาย ถืออาวุธปืนสงครามเอ็ม 16 ส่วนอีกรายชื่อ นายมานพ ถือใช้อาวุธปืนลูกซองแฝด
• ต่อมาทั้งหมดได้ลงจากเก๋ง ถืออาวุธปืน ใช้อาวุธปืนยิงใส่นางนิลทิพย์ ที่นั่งอยู่ที่เปลในศาลาหน้าบ้านจนเสียชีวิตที่ข้างโอ่ง
• จากนั้นคนร้ายทั้ง 3 คนวิ่งกรูเข้าไปยังบ้าน พร้อมระดมกราดยิงใส่ตัวบ้าน จนเกิดการยิงต่อสู้กัน ใช้เวลาประมาณ 10 นาที เสียงปืนจึงเงียบลง
• คนร้าย 2 คนคือ ด.ต.อรรถพร กับ นายมานพ วิ่งกลับไปขึ้นรถ ที่มีคนร้ายติดเครื่องจอดรออยู่ (ลูกชายของ ด.ต.อรรถพร) และขับออกไปอย่างรวดเร็ว 
• ส่วน นายธรรมรัตน์ วิเชียร (ทีมก่อเหตุ)  อายุ 48 ปี เสียชีวิตจากการยิงต่อสู่

โดยศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้อนุมัติหมายจับ นายมานพ ว่างงาน อายุ 57 ปี และ ด.ต.อรรถพร ขณะที่ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ได้มีคำสั่ง ให้ ด.ต.อรรถพร จากราชการไว้ก่อน

-------------

ต่อมา วันที่ 9 เมษายน เวลาประมาณ 21.00 น.พระสงฆ์วัดไกรสรเขตราราม ได้พบผู้เสียชีวิตในเก๋งฮอนด้า ซึ่งเป็นคันที่ตำรวจสกัดจับ เนื่องจากเป็นรถคันก่อเหตุ

พบศพนายบาส อายุประมาณ 22 ปี เป็นลูกชาย ด.ต. กับภรรยาคนแรก นั่งที่เบาะซ้ายข้างคนขับในสภาพนอนเอน ถูกคลุมห่มด้วยผ้าขาวม้าลายขาวดำ ที่ข้อมือทั้งสองข้างถูกมัดติดกันด้วยสายสิญจ์ คล้ายกันการมัดตราสังข์  มีบาดแผลถูกยิงที่บริเวณขมับขวา พบปลอกกระสุนปืน 9 มม. 

จากการสอบสวนทราบว่า ตอนเกิดเหตุ ภายในวัดมีพิธีตั้งบำเพ็ญกุศลศพ นายธรรมรัตน์ วิเชียร อายุ 48 ปี พี่ชายของ ด.ต. มีพยานที่ให้ข้อมูลว่า ช่วงเวลา 3 ทุ่ม ได้มีชายปริศนาเดินลงมายังศาลาที่จัดงานศพ  แล้วบอกญาติในงานว่า ฝากจัดงานศพให้หลานด้วย พร้อมทั้งบอกว่าหลานอยู่ในรถ ชาวบ้านจึงได้ขึ้นไปดู ก่อนชายคนดังกล่าวจะอาศัยช่วงคนแตกตื่น หนีหายไป ซึ่งคาดว่าเป็น ด.ต.อรรถพร ผู้ก่อเหตุ

ตำรวจยังไม่รู้ว่าสาเหตุเกิดจากฝ่ายไหน

-------------

ต่อมาเมื่อวานนี้ 10 เมษายน เวลา 09.10 น. ตำรวจ สภ.คีรีรัฐนิคม รับแจ้งพบผู้เสียชีวิต 1 ราย ภายในห้องพัก ลีลาวดีรีสอร์ท พบว่า ผู้เสียชีวิตคือ น.ส.พนิดา หรือตั๊ก นิลนิยม ภรรยาของ ด.ต.  ถูกยิงเสียชีวิต เข้าที่ปากหัวกระสุนฝังในบริเวณใต้คาง คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 3 วัน (วันที่ 7) คาดว่าดาบตำรวจจะยิง น.ส.ตั๊ก โดยใช้หมอนเป็นตัวลดเสียง

ขณะที่คนที่รีสอร์ทให้ข้อมูลว่า ดาบตำรวจ เป็นคนมาเปิดห้องตั้งแต่ 6 โมงเย็นของวันที่ 7 เมษายน ซึ่งทั้งคู่มาด้วยกันบ่อย จึงไม่มีอะไรน่าสงสัย กระทั่งตอนเที่ยงของวันที่ 8 เมษายน นายธรรมรัตน์ มาเปิดห้องเพิ่มอีก 1 ห้อง ก่อนพาออกกันออกจากรีสอร์ต โดยใช้รถของนายธรรมรัตน์ จากนั้นไม่กลับมาอีกเลย

เมื่อมาไล่ไทม์ไลน์พบว่า ตั้งแต่เย็นวันที่ 7 เมษายน ดาบตำรวจ ขับรถเก๋งฮอนด้าซิตี้สีบรอนซ์เทา พา น.ส.ตั๊ก ภรรยามาเปิดห้องพัก แล้วมีการเปลี่ยนรถคันใหม่มาจอดที่รีสอร์ท เป็นซูซูกิ สีดำ ทะเบียนกรุงเทพฯ ที่ดาบตำรวจอรรถพร ยืมเพื่อนมาตั้งแต่วันที่ 6 เมษายน

จากนั้น ได้โทรศัพท์เรียกนายธรรมรัตน์ ให้มาที่รีสอร์ทเกิดเหตุโดยขับรถเก๋งโตโยต้าวีออส สีบรอนซ์เทา มาเปิดห้องที่รีสอร์ทตอนเที่ยง ของวันที่ 8 เมษายน จากนั้นก็พากันขับรถออกไปยิงถล่มบ้านพ่อตา ยังไม่แน่ชัดว่า ไปแวะรับนายมานพ มือปืน และนายบาสไปในที่เกิดเหตุด้วยตอนไหน

