เลือกตั้งและการเมือง

ช่องสาม จัดดีเบต “ตัวเต็ง” ประชันนโยบาย ชูประเด็นร้อนทางสังคม

โดย parichat_p

3 เม.ย. 2566

1.2K views

ช่องสามจัดเวทีดีเบต เชิญ 9 พรรคการเมืองร่วมโชว์วิสัยทัศน์นโยบายเร่งด่วน ถกปมร้อน จับขั้วการเมือง - ฝุ่นพิษ  - “ทักษิณ”กลับมาติดคุก - ม.112



สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่องสาม  จัดประชันวิสัยทัศน์ “ตัวเต็ง”   ในเวที เปิดศึกเลือกตั้ง 66 "เปลี่ยนใหม่ หรือ ไปต่อ" โดยมีผู้แทนพรรคต่างๆเข้าร่วมประกอบด้วย

1. คุณแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย

2. นายอุตตม สาวนายน ประธานคณะกรรมการจัดทำนโยบายพรรคพลังประชารัฐ

3. นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล

4. นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย

5. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์

6. นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ

7. คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย

8. นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า

9. พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย

และดำเนินรายการโดย “สรยุทธ สุทัศนะจินดา”  




ทุกพรรคเดินหน้าเปิดนโยบายทำทันที

โดยเริ่มต้น ผู้ดำเนินรายการถามว่า “ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ” หมายความว่าอย่างไร โดยนายพีระพันธ์กล่าวว่าก็ไม่มีอะไรยาก ในส่วนที่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีทำอยู่ โดยเฉพาะเรื่องการแก้ปัญหาที่ทำกิน   การช่วยค่าครองชีพ  ส่วนที่ทำต่อ ก็เช่นบัตรลุงตู่ ก็จะเป็นบัตรลุงตู่พลัส  รวมถึงจะทำอย่างไรให้ราคาน้ำมันมันลงให้ได้ แก้กฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ลงมาให้ได้  เราเน้นเรื่องน้ำมันที่กลั่นในประเทศ

อย่างไรก็ตามเมื่อผู้ดำเนินรายการถามว่า ที่ผ่านมาทำไมถึงไม่ทำ นายพีระพันธ์กล่าวว่า เพราะมันไม่มีรวมไทยสร้างชาติ  หรืออย่างที่ทำกิน ที่ท่านทำไปแล้วคือการออกกฎหมายคณะกรรมการ นโยบายที่ดินแห่งชาติ ก็ต้องมาต่อยอดให้ผู้ยากไร้สามารถมีที่ดินทำกินได้มากขึ้น


เมื่อถามว่าอะไรที่พรรครวมไทยสร้างชาติ จะทำทันทีกี่เดือน  นายพีระพันธ์กล่าวว่าการแก้กฎหมายหลายฉบับเพื่อทำให้การทำมาหากินของคนคล่องขึ้น  มีการทำกองทุนประชาชนเพิ่มขึ้น



ขณะที่ น.ส.แพทองธาร ตอบคำถามเดียวกันว่า พรรคเพื่อไทยกำหนดเวลาไว้ว่า ที่จะทำทันทีในหกเดือนหลังตั้งรัฐบาลบคือลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส  ที่เราทำอย่างแรกคือ ลดค่าน้ำค่าไฟค่าแก๊ส และเราจะทำเรื่องการเดินทางรถไฟฟ้ายี่สิบบาทตลอดสาย แต่การลดค่าโดยสารรถไฟฟ้าอาจจะนานกว่าหกเดือนหน่อยเพราะเกี่ยวกับหลายฝ่าย ยนอกจากนี้จะทำเรื่องสามสิบบาทพลัส   บัตรประชาชนใบบเดียวรักษาได้ทั่วประเทศ  ชาวบ้านไม่ต้องรอคิวอีกแล้ว


