พบวัสดุปนเปื้อนซีเซียม-137 เพิ่มอีก ในเตาหลอมโลหะโรงงาน

วันนี้ทีมปฎิบัติการฉุกเฉินทางนิวเคลียร์และรังสี สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ(ปส.) ได้เข้าตรวจปริมาณรังสีภายในและภายนอกโรงงานหลอมเหล็ก ในรัศมี 3 กิโลเมตร หลังตรวจค้น นายกิตติ์กวิน อรามรุญ หัวหน้าศูนย์ฯ ในฐานะรองโฆษก ปส.แถลงว่า พบการปนเปื้อนซีเซียม-137 เพิ่มเติมในระบบเตาหลอมโลหะ 1 เตา จากทั้งหมด 3 เตา แต่พบในระดับที่ต่ำ จึงเตรียมนำไปไว้รวมกับบิ๊กแบ๊ค 24 ถุงที่เก็บไว้ในห้องเก็บในโรงงาน



ส่วนภายในอุปกรณ์ถ่ายเทน้ำในระบบหลอมเหล็กและการดูดกรองฝุ่น ที่มีการหลอมเหล็ก เมื่อวันที่18-19 มีนาคม ที่ผ่านมา ต้องรอให้ฝุ่นเย็นลงก่อน จึงจะเข้าตรวจเก็บฝุ่นแดง เพื่อตรวจปริมาณรังสีต่อไป



ส่วนผลตรวจปริมาณรังสีในสิ่งแวดล้อม ภายในโรงงาน และพื้นที่รอบโรงงานเกิดเหตุ พบมีค่าเท่ากับธรรมชาติ ไม่ปนเปื้อน พร้อมกันนี้เตรียมลงพื้นที่ 4 ชุมชน ในรัศมี 3 กิโลเมตร เพื่อตรวจสารและสร้างความมั่นใจประชาชน



ขณะที่การเก็บปัสสาวะพนักงาน70 คน จะนำส่งตรวจในห้องปฏิบัติการพิเศษ ที่สนง.ปรมาณูเพื่อสันติ



นายกิตติ์กวิน ยังบอกถึง การเคลื่อนย้ายบิ๊กแบ๊ค 24 ถุงที่หลายคนกังวลถึงความไม่ปลอดภัย ว่า ภายในวันนี้หรือพรุ่งนี้ จะปรับระบบให้ได้มาตรฐาน พร้อม ติดตั้งประตูบานเลื่อนเรียบร้อย



ส่วนผลตรวจเลือดพนักงาน ในโรงงานหลอมเหล็กทั้ง 70 คน ออกมาแล้ว  โดยนพ.สุรินทร์ สืบซึ้ง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปราจีนบุรี บอกว่า ทั้งหมด 70 คน ซึ่งเป็นแรงงานต่างด้าว 60 คน คนไทยอีก 10 คน พบว่า ค่าเม็ดเลือดขาว ค่าเกล็ดเลือด รวมถึงค่าการทำงานของตับและไตปกติ ไม่พบการปนเปื้อนซีเซียม-137 และได้นัดตรวจซ้ำอีกครั้ง ในวันที่ 5 เมษายน นี้ /ส่วนผลตรวจซีเซียมในปัสสาวะ ต้องรอผลจากสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ อีก 2 สัปดาห์จึงจะทราบผล


นพ.สุรินทร์ บอกอีกว่า การที่ผลตรวจออกมาไม่พบการปนเปื้อนในเลือด ก็ทำให้มั่นใจว่า คนใกล้ชิด ในครอบครัว ก็จะไม่พบความผิดปกติด้วยเช่นกัน ทั้งนี้การตรวจซ้ำจะทำเป็นระยะ ต่อเนื่องตามที่นักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อมเสนอมา 5 ปี



ขณะที่ภาควิศวกรรมนิวเคลียร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ตอบรับตรวจวัดปริมาณสารซีเซียม-137 ให้กับประชาชนที่กังวลจะได้รับรังสี ที่ผ่านกระบวนการหลอมมาแล้ว