เกาะติดบรรยากาศก่อนรับสมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต กกต.ย้ำระวัง อย่าทำผิดกฎ

สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ยืนยันความพร้อมเปิดรับสมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต 400 เขต ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ 3 เมษายน ถึง 7 เมษายน โดยเฉพาะกรุงเทพมหานคร ที่มีมากถึง 33 เขต มีการจัดเตรียมสถานที่ไว้พร้อมแล้ว 100 เปอร์เซ็นต์

และคาดว่าจะคึกคักที่สุดเพราะจะมีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของแต่ละพรรคมาร่วมให้กำลังใจผู้สมัครด้วย ทั้งพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รวมถึงนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ก็จะมาด้วยตนเอง ติดตามรายงานจากคุณฐปณีย์ เอียดศรีไชย



อาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานครไทยญี่ปุ่น จัดเตรียมสถานที่ไว้พร้อมสำหรับการรับสมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต กรุงเทพมหานครทั้ง 33 เขตในวันพรุ่งนี้ ทั้งพื้นที่บริเวณด้านนอก ที่ให้แต่ละพรรคมาให้กำลังใจผู้สมัคร มีการจัดเตรียมกำลังตำรวจรักษาความปลอดภัยจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล และหลายหน่วยงาน เนื่องจากแต่ละพรรคการเมืองจะมีบุคคลสำคัญมาร่วมให้กำลังใจผู้สมัครด้วย

เช่น พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่าที่แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรครวมไทยสร้างชาติ และพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคและว่าที่แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งถือเป็นการเลือกตั้งครั้งแรกที่ทั้งสองคนจะมาร่วมให้กำลังใจผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตด้วย รวมถึงนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ว่าที่แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย



สำหรับขั้นตอนการรับสมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต ทางกกต.กรุงเทพมหานคร จะมาเตรียมความพร้อมตั้งแต่เวลา 05.00 น.ผู้สมัครจะต้องมาตรวจสอบเอกสารการสมัคร ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญเนื่องจากตามกฏหมายหากเอกสารไม่ครบถ้วนเจ้าหน้าที่ต้องให้มาสมัครจะใหม่ ป้องกันการขาดคุณสมบัติ โดยผู้สมัคร ส.ส.จะถูกแบ่งไปตามโต๊ะแต่ละเขตเลือกตั้ง หากมาลงทะเบียนก่อนเวลา 08.30 น. ถือว่ามาพร้อมกัน ผู้สมัครสามารถตกลงกันในการเรียงลำดับในการยื่นสมัคร ถ้าตกลงกันไม่ได้ ต้องจับสลาก 2 ครั้ง เพื่อให้ได้หมายเลขผู้สมัครรับเลือกตั้ง



สำหรับกองเชียร์ต้องเน้นย้ำว่าสามารถมาได้ โดยภายในอาคารกีฬาเวสน์ บริเวณสถานที่สมัครจะมีเฉพาะผู้สมัครกับตัวแทน แต่กองเชียร์สามารรถไปนั่งบนอัฒจันทร์ รองรับได้กว่า 1,300 คน แต่ต้องเน้นย้ำเรื่องการร้องเพลงรื่นเริง ในลักษณะการจัดมหรสพ หลังได้หมายเลขผู้สมัคร อาจผิดกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.มาตรา 73 วงเล็บ 3 ซึ่งเคยมีคำสั่งศาลอุทธรณ์ภาค 1 และคำสั่งศาลอุทธร์ภาค 4 วินิจฉัยมาแล้วว่า การจัดขบวนแห่และรถยนต์ติดแผ่นป้ายของผู้สมัครรับเลือกตั้งภายหลังการสมัครเสร็จสิ้นแล้วไปตามชุมชน โดยมีการแสดงดนตรีหรือการรื่นเริงใดๆ ถือเป็นการจูงใจผู้มีสิทธิเลทอกตั้งให้ลงคะแนนเลือกตั้ง ซึ่งเป็นหลักปฏิบัติเหมือนกันทั่วประเทศ



สำหรับวันพรุ่งนี้ พลเอกประยุทธ์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรครวมไทยสร้างชาติ จะมาถึงจุดนัดพบก่อนเคลื่อนขบวนมาที่อาคารกีฬาเวสน์ 2 ตั้งแต่เวลา 06.30 น.และจากนั้นจะไปไหว้ศาลหลักเมืองและสักการะพระแก้วมรกต ภายในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม



ส่วนพลเอกประวิตร หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะมาถึงสถานที่รับสมัครในเวลา 08.00 น.ก่อนจะไปไหว้ศาลหลักเมืองด้วย



ส่วนนางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวพรรคเพื่อไทย จะมาถึงเวลา 07.30 น.และจะไปไหว้ศาลหลักเมืองในช่วง 11 นาฬิกา



ส่วนอีกหลายพรรคมีการนำขบวน ส.ส.ด้วยรถประหยัดพลังงานเช่น พรรคประชาธิปัตย์ พรรคก้าวไกล และพรรคภูมิใจไทย