เมื่อผู้ดำเนินรายการถามว่านี่คือใหญ่แล้วหรือ น.ส.​แพทองธารกล่าวว่า การเดินทางค่าใช้จ่ายมันสูง หากเทียบกับต่างประเทศเรื่องค่าแรงขั้นต่ำ  ค่าเดินทางเราแพงมาก นี่ถือว่าใหญ่มาก หากค่าแรงไม่ขึ้นเขาก็ไม่มีกำลังจับจ่ายใช้สอย  นี่คือการคิดใหญ่แน่นอน


ผู้ดำเนินรายการได้ถามนายอนุทิน ว่าเท่าที่ฟังสองพรรคนโยบายพรรคไหนน่าสนใจกว่า  นายอนุทินกล่าวว่า ต้องบอกว่าภูมิใจไทย น่าสนใจที่สุด


เมื่อถามว่าหากเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลอะไรจะดำเนินการทันที นายอนุทินกล่าวว่า  ตอนนี้ต้องพักหนี้  พักต้นพักดอกทันที หนี้ธนาคารหนี้ลีสซิ่ง ลิมิตไม่เกินหนึ่งล้านบาท เราจะระดมเงินจากพันธบัตรรัฐบาล  




ขณะที่นายพิธา  กล่าวว่า เรามีวาระร้อยวันแรก  ที่เข้าสภา เราคิดว่า เรื่องของที่ดินที่ทำได้โดยมีที่ดิน นิคม สหกรณ์ ป่าไม้ 1.5 ล้านไร่  จะคืนสู่พี่น้องประชาชน  จะกระจายที่ดินให้เป็นโฉนด   ซึ่งการทำไม่ต้องแก้กฎหมาย   ขณะที่จะ​ยึดคืน สปก. ที่อยู่กับนายทุน  คืนให้ประชาชน แต่มีข้อแม้ว่าผู้ที่รับไปต้องตรงปก




ด้านนายอุตตม กล่าวว่า  เราถือว่าเรามีโอกาสเป็นแกนนำรัฐบาล หากเป็นแกนนำเราฟังทุกพรรค ว่าของท่านมีอะไร  นโยบายไหนมีอะไร  โจทย์ของพลังประชารัฐคือ วันนี้คนไทยกำลังประสบความยากลำบาก   เรื่องหนี้ ของผมไม่ใช่พักหนี้ แต่แก้ทั้งระบบ พักหนี้ทำได้ แต่แก้แล้วไม่พอ เราเติมทุนให้ใหม่เช่นสินเชื่อพิเศษ  เรื่องที่สองคือดูแลเรื่องสวัสดิการ เพิ่มเงินบัตรประชารัฐ รื้อโครงสร้างพลังงาน ก๊าซ ไฟฟ้า  ทำให้ราคาลดลงได้ทันที  


เมื่อถูกถามว่าที่ผ่านมาหาเสียงแต่ทำไม่ได้  นายอุตตมชี้แจงว่า หลายอย่างทำไปแล้ว  แต่อย่างเรื่องค่าจ้างขั้นต่ำมีปัจจัย เรามีพรรคร่วม หลายเรื่องพรรคพลังประชารัฐไม่ได้คุมเบ็ดเสร็จ



ขณะที่คุณหญิงสุดารัตน์  กล่าวว่าต้องเริ่มจากพาประชาชนออกจากสงครามความขัดแย้งสองขั้ว 17 ปีมาแล้วที่คนไทยต้องถามตัวเองว่าดีขึ้นหรือแย่ลง และกลายเป็นว่าต้องเลือกอีกฝั่งสลับไปมา  เมื่อเป็นแบบนี้ มันต้องสร้างทางรอดใหม่ให้ประชาชน  เรามาทำให้ประชาชนชนะ เรามาเพื่อจะยุติสงครามการเมืองสองขั้ว เราไม่ใช่คู่ขัดแย้ง เราเป็นประชาธิปไตยไม่เอาเผด็จการ เริ่มที่การแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้เป็นรัฐธรรมนูญของประชาชน  เริ่มตั้งแต่การตั้ง ส.ส.ร.​เพื่อให้ประชาชนเขียนรัฐธรรมนูญเอง



