สรุปข่าว

เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 15 มี.ค.66 สุริยะ-สมศักดิ์ จ่อซบเพื่อไทย / สารวัตรคลั่งย่านสายไหม / ป้าแจ้งจับชุดรปภ.นายกฯ

โดย thichaphat_d

15 มี.ค. 2566

49 views

-21 ชม.ยังไม่จบ สารวัตรคลั่งหนักกว่าเดิม หลัง ตร.เปิดฉากยิงแก๊สน้ำตา 10 นัด เข้าไปในบ้านหวังเปิดทางบุกชาร์จ แต่ผู้ก่อเหตุยิงสวนกว่า 20 นัด ทำให้สถานการณ์ยิ่งตึงเครียด เจ้าตัวลั่นอยากตาย "รองต่อ" เรียกประชุมกำหนดยุทธวิธี เตรียมยิงแก๊สน้ำตา รอบ 2 รอจังหวะชาร์จตัว ก่อนเสริมกำลังคอมมานโด ปิดล้อมบ้านพัก พร้อมกันชาวบ้านออกนอกพื้นที่ ย้ำไม่อยากสูญเสีย หลังสารวัตรคลั่งรัวปืน 48 นัดย่านชุมชน

ด้านเพื่อนบ้านเล่านาที สารวัตรคลั่งขี่ จยย.ยิงปืนรอบหมู่บ้าน เผยอยู่ตัวคนเดียว มา 1 ปี ไม่มีครอบครัว เคยก่อเหตุโวยวาย-ด่าทอชาวบ้านมาแล้ว แต่ครั้งนี้รุนแรงที่สุด คาดอยู่ลำพัง จนเกิดอาการภาวะทางจิต

-ป้านา บุก บช.ก.แจ้งดำเนินคดี ทีมรปภ. นายกฯ กลุ่มใช้กำลังปิดปาก อุดจมูก ขัดขวางการร้องเรียนเรื่องอาชีพ รับนัดรวมตัวจริง แต่ปฏิเสธก่อความวุ่นวาย เป็นเหตุได้รับบาดเจ็บ หยุดงาน ขาดรายได้ ชี้ไม่น่าทำรุนแรง

ด้าน ผบ.ตร.ยันเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ป้องกันอันตรายขบวนผู้นำ ปฏิบัติตามกฎหมาย ส่วนกองเชียร์นายกงัดคลิปอีกมุม ขณะสาวเสื้อดำไลฟ์สดในคลิประบุพูดชัด เตรียมกระโดดขวางรถนายก ไม่รู้จะโดนตำรวจจับไหม ชี้มีเจตนาเตรียมการไว้ก่อน

-ปราจีนผวาทั้งจังหวัด ท่อเก็บกัมมันตรังสี ‘ซีเซียม-137’ โรงงานผลิตไฟฟ้าหายไร้ร่องรอยนานนับเดือน ด้านบริษัทประกาศตั้งรางวัล 5 หมื่นบาท เชื่อมีคนหิ้วออกไป วอนร้านค้าอย่ารับซื้อ ย้ำอย่าผ่าออกมีอันตรายร้ายแรงต่อระบบประสาทขั้นเสียชีวิต

ด้านผู้ว่าฯยกระดับเตือนภัยระดับ 2 หวั่นเกิดอันตราย ระดมเจ้าหน้าที่ค้นหาตามแหล่งรับซื้อของเก่า ขณะที่ สธ.ยังไม่พบผู้ได้รับอันตราย เตือนหากพบวัตถุต้องสงสัยแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที

-ว่อนโซเชียลหนังสือบันทึกข้อความรองอธิบดีศาลอาญา แจงปมเพิกถอนหมายจับสว.คนดัง ระบุ ตร.ทำข้ามขั้นตอน ไม่ขออนุมัติจาก ผบช.ระดับสูง ผิดระเบียบศาล-ตำรวจ ชี้ควรออกหมายเรียก ก่อนแจ้ง ปธ.รัฐสภาทราบ ด้าน ตร.ผู้ขอหมายจับ แย้ง สืบสวนสอบสวนมากับมือมั่นใจในหลักฐาน ชี้ สว.เป็นผู้มีอิทธิพลหากออกหมายเรียกหวั่นรู้ตัว

-พี่น้องสองสาวนนทบุรี แจ้งความตำรวจ สภ.บางกรวย หลังโดนคอลเซ็นเตอร์แสบ หลอกทำทีช่วยเหลือเข้าแอปบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ แต่กลับเอาข้อมูลส่วนตัวไปใช้ ก่อนดูดเงินในบัญชีธนาคาร ระหว่างอยู่โรงพัก ยังโทรศัพท์ขอคุยกับตำรวจก่อนเย้ย "ไอ้หัวโล้น กูไม่กลัวมึงหรอก" วอนหน่วยงานเร่งช่วยเหลือชี้เป็นการซ้ำเติมประชาชน



