เลือกตั้งและการเมือง

'พิธา' ฝากถึง 'เศรษฐา' นโยบายแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่น อาจล่าช้า เหตุต้องแก้ข้อ กม. - 'ธนาธร' มองอาจแก้ไขได้แค่ระยะสั้น ย้ำผลักดันรัฐสวัสดิการในระยะยาว

โดย weerawit_c

8 เม.ย. 2566

405 views

วานนี้ (7 เม.ย.) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ประกาศเติมเงินดิจิทัล 10,000 บาทให้คนไทย ว่า ในมุมของพรรคก้าวไกล ตั้งใจที่จะใช้เทคโนโลยีในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและปากท้องอยู่แล้ว เช่น นโยบายหวยใบเสร็จ ทุกครั้งที่ใช้แอปเป๋าตังที่มีอยู่ซื้อของจากผู้ประกอบการรายย่อยครบ 500 บาท สามารถเอาใบเสร็จไปแลกเป็นหวยได้



ทั้งนี้ สิ่งที่ต้องลงรายละเอียดกับนายเศรษฐา หากร่วมกันกับมือจัดตั้งรัฐบาลก็มี 2-3 อย่างคือ ความรวดเร็วในการใช้เงินดิจิทัล นอกจากนี้ยังมีข้อกังวลเรื่องข้อกฎหมาย พ.ร.บ.สินทรัพย์ดิจิทัล จะแก้ไขให้เข้ากับนโยบายทันหรือไม่ ซึ่งภายใน 100 วันแรกแก้ไขไม่ทันแน่นอน ตนคิดว่าสิ่งใดที่ประชาชนคุ้นชินอยู่แล้ว เช่น แอปเป๋าตัง ก็นำมาทำให้ดีขึ้น เชื่อว่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจได้ โดยไม่ได้เก็บภาษีเพิ่ม



เมื่อถามว่ามีคนวิจารณ์ว่านโยบายดังกล่าวไม่ต่างอะไรกับการแจกเงิน เห็นด้วยหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า เรื่องเม็ดเงินไม่เป็นปัญหา ตนคิดว่าประเทศไทยสามารถมีเงินพอที่จะดูแลคนทั้งประเทศได้ สิ่งสำคัญคือไม่ใช่การกู้เงินมาอย่างเดียว



“สิ่งสำคัญคือไม่ใช่กู้เงินอย่างเดียว รอให้เศรษฐกิจโตอย่างเดียว คือรอน้ำบ่อหน้า หวังเศรษฐกิจเติบโตแล้วเราจะมีงบ แต่สิ่งที่เราต้องทำคือต้องปรับเปลี่ยนโครงสร้างทางภาษี อย่างพรรคก้าวไกลบางทีเสนอนโยบาย ก็เป็น 4-5 แสนล้านเหมือนกัน แต่สิ่งที่เราบอกก็คือทำอย่างไรบ้าง ลดภาษีให้พี่น้อง SME เช่นจาก 20% ให้กลายเป็น 15% ให้คนตัวเล็กตัวน้อยไม่ต้องมีภาระทางภาษีมาก ขณะเดียวกันต้องขึ้นภาษีทุนใหญ่”



นายพิธา ย้ำว่า การที่บอกว่ามีเงินเพราะเศรษฐกิจจะโตในอนาคต ถือเป็นการหวังน้ำบ่อหน้า แต่ของพรรคก้าวไกลเป็นการเอาปัจจุบันเป็นตัวตั้ง ไม่ว่าเศรษฐกิจโลกจะมาอย่างไร โควิดจะมารอบที่ 2 หรือไม่ สงครามจะเกิดทั่วโลกหรือไม่ หรือเงินเฟ้ออย่างไร เราก็ยังมีความสามารถในการจัดงบประมาณโดยไม่ต้องแก้กฎหมาย



ตนเห็นด้วยว่าเทคโนโลยีเป็นสิ่งสำคัญแต่ในขณะเดียวกันปีศาจก็อยู่ในรายละเอียด คงต้องนั่งลงหารือร่วมกัน “ความเดือดร้อนเป็นเรื่องของวันนี้ พรุ่งนี้ หากมานั่งแก้กฎหมาย มานั่งทำเทคโนโลยีใหม่ ก็กลัวว่าจะไม่ทันการ คงจะเอาประชาชนเป็นตัวตั้ง หากมีโอกาสก็จะแลกเปลี่ยนกัน”



ด้านนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ประกาศเติมเงินดิจิทัล 10,000 บาทให้คนไทย ว่า ประเทศไทยตอนนี้คนไทยอ่อนแอมาก ไม่มีทางที่จะสร้างประเทศที่เข้มแข็งได้หากคนไทยยังอ่อนแอแบบนี้



ซึ่งในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา คนไทยมีเงินเก็บลดลง หนี้สินครัวเรือนเพิ่มมากขึ้น เป็นไปไม่ได้ที่จะสร้างประเทศที่เข้มแข็งจากคนที่อ่อนแอ พรรคก้าวไกลจึงเห็นว่าในระยะสั้นมีความจำเป็นที่จะต้องสร้างระบบรัฐสวัสดิการดูแลคนตั้งแต่เกิดจนตายให้ได้ เพื่อทำให้คนมีความมั่นคงในชีวิต  "คนที่ไม่มีความมั่นคงในชีวิต มองชีวิตกันเป็นวันเป็นสัปดาห์ สัปดาห์หน้าจะกินอะไร เดือนหน้าจะกินอะไร วางแผนชีวิตไม่ได้ ถ้าเราสร้างรัฐสวัสดิการจะดูแลคนได้ เขาจะวางแผนเป็นเดือนได้ เดือนนี้ต้องผ่อนรถให้เสร็จก่อน ปีหน้าค่อยเริ่มซ่อมบ้าน"