สำหรับนายจุรินทร์ ระบุว่าพรรคประชาธิปัตย์จะเดินหน้าสร้างเงิน สร้างคนสร้างชาติจะพูดถึงการหาเงินให้ประเทศ อย่างน้อยสุดประกันรายได้การส่งออก การท่องเที่ยวจะนำเงินเข้าประเทศเท่าไหร่  เราต้องการส่งเสริมให้คนมีงานทำ เรียนฟรีอนุบาลถึง ม.6  บัตรประชาชนใบเดียวรักษาฟรี ตรวจสุขภาพฟรี



พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ก่อนที่จะบริหารเราต้องมีอุดมการณ์ในการทำงาน  อยากให้มีอุดมการณ์ขยัน ประหยัดซื่อสัตย์    และจะทำอย่างไรให้มีอุดมการณ์   เชื่อว่าทุกกระทรวงก็คิด  แต่ทุกกระทรวงก็คิดงบประมาณมาเวอร์ไปเลย   ต้องมีอุดมการณ์ ของไหนที่มีก็ใช้ไปก่อน อะไรที่ยังไม่จำเป็นอย่างรถถังเรือดำน้ำก็ไม่ต้องมาซื้อ นายพลมีทำไมเยอะแยะพันกว่าคน  ก็ต้องยุบหมด พอลดงบประมาณก็ลดลง  ที่เราเก็บภาษีมาก็จะเหลือ เราต้องการให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยที่ทำกิน ประชาชนเดือดร้อน บางทีนอนข้างถนน  เราจะเอาที่ดินกองทัพออก ย้ายออกไป มาสร้างคอนโดโห้ชาวบ้าน  


ส่วนนายกรณ์ ระบุว่า  เรื่องที่ประชาชนเดือดร้อนมากที่สุดคือเรื่องปากท้อง   ต้นตอของราคาสินค้าที่แพงเกินไปคือพลังงาน  ใครที่จะทำงานกับเราต้องไปรื้อที่โครงสร้าง เราพยายามรื้อโครงสร้างเพื่อให้ค่าน้ำมันถูกลง นอกจากนี้ยังต้องเปลี่ยนโครงสร้างเครดิตบูโร  ยกเลิกแบล็กลิสต์และนับแต้มแทน   ทำไมไม่เอาเรื่องดีๆ มาบวกเป็นแต้มให้ผู้กู้บ้าง



“อนุทิน” บอก “ภูมิใจไทย” ไม่เคยมีปัญหากับพรรคใด


ต่อมาผู้ดำเนินรายการได้ถามในประเด็นเรื่องการจับขั้วตั้งรัฐบาลว่าต้องรอหลังเลือกตั้งหรือไม่ โดยนายอนุทินตอบว่า  พรรคภูมิใจไทยไม่เคยมีปัญหากับฝ่ายไหนอยู่แล้ว พูดคุยกับทุกพรรคได้  ผ่านโควิดมามีคำว่านิวนอร์มอล เราควรเปลี่ยนการเมืองเป็นนิวนอร์มอลบ้าง  ตนฟังทุกท่านก็พูดมาว่าขั้วของความแตกแยกควรจะหมดไปเราควรกลับมาสู่กติกา ทุกคนแข่งไปอย่างเต็มที่ ถึงเวลาทุกคนที่อยู่ในการเมืองจะมีสูตรสำเร็จเมื่อเห็นผลการเลือกตั้งการจับขั้วจะเกิดขึ้นยโดยใช้เวลาไม่นาน