เรื่องเล่าการเมือง

-กระแสข่าว สองรัฐมนตรีกลุ่มสามมิตร นายสมศักดิ์ เทพสุทิน และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ จะลาออกจากพรรคพลังประชารัฐย้ายไปพรรคเพื่อไทย เมื่อวานนี้แม้ทั้งสองท่านยังปิดปากเงียบ แต่ทางพลเอกประวิตร ออกมาเฉลยแล้ว

พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้มาลาแล้ว ยืนยันว่าการที่ ทั้ง 2 คนออกไปไม่ได้กระทบพรรค และไม่ได้ยื้อ หรือรั้งไม่ให้ไป เพราะเป็นเรื่องที่คิดแทนกันไม่ได้ และพรรคพลังประชารัฐ ยังมีคนเข้ามาเพิ่มอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ผู้สื่อข่าวพยายามถามเรื่องนี้กับ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีอุตสาหกรรม ถึงอนาคตทางการเมือง แต่นายสุริยะ ไม่ตอบใด ๆ

ขณะที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ก็ปฏิเสธที่จะให้ความชัดเจนเรื่องการย้ายพรรค โดยบอกเพียงว่า เมื่อถึงเวลาจะพูดเอง แต่ตอนนี้ยังเป็นรัฐมนตรียุติธรรมอยู่ ซึ่งการประชุม ครม. เมื่อวานนี้ นายสมศักดิ์ ไม่ได้เข้าประชุม ครม. ด้วย เนื่องจากไปราชการเรื่องยาเสพติดที่ จ.พิษณุโลก

ซึ่งการประชุม ครม. เมื่อวานนี้ มีรายงานด้วยว่า ครม. ได้แต่งตั้ง นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ปฎิบัติหน้าที่แทนนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กรณีที่นายสุริยะ ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ จึงถูกมองว่าเป็นกดดันให้นายสุริยะลาออกจากรัฐมนตรีด้วยหรือไม่



-ส่วนการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวาน ซึ่งคาดว่าจะเป็นการประชุมนัดสุดท้ายก่อนยุบสภา ใช้เวลาประชุมนานกว่าปกติ นายกฯมีสีหน้าเรียบเฉย ไม่ยิ้มแย้มทั้งวัน ท่ามกลางกระแสข่าวร้อนจากเหตุการณ์ที่ท่านลงพื้นที่ จ.ราชบุรี

ก่อนประชุมคณะรัฐมนตรีในช่วงเช้า ขณะ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินจากตึกไทยคู่ฟ้ามายังตึกสันติไมตรี สถานที่ประชุม ครม. สื่อได้ตะโกนสวัสดีทักทาย แต่นายกฯมีสีหน้าเรียบเฉย ไม่ได้หันมาทักทายสื่อ

ขณะที่หลังประชุม ครม. ซึ่งเมื่อวานใช้เวลานานถึง 7 ชั่วโมง จากปกติส่วนใหญ่ไม่เกิน 4 ชั่วโมงก็จะเสร็จแล้ว นายกฯก็มาแถลงข่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉย ไม่มีรอยยิ้ม และแถลงเพียงสั้น ๆ ว่าวันนี้ประชุมนาน เพราะมีเรื่องเข้าสู่การพิจารณาจำนวนมาก ส่วนเรื่องรถไฟฟ้าสายสีส้ม ไม่มีการพิจารณา ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่าครั้งนี้เป็นการประชุม ครม.ครั้งสุดท้ายก่อนยุบสภาหรือไม่ แต่ท่านนายกฯไม่ได้ให้คำตอบ

ทั้งนี้ ในการประชุม ครม.เมื่อวาน มีรัฐมนตรีลาประชุม 4 คน คือ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งช่วงบ่ายท่านก็ไปปรากฏตัวที่พรรคพลังประชารัฐ / นายชัยวุฒิ ธนาคมาณุสรณ์ รัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม อยู่ระหว่างเดินทางไปประชุมที่ต่างประเทศ / นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรียุติธรรม ไปราชการที่ จ.พิษณุโลก / และนายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์



-การประชุม ครม.เมื่อวาน มีการอนุมัติงบประมาณที่ถูกมองว่าเป็นการทิ้งทวนกว่าแสนล้าน ครอบคลุมลงทุนเมกะโปรเจ็กต์ รวมทั้งมาตรการลดค่าครองชีพประชาชน และอนุมัติขึ้นเงินกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รวมถึง อบต.