ช่วงบ่ายวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจพบรถเก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส ซึ่ง ด.ต.อรรถพร ใช้เป็นพาหนะไปก่อเหตุถูกจอดทิ้งไว้ที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งใน ต.เขาพัง อ.บ้านตาขุน จึงเข้าตรวจสอบและเก็บลายนิ้วมือแฝงในรถคันดังกล่าว ส่วน ด.ต.อรรถพร ยังไม่มีเบาะแส

ต่อมา 14.00 น.ชุดปฏิบัติการพิเศษตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้จับกุมตัวนายมานพ ว่างงาน อายุ 57 ปี ชาว อ.คีรีรัฐนิคม 1 ในผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับได้ที่บ้านหลังหนึ่งใน อ.ทับปุด จ.พังงา และรีบควบคุมตัวกลับมาที่ สภ.คีรีรัฐนิคม โดยมี พล.ต.ท. สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ร่วมประชุมติดตามคดีกับคณะทำงาน

โดย พล.ต.ท. สุรเชษฐ์ กล่าวว่า คดีนี้มีผู้ร่วมก่อเหตุ 4 คน จับกุมแล้ว 1 คนคือนายมานพ ว่างงาน เสียชีวิต 2 คน โดยดาบตำรวจอรรถพร ได้หลบหนีไปพร้อมกับอาวุธปืนสงคราม และอาวุธปืนพกสั้น ถือว่าเป็นบุคคลอันตราย โดยขณะนี้ ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่เร่งติดตาม ก่อนที่จะเข้าซักปากคำนายมานพ ว่างงาน ผู้ต้องหา

-------------

จากการสอบสวน นายมานพอ้างว่า ไม่ทราบว่าดาบตำรวจอรรถพรจะชวนไปก่อเหตุดังกล่าว ที่ไปด้วยคิดว่าจะพาไปเป็นสายยาเสพติด

หลังก่อเหตุบุกยิงถล่มบ้านนายธรรมรงค์ แล้ว ด.ต.อรรถพร พร้อมลูกชายได้ขับรถเก๋งโตโยต้า รุ่นวีออส (รถเช่า) ไปส่งตนที่บ้านพัก ต.เขาพัง อ.บ้านตาขุน และตนรีบหลบหนีออกจากพื้นที่ทันที ขณะที่สังเกตเห็นว่า ด.ต.อรรถพร มีพฤติกรรมแปลกๆ คล้ายคนคุมสติไม่ได้ ตนยอมว่าหวาดกลัวเป็นอย่างมากจึงต้องรีบหนี

ขณะที่ ตำรวจยังไม่ปักใจในการให้การของผู้ต้องหา ซึ่งจะต้องเป็นไปตามวัตถุพยานและนิติวิทยาศาสตร์ พร้อมสั่งการให้ สภ.คีรีรัฐนิคม รายงานการเบิกจ่ายอาวุธปืน ซึ่งตรงนี้มีระเบียบเกี่ยวกับการกำกับดูแลเกี่ยวกับอาวุธปืน

ซึ่งในวันนี้ พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิต ผบช.ภ.8 ได้มีคำสั่งย้าย พ.ต.อ.เกรียงไกร เกตุแก้ว ผกก.สภ.คีรีรัฐนิคม ไปช่วยราชการที่ สปก.ภ.8 และตั้งคณะกรรมการสอบกรณีเกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามลอบยิงนายธรรมรงค์ มาก่อนหน้านี้แล้ว 1 ครั้ง โดยไม่ได้มีการสืบสวนติดตามคนร้ายเพื่อยุติความขัดแย้ง โดยอ้างว่าผู้เสียหายไม่ติดใจ พร้อมระบุว่าตำรวจกำลังเชื่อมโยงว่าการเกิดเหตุครัังก่อนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุครั้งนี้หรือไม่

------------

ญาติของ น.ส.พนิดา หรือตั๊ก นิลนิยม อายุ 34 ปี ภรรยา ด.ต.อรรถพร และเป็นบุตรสาวนายธรรมรงค์ นิลนิยม หรือผู้ใหญ่รงค์ ผู้เสียชีวิต 1 ใน 4 ศพ ที่ถูก ด.ต.อรรถพร พาพวกไปยิงถล่ม และพบสภาพศพ น.ส.พนิดาถูกยิงเข้าที่ปากหัวกระสุน 9 มม.ฝังในบริเวณใต้คาง ห้องพักลีลาวดี รีสอร์ท

ได้นิมนต์พระสงฆ์จำนวน 2 รูป มาทำพิธีเชิญวิญญาณและเรียก น.ส.พนิดา กลับไปยังบ้าน น.ส.วิไลวรรณ หรือแมว ลูกพี่ลูกน้องที่มาเชิญวิญญาณกล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุ 4 ศพ และน.ส.พนิดา ได้หายตัวไปด้วย ก็ได้แต่ภาวนาให้รอดชีวิตกลับมาบ้าน ทุกคนต่างเฝ้ารออยากให้ปลอดภัย ไม่คิดว่าจะมาเกิดเรื่องแบบนี้

ส่วนปมปัญหาตนเองไม่ทราบ ที่ผ่านมาก็ทราบเพียงว่าคบหากัน และทางผู้ใหญ่ธรรมรงค์ไม่ให้คบหา หลังจากนั้น ทาง พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ศรัญญู ชำนาญราช ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ได้เดินทางมาดูที่เกิดเหตุ
------------

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/M4ZPrTaYlNs