อย่างไรก็ตามเมื่อถามว่ายังมี ส.ว.​ที่ช่วยเลือกนายกฯ ทำให้นายอนุทินกล่าวว่า “ดีที่สุดก็จับให้เกิน 376 เสียง” พร้อมระบุว่าวันนี้เราเคยเอาคนที่ล้มระบอบประชาธิปตยมาลงระบอบประชาธิปไตยได้แล้ว วันนี้ระบอบประชาธิปไตยชนะ  เราจะรวบรวมกฎกติกาในระบอบประชาธิปไตยให้ได้ แม้แต่ ส.ว. ก็ต้องฟังเสียงประชาชน หากรัฐบาลเป็นเสียงข้างน้อยในสภา แล้วให้ ส.ว.อุ้มมาเป็น  คนที่เป็นนายกฯ คือคนที่น่าสงสารที่สุดในโลกนี้




“อุ๊งอิ๊ง” ลั่นหากเพื่อไทยได้เสียงข้างมากไม่ยอมให้พรรคอื่นเป็นนายกฯ


ขณะที่ น.ส.แพทองธารยืนยันว่า “หากเพื่อไทยได้เสียงข้างมาก เพื่อไทยเป็นนายกฯแน่นอน”


ทำให้ผู้ดำเนินรายการถาามว่ามีกระแสข่าวว่าจะให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นนายก​ฯ หากให้คนอื่นเป็นนายกฯจะให้ทำอย่างไร ทำให้ น.ส.แพทองธารสวนทันควันว่า “มันไม่มีค่ะ”


ทำให้นายอนุทินกล่าวเสริมว่า น.สแพทองธารก็ตอบตรงกันว่าหากพรรคที่ได้มากกว่าไปยกให้พรรคที่ได้น้อยกว่ามันตอบไม่ได้


เช่นเดียวกับนายพิธาที่ย้ำว่า “ใครก็ตามคิดว่าจะตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยคือนรกบนดิน”


ส่วนนายอุตตมระบุว่า  ที่ทุกคนพูดมาหลักการพลังประชารัฐไม่แตกต่าง หากได้เสียงอันดับหนึ่งก็มีสิทธิเสนอคนของตัวเองเป็นนายกฯ เรามั่นใจว่าเรามีโอกาสเสนอ  



“สุดารัตน์” โยนระเบิด พรรคอันดับหนึ่งอาจจับมือ ส.ว.​ผสมขั้วข้ามพันธ์



ขณะที่คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า หลักการต้องให้พรรคอันดับหนึ่ง แต่ที่ผ่านมามันไม่ใช่ วันนี้กลายเป็นว่าถ้าไม่ยึดหลักการ พรรคที่ได้ ส.ส.​มาก จะไปจับกับพรรคที่มี ส.ว. มากจะกลายเป็นการผสมข้ามขั้วข้ามพันธุ์  


ด้าน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ บอกว่าต้องขอโทษผู้หญิงที่อยู่บนเวทีนี้ แต่ต้องบอกว่า   เรื่องนี้ต้องลูกผู้ชาย ใครเป็นพรรคอันดับหนึ่งต้องให้เขาจัดตั้งรัฐบาล ไม่ใช่ไปบอกว่าเขาจัดไม่ได้    




“จุรินทร์” บอกใครรวมเสียงข้างมากได้ก็ได้เป็นรัฐบาล



ขณะที่นายจุรินทร์ บอกว่า  ใครรวมเสียงข้างมากได้ก็เป็นรัฐบาล หมายถึงรวมเสียงที่ประชาชนมอบให้เขาก็ต้องเป็นรัฐบาล


อย่างไรก็ตามนายพีระพันธ์กล่าวว่าประชาชนเขาไม่สนใจหรอกครับว่าเขาจะจับขั้วกับใคร คุณมีนโยบายอะไรที่จะจับขั้วกับเขาไหม  ถึงวันนี้ เราพูดถึงสิ่งที่ยังไม่เกิด


ทำให้พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ยืนยันว่าเรื่องนี้ควรพูดให้ชัดว่าพรรคการเมืองทุกพรรคควรเป็นหลักให้พี่น้องประชาชน  ขอให้มีความจริงใจ