ที่เป็นไฮไลท์ คือ การอนุมัติขึ้นค่าตอบแทนนายก อบต. (องค์การบริหารส่วนตำบล) และบรรดาสมาชิก อบต. ตามข้อเสนอของกระทรวงมหาดไทย ตามที่นายกฯไปประกาศกับที่ประชุม อบต.ทั่วประเทศที่ จ.อุดรธานี เมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยจะมีผลตั้งแต่ วันที่ 1 ตุลาคม ปีนี้

อัตราค่าตอบแทนก็ขึ้นอยู่กับรายได้ของ อบต. แบ่งออกเป็น 6 ช่วง ตามในตาราง ต่ำสุด อบต.ที่มีรายได้ไม่เกิน 10 ล้านบาทต่อปี นายก อบต. มีค่าตอบแทน รวม 25,800 บาท/เดือน / สูงสุด คือ อบต.ที่มีรายได้เกิน 300 ล้านบาทต่อปี ค่าตอบแทนของนายก อบต. รวม 75,530 บาท/เดือน

ซึ่งการปรับเพิ่มเงินค่าตอบแทนดังกล่าวจะใช้งบประมาณจากรายได้ของ อบต. จากเดิม 9,522 ล้านบาท เป็น 13,774 ล้านบาท

อีกไฮไลท์ คือ อนุมัติให้ขึ้นเงินเดือนกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน โดยกำนันผู้ใหญ่บ้านได้เพิ่มเดือนละ 2 พันบาท ส่วนตำแหน่งอื่นได้เพิ่ม 1 พันบาท / รวมเป็นเงินทั้งสิ้น จำนวน 4,795 ล้านบาทต่อปี

นอกจากนี้ ครม.ได้เห็นชอบโครงการอื่น ๆ เท่าที่ทีมข่าวเรารวบรวมได้ เป็นงบประมาณมากกว่าแสนล้านบาท เช่น

-ปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล ลิตรละ 5 บาท อีก 2 เดือน คือตั้งแต่ 21 พ.ค. - 20 ก.ค. 66 โดยกระทรวงการคลังประเมินว่ารัฐจะสูญเสียรายได้ประมาณ 2 หมื่นล้านบาท

-ช่วยลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม สำหรับผู้ได้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 ปรับเพิ่มเป็น 100 บาท/คน เป็นเวลา 3 เดือน คือ เม.ย. - มิ.ย. 2566 สำหรับผู้ใช้สิทธิ 7.5 ล้านราย 150 ล้านบาท

-โครงการโคล้านครอบครัว 5,000 ล้านบาท

-โครงการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 4G/5G บนคลื่น 700 MHz ของบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) ระยะเวลา 14 ปี 61,628 ล้านบาท



-การประชุม ครม. เมื่อวานนี้ มีการจับตาถึง การอนุมัติเซ็นสัญญาร่วมทุน ก่อสร้าง โครงรถไฟฟ้าสายสีส้มฝั่งตะวันตก กับ บริษัท BEM ที่ชนะการประมูล ในที่สุด ก็ไม่สามารถพิจารณาได้ เนื่องจากมีการคัดค้านจากรัฐมนตรีบางพรรค

นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข จากพรรคประชาธิปัตย์ หนึ่งในรัฐมนตรีที่ขอให้ชะลอการพิจารณาเรื่องนี้ เปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าว ที่ประชุม ครม.ถอนออกวาระเพราะมีรัฐมนตรีหลายคนแสดงความไม่เห็นด้วยที่จะพิจารณา โดยนายกรัฐมนตรีได้รับฟังความเห็นของรัฐมนตรีทุกคน และตัดสินใจให้กระทรวงคมนาคม ถอนวาระดังกล่าว ออกไปทำให้รู้สึกสบายใจอย่างมาก

ส่วนรัฐมนตรีที่ไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ รัฐมนตรีสาธิต ระบุว่า มีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ นายนริศ ขำนุรักษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย

เช่นเดียวกับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่ยอมรับว่านายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ถอนเรื่องดังกล่าวออกจากที่ประชุม หลังมีการรับฟังความเห็นจากจากรัฐมนตรีหลายคน

ยืนยันว่า ไม่เกี่ยวข้องกับกรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ออกมาตั้งข้อสังเกตถึงกระบวนการทุจริตในโครงการนี้ และมองว่าหาก ครม. ชุดนี้อนุมัติไม่ทัน ก่อนยุบสภา ก็จะเป็นหน้าที่ของรัฐบาลชุดหน้า ถึงอย่างไรก็ต้องก่อสร้างอยู่ดี



รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/6QpMvntH5jE

คุณอาจสนใจ

Related News