ขณะที่ นายธนาธร กล่าวต่อว่า ประเทศไทยจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงอยู่แบบนี้ต่อไปไม่ได้ จึงขอโอกาสพรรคก้าวไกลขับเคลื่อนสังคมไทยให้ไปข้างหน้า เมื่อถามว่าเงินดิจิทัล 10,000 บาทสามารถ กระตุ้นเศรษฐกิจไปถึง 6 เดือนได้หรือไม่ นายธนาธร กล่าวว่า คงต้องถามพรรคเพื่อไทยว่าทางทีมนโยบายพรรคคิดเห็นอย่างไร ส่วนตัวอยากเห็นรูปแบบสวัสดิการที่ยั่งยืนมากกว่านี้ ทำให้ประชาชนมั่นคงได้ความสำคัญคือต้องมีความต่อเนื่องและชัดเจน จะสามารถทำให้คนออกแบบชีวิตได้



เมื่อถามว่าหากมีโอกาสร่วมรัฐบาลกันพรรคก้าวไกลจะนำข้อเสนอรัฐสวัสดิการต่อพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายธนาธร กล่าวว่า แน่นอน ตนคิดว่า การร่วมรัฐบาลระหว่างพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยคงต้องมีการปรับหลายอย่าง นโยบายหลายอย่างที่พรรคเพื่อไทยนำเสนอเป็นนโยบายที่ดีพรรคก้าวไกลพร้อมสนับสนุน



ขณะเดียวกันก็เชื่อว่ามีนโยบายของพรรคก้าวไกลหลายตัวที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน และเชื่อว่าพรรคเพื่อไทยก็พร้อมที่จะหยิบยกนโยบายของพรรคก้าวไกลไปใช้เช่นกัน ดังนั้นหากหลังเลือกตั้งแล้วคงมีโอกาสได้พบปะพูดคุยกันเพื่อดูว่าหากตัวรัฐบาลแล้วจะพาสังคมไทยไปข้างหน้าอย่างไร



เมื่อถามว่ารายละเอียดของนโยบายดังกล่าว ประชาชนสามารถใช้เงินได้ไม่เกินรัศมี 4 กิโลเมตร เพื่อดึงคนกลับบ้าน จะชนกับนโยบายของพรรคก้าวไกล ในการสร้างอุตสาหกรรมเพื่อดึงคนกลับบ้านเหมือนกันหรือไม่ นายธนาธร กล่าวว่า เป็นคนละอย่างกัน นโยบายของพรรค เพื่อไทยเป็นการเสนอในระยะสั้น แต่นโยบายการสร้างอุตสาหกรรมของพรรคก้าวไกลคือการสร้างงานในระยะยาว



สิ่งที่น่ากลัว สำหรับเศรษฐกิจไทย ไม่ใช่การเติบโตทางเศรษฐกิจระยะสั้น การเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะสั้นต่ำกว่าเพื่อนบ้านอยู่แล้ว เราวิ่งช้ากว่าเพื่อนบ้าน แต่สิ่งที่อันตรายมากกว่าคือขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย ประเทศไทยจะแข่งกับโลกาภิวัตน์อย่างไรจะส่งออกอย่างไร นี่คือโจทย์ใหญ่ เพราะส่งออกไม่ได้แข่งขันไม่ได้คนไม่มีงานทำ ดังนั้นจะพาประเทศไปสู่ความเจริญก้าวหน้าได้พรรคก้าวไกลเน้นที่วิทยาศาสตร์ เน้นที่เทคโนโลยีจำเป็นต้องสร้างเทคโนโลยีในประเทศไทยให้ได้


ขณะที่ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า และผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ร่วมกิจกรรมหาเสียงกับพรรค ก.ก.ในเขตกรุงเทพมหานคร โดยในระหว่างที่นายธนาธรช่วยหาเสียงให้กับ นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคก้าวไกล เขตบางขุนเทียน


ช่วงหนึ่งนายธนาธร ประกาศหาเสียงผ่านโทรโข่งบนรถหาเสียงถึงการขอโอกาศในการเปลี่ยนแปลงระบุว่า “โอกาสในการเปลี่ยนแปลงมาถึงเเล้ว ขอโอกาสพรรคเพื่อไทย ในการเปลี่ยนแปลงสร้างสรรค์ประเทศไทย” ก่อนที่เจ้าตัวจะสตั้นไปสักครู่  จนผู้ที่ได้ยินถึงกับหัวเราะชอบใจ แม้แต่ผู้สมัครที่อยู่บนรถแห่คันเดียวกับนายธนาธรด้วย


จากนั้นนายธนาธร ได้พูดทักทายพี่น้องประชาชนใหม่อีกครั้งว่า “เสียงที่ได้ยินอยู่ตอนนี้ คือเสียงจากพวกเราพรรคก้าวไกล”



ทั้งนี้ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปดังกล่าว โดยนายธนาธรได้รีทวิต แล้วตอบว่า “ผิดครับๆ 555”


รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/wQcLh17p9v8

คุณอาจสนใจ

Related News