ประสานเสียงแก้ปัญหาฝุ่นพิษ


ต่อประเด็นเรื่องฝุ่น PM 2.5  แต่ละพรรคก็ได้ร่วมนำเสนอนโยบายโดยนายพิธสเสนอว่าปัจจุบันกรมควบคุมมลพิษไม่มีอำนาจ จึงเสนอ พ.ร.บ. อากาศสะอาดคือคลีนแอร์  และขอให้ทำงานกับต่างประเทศ เพราะหากแก้ได้แต่ต่างประเทศแก้ไม่ได้ก็ลอยมาหาเราอยู่ดี


ด้าน น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า  เราต้องเจรจากับประเทศเพื่อนบ้าน เราทำได้เลยว่าเราจะไม่รับสินค้าเกษตรหากทำการเผาไหม้   หากเป็นนายกฯตนกล้าประกาศ เพราะอากาศสะอาดคือพื้นฐานชีวิตของคนไทย


ขณะที่นายพีระพันธ์ก็ระบุว่า ปัญหาจริงๆคือการเผาจากประเทศเพื่อนบ้านเราไม่สามารถกันไม่ให้ฝุ่นปลิวเข้าประเทศ ตอนนีที่ทำแล้วคือเริ่มเจรจากับเพืิ่อนบ้านแล้วว่าต้องร่วมมือกัน ส่วนเรื่องห้ามการค้าขาย ก็ต้องคิดว่าได้รับผลกระทบหรือไม่


นายกรณ์กล่าวว่า เรามีอำนาจในการสกัดกั้นอยู่แล้วเพราะผู้ซื้อรายใหญ่คือเราจึงควรมีมาตรการทางภาษี และมีข้อเสนอทางเศรษฐกิจทั้งในบ้านเราและต่างประเทศ  


คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า ​เรื่องนี้นายกฯประกาศเป็นสาระแห่งชาติตั้งแต่ต้นปี 2562  การเจรจากับต่างประเทศอย่างเดียวไม่พอ เราต้องหาความร่วมมือร่วมกัน  ที่เขาต้องเผาป่าเพราะข้าวโพดปลูกบนดอย เราต้องเปลี่ยนให้เขาปลูกต้นไม้ยืนต้น   ส่วนการเพาะปลูกที่เขาต้องเผา เพราะตัดยาก เราต้องให้โรงงานอ้อยมาคุย และให้เขายืมเงินซื้อจักรกลการเกษตรมาเก็บเกี่ยว


ส่วนนายอนุทินก็บอกว่าเห็นด้วยเรื่อง พ.ร.บ.อากาศสะอาด และพรรคภูมิใจไทย ก็เน้นเรื่องการลดการใช้ยานพาหนะ และเปลี่ยนเป็นไฟฟ้า



“อุ๊งอิ๊ง” เผยไม่อยากให้ “ทักษิณ” ติดคุก


ต่อประเด็นเรื่องที่นายนทักษิณ ชินวัตร ประกาศจะกลับมาติดคุก   น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า  อยากให้พ่อกลับแน่นอน ส่วน การกลับมาติดคุกหรือไม่คือการตัดสินใจของท่าน หากคุณพ่อคิดว่ากลับมาแล้วคือทางที่ท่านเลือกก็ต้องยอมรับ  ถ้าถามว่าอยากให้ติดคุกหรือเปล่า..ไม่อยาก   คดีที่โดนคือคดีที่โดนหลังรัฐประหารทั้งสิ้น หากศาลตั้งต้นยังหาความยุติธรรมไม่ได้


ด้านนายพิธา กล่าวว่าเรื่องกฎหมายไม่ได้มีไว้กลั่นแกล้งกัน คุณทักษิณก็มีสิทธิได้รับความยุติธรรม ตนก็คิดว่าไม่ได้เป็นเรื่องการเมือง เป็นเรื่องของนิติรัฐนิติธรรม


