ชาวบ้านร้องสื่อ พร้อมแจ้งความดำเนินคดีกับ ครูปลอมโดยคิดค่าสอนพิเศษ สูญรวมไปกว่า 2 แสน

ชาวบ้านห้วยบงกว่า 80 คน ร้องสื่อ พร้อมแจ้งความดำเนินคดีกับ ครูปลอมโดยคิดค่าสอนพิเศษรายละ 2,500 บาท มีผู้ปกครอง นำบุตรหลาน มาเรียนพิเศษรวมกว่า 60-80 คนสูญไปกว่า 2 แสน

เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2566 ชาวบ้านห้วยบงพร้อมเด็กๆกว่า 80 คนนำโดย นางศุภัคชญา ต.ห้วยบง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ เดินทางมารวมตัวกันที่บริเวณสถานีตำรวจภูธรตำบลลาดใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ โดยให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าว ว่า ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดี กับ นาย เอนก ที่ชาวบ้านอ้างว่าเป็น อาจารย์จากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งใน จ.ชัยภูมิ มาเปิดรับติวเตอร์ สอนพิเศษ ให้กับเด็กๆ ภายในหมู่บ้านห้วยบง ตำบลห้วยบง อำเภอเมืองจังหวัดชัยภูมิ โดยคิดค่าสอนพิเศษรายละ 2,500 บาท มีผู้ปกครอง นำบุตรหลาน มาเรียนพิเศษรวมกว่า 60 คน ซึ่งในเงื่อนไขในการเรียนพิเศษนั้น เด็กนักเรียนทุกคนจะต้องเรียนให้ครบ 32 ชั่วโมง แต่เมื่อมีการเรียนการสอนจริงกลับได้เรียนเพียง 3 ชั่วโมงจากนั้นชายที่อ้างตนว่าเป็นอาจารย์จากมหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ ก็ไม่มาสอนอีกเลย โดยอ้างว่าปิดคอร์สแล้ว

ดังนั้นในวันนี้ เมื่อเวลา 14.00 น. กลุ่มผู้ปกครองพร้อมเด็กๆ กว่า 80 คน จึงนัดรวมตัวกันที่สำนักงานกองทุนหมู่บ้านห้วยบง เพื่อ ขอให้ผู้สื่อข่าวมารับทราบข้อเท็จจริงเนื่องจากครูดังกล่าวจะเดินทางมาชี้แจง หลังจาก ที่ชาวบ้านห้วยบงมาเฝ้ารอนานกว่าครึ่งวัน ปรากฏว่าไม่พบชายที่อ้างตัวว่าเป็นครูมาตามนัดแต่อย่างใด ในที่สุดชาวบ้านได้ลงมติ ที่จะเดินทางไปแจ้งความดำเนินคดีจับชายที่อ้างตนว่าเป็นครู ที่สถานีตำรวจภูธรตำบลลาดใหญ่ อำเภอเมืองจังหวัดชัยภูมิ โดยแจ้งความในข้อหา หลอกลวงประชาชน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งความไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมจะได้ทำหมายเรียกตัวผู้ถูกกล่าวหามารับทราบข้อกล่าวหา ตามขั้นตอนต่อไป

ด้าน น.ส. ปนัดดา อายุ 38 ปี ตัวแทนผู้ปกครองออกมายอมรับว่า ที่โดนครูคนดังกล่าว หลอกไป 8 หมู่บ้าน รอดไป 6 หมู่บ้าน จาก14 หมู่บ้านของตำบลห้วยบง โดยคิดค่าสอนพิเศษรายละ 2,500 บาท มีผู้ปกครอง นำบุตรหลาน มาเรียนพิเศษรวม 60-80 คนสูญไปกว่า 2 แสนบาท รู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมากที่ได้หลงเชื่อครูท่านนี้ และที่สำคัญในวันนี้ผู้ปกครองทุกคนต่างให้โอกาสครูมาชี้แจงปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้นเพื่อหาทางแก้ไขร่วมกัน แต่ปรากฏว่าครู คนดังกล่าวกลับไม่ยอมเดินทางมาพบผู้ปกครองตามนัด ดังนั้นตนและผู้ปกครองทั้งหมดจึงมีความจำเป็นต้องเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งหากครูคนดังกล่าวยินยอมที่จะคืนเงินในส่วนที่เหลือให้กับผู้ปกครอง ทุกคนก็ยินดียุติเรื่องนี้และขอฝากเตือนผู้ปกครองลูก-หลานอย่าไปหลงเชื่อคนที่เราไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เมื่อเกิดเหตุแล้วจะเสียใจภายหลัง เหมือนกลุ่มของตนเองขณะนี้