สังคม

ศาลยกฟ้องป้าศรีไพร โดนกล่าวหาบุกรุกป่า จ.สระบุรี -ป.ป.ท. เตรียมดำเนินคดีจนท.ร่วมกันยัดข้อหา

โดย parichat_p

29 มี.ค. 2566

903 views

ย้อนกลับไปในช่วงปลายปี 2564 มีชาวบ้าน อ.วิหารเเดง จ.สระบุรี ครอบครัวหนึ่ง ส่งเรื่องร้องเรียนมาที่ข่าว 3 มิติ หลังถูกเจ้าหน้าที่กลุ่มหนึ่ง นำกำลังเข้าไปตรวจยึด-จับกุมในข้อหาบุกรุกป่า ขณะนั้นข่าว 3 มิติ ส่งทีมข่าวลงพื้นที่ติดตามข้อเท็จจริงเรื่องนี้ ปรากฏหลักฐานชัดเจน ทั้งพยานบุคคล สภาพที่ตั้งปัจจุบัน รวมทั้งภาพถ่ายทางอากาศย้อนหลัง จนได้ข้อมูลที่สอดคล้องเเละเชื่อได้ว่า "นางศรีไพร ตุ่นสมบัติ" ซึ่งเป็นผู้ถูกกล่าวหา ได้รับการอนุญาต ผ่อนผันให้อาศัยทำกินกับครอบครัวในพื้นที่ป่าบริเวณนี้มาตั้งเเต่ปี 2512 เเม้จะมีหลักฐานมาเเย้งข้อกล่าวหา


เเต่หลังจากนั้นไม่นานก็ได้รู้ข่าวว่า นางศรีไพร ซึ่งขณะนี้อายุ 65 ปี ถูกพนักงานสอบสวนเเละอัยการทำสำนวนส่งฟ้องศาล กลายเป็นจำเลยในคดีบุกรุกป่า เวลานั้นเธอเกือบจะถูกคุมขัง เพราะไม่มีเงินหรือมีหลักทรัพย์ไปยื่นขอประกันตัว ยังดีที่มีข้าราชการกลุ่มหนึ่งเข้าไปช่วยทำเรื่องขอประกันตัว จัดหาทนายอาสามาช่วยสู้คดีในชั้นศาล การต่อสู้ทางกระบวนการยุติธรรมผ่านไปนานกว่า 1 ปี กระทั่งวันนี้ศาลจังหวัดสระบุรี ได้มีคำพิพากษาให้ยกฟ้อง นางศรีไพร บอกว่า จากนี้จะไปยื่นเรื่องกับ ป.ป.ท.เเละ ป.ป.ช. ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ตั้งเเต่ชั้นจับกุม พนักงานสอบสวน อัยการ เเละทุกคนที่เกี่ยวข้อง หลังพบข้อมูลว่า มีคนหลายกลุ่มต้องการเข้ามาทำประโยชน์จากที่ทำกินผืนนี้


นางศรีไพร ตุ่นสมบัติ ในวัย 65 ปี เล่าเปิดใจกับทีมข่าว 3 มิติ หลังต้องทนทุกข์ใจมานานกว่า 2 ปี ถูกกล่าวหา เเละตกเป็นจำเลยคดีบุกรุกป่า ในที่ทำกินของตัวเอง


โดยศาลพิพากษาให้ยกฟ้องจำเลย เเละชี้ว่านางศรีไพร ไม่ได้กระทำความผิดตามข้อกล่าวหา ส่วนฝ่ายโจทก์ ทั้งคนที่จับกุม รวมทั้งอัยการที่คนที่สั่งฟ้อง ไม่ได้มาร่วมรับฟังคำพิพากษาของศาลในวันนี้


นางศรีไพร ปัจจุบันอายุ 65 ปี อาศัยอยู่กับลูกหลาน 4-5 คน ส่วนสามีเพิ่งเสียชีวิตก่อนหน้านี้ไม่นาน เธอเล่าว่า เขียนหนังสือไม่ได้เเละอ่านไม่ออก อาศัยทำกินที่นี่มานานเเล้ว ไม่มีเอกสารสิทธิ์ อาศัยที่หลวงปลูกผักทำเกษตร กระทั่งช่วงกลางปี 2564 มีชายคนหนึ่งมาขออาศัยด้วยด้วยความสงสาร จึงเเบ่งพื้นที่ให้สร้างกระท่อม เเต่วันหนึ่งชายคนนี้กลับมีท่าทีเปลี่ยนไป เอาญาติมาอยู่ เริ่มข่มขู่ อ้างตัวเป็นเจ้าของสิทธิ จนเธอกับลูก ๆ ต้องไปร้องศูนย์ดำรงค์ธรรม เเต่ต่อมากลับถูกเจ้าหน้าที่ป่าไม้กลุ่มหนึ่ง เเจ้งจับดำเนินคดีกับเธอเเละคู่กรณี กระทั่งมารู้ในภายหลังว่า คู่กรณีซึ่งมีพฤติกรรมทั้งบุกรุกเเละเเผ้วถาง กลับไม่ถูกฟ้อง จำเลยคดีนี้มีเเต่เธอที่โดนอยู่ฝ่ายเดียว


เธอกับครอบครัว ตั้งข้อสังเกตถึงความไม่ชอบมาพากล สงสัยว่าการจับกุม การสอบสวน การสรุปสำนวนที่ผ่านมา ชอบด้วยกฏหมายหรือมีสิ่งใดเเอบเเฝงหรือไม่ เธอยอมรับว่า หากวันนั้นไม่ได้ข้าราชการกลุ่มหนึ่ง ช่วยทำเรื่องประกันตัว เเละจัดหาทนายให้ ก็ไม่รู้ว่าชะตากรรมหลังจากนั้นจะเป็นอย่างไร เพราะลำพังเงินที่เอาไว้ใช้จ่ายในครอบครัวก็ยังต้องอาศัยลูก ๆ รับจ้างรายวัน


ที่ทำกินผืนนี้ อยู่ในเขตป่า ตามพรบ.ป่าไม้ 2484 อยู่ติดกับเเนวเขตรับผิดชอบของกรมอุทยานฯ ภาพมุมสูงจะเห็นว่าปัจจุบัน รอบ ๆ ที่ทำกินของนางศรีไพร หลังติดเขาหน้าติดน้ำ กลายเป็นสุสานกลายเป็นฮวงซุ้ยของครองครัวเชื้อสายจีนไปเกือบทั้งหมดเเล้วเหลือเพียง ที่ 4 ไร่เศษหย่อมเดียวของนางศรีไพร ที่ยังคงสภาพเดิม


ล่าสุด สำนักงาน ป.ป.ท. เขต 1 ซึ่งติดตามเรื่องนี้ตั้งเเต่ต้น ยืนยันกับข่าว 3 มิติ ได้รับทราบคำพิพากษาเเล้ว จากนี้จะเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกระดับ ตั้งเเต่ชั้นจับกุม สอบสวน เเละเจ้าหน้าที่รัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งสงสัยว่าอาจมีความพยายามเปลี่ยนข้อเท็จจริง เปลี่ยนเเปลงพยานหลักฐานบางอย่างออกจากสำนวน

คุณอาจสนใจ

Related News