ขณะที่นายจุรินทร์บอกว่า  กลับได้ แต่ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม  และต้องไม่มีการออกกฎหมายนิรโทษกรรม ที่เราเคยเจอมาแล้ว  และรวมถึงเรื่องที่อาจจะเสนอให้คดีทุจริตติดคุกที่บ้านได้เรื่องนี้พรรคประชาธิปัตย์ไม่เห็นด้วย


ด้านพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์บอกว่า ผมรู้จักกับนายทักษิณ ก่อนคุณอุ๊งอิ๊งอีก  จะบอกว่าท่านเป็นตำรวจก็มีความรู้ เป็นนายกฯก็มีความรู้  ตนก็คิดเหมือนกันว่านายทักษิณไม่ได้รับความเป็นธรรม ถามว่าอยากให้กลับไหม เมื่อเป็นคนดีมีความรู้จะกลับมาช่วยประเทศไม่ได้ล่ะ




“ก้าวไกล” พร้อมแก้ ม.112 ขอให้ไปคุยกันในสภา


ต่อกรณีมาตรา 112  ว่าจะแก้ไขหรือไม่ยังคงเป็นข้อถกเถียง  โดยนายพิธาบอกว่า  ม.112 มีปัญหาจริง  ที่อยู่ตรงนี้ก็มีคนที่ต้องการแก้มีทั้งแก้ให้เพิ่มโทษ ส่วนตนก็ต้องการแก้ให้ลดลง เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของพรรคก้าวไกล  แต่เป็นเรื่องต้องการแก้ไขให้ความสัมพันธ์กับพระมหากษัตริย์ และประชาชนดีขึ้น ไม่ได้เอาสถาบันมาอ้างแล้วทำให้คนติดคุก




“พีระพันธุ์” บอกแก้ได้แต่ไม่เห็นความจำเป็น



ด้านนายพีระพันธ์กล่าวว่ามาตราอะไรก็เหมือนกันทุกมาตรา เป็นบทบัญญัติกฎหมาย  ก็มีความผิดด้วยกันทั้งนั้น เผอิญมาตรา 112 หากเป็นคนธรรมดาก็คือการหมิ่นประมาทนั่นเอง  นี่คือพ่อของแผ่นดิน เพียงแต่เขาจัดว่าเป็นความมั่นคงของรัฐที่ทุกประเทศยอมรับว่าเหนือสิ่งอื่นใด


นายพีระพันธ์กล่าวว่า มาตรา 112 ไม่ใช่เรื่องสำคัญ หากไม่ทำผิดก็ไม่มีความผิด กฎหมายแก้ไขได้ทั้งนั้นแต่จำเป็นหรือไม่    ทำให้นายพิธาสวนว่า  ก็ไม่มีปัญหาครับก็ไปแก้กันในสภา


ด้าน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า เรื่องมาตรา 112 ตนก็เคยถูกกลั่นแกล้ง ยัดเยียดข้อกล่าวหานี้ หากถามเสรีรวมไทย ก็เสนอให้มีการแก้ไขแต่ไม่ได้ยกเลิก   โดยแยกเรื่องอาฆาตมาดร้ายออกไปซะ ควรเหลือแค่ดูหมื่น หมิ่นประมาทที่จำคุกไม่เกินสามปีเท่านั้น   เพราะพระมหากษัตริย์ก็ต้องมีกฎหมายคุ้มครอง


คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่าวันนี้กฎหมาย 112  เป็นเรื่องหมิ่นประมาท แต่เวลาโดนบอกเป็นการเมืองหมด เพราะบังคับใช้ไม่เป็นธรรม  หากเราไม่ฟังเลยกับฟังคนที่เห็นต่างกลายเป็นเราไปทำร้ายสถาบัน  คดี 112 กลายเป็นคดีการเมืองและไปทำร้ายนสถาบันอันเป็นที่เคารพรักของเรา  


ส่วน น.ส.แพทองธารก็ระบุว่า   “พรรคเพื่อไทยไม่ยกเลิกแน่นอน เราต้องถกในสภากำหนดขอบเขตให้ชัดเจน”

คุณอาจสนใจ

Related News