สังคม

หนุ่มยันบริสุทธิ์ใจ หลังโดนปลอมบัตรประชาชน 7 ใบ ชื่อไม่ซ้ำกัน คาดฝีมือแอปเงินกู้ออนไลน์

โดย nattachat_c

10 มี.ค. 2566

18 views

อธิบดีกรมการปกครอง สั่งตรวจสอบบัตรประชาชนปลอม หลังโซเชียลแชร์กระหน่ำ คนเดียวมีถึง 7 ใบ ชื่อ-นามสกุล ไม่ซ้ำกัน เตือน ผิดฐานปลอมแปลงเอกสารโทษหนัก ทั้งจำ-ปรับ พร้อมทั้งประสานจังหวัดกาญจนบุรี แจ้งความดำเนินคดีเอาผิดตามกฎหมาย ด้านเจ้าของตัวจริงเข้าพบตำรวจ ยืนยันความบริสุทธิ์ ชี้ ตนเองไม่ได้ทำผิด เชื่อถูกนำข้อมูลบัตรจากการแอปเงินกู้ออนไลน์


กรณีอธิบดีกรมการปกครอง เปิดเผยข้อมูลว่า มีการตรวจพบว่าการปลอมแปลงบัตรประจำตัวประชาชนของชายหนุ่มรายหนึ่ง ที่มีภูมิลำเนาอยู่ที่ตำบลลลาดหญ้า อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี นำไปใช้ในชื่อต่างๆ มากถึง 7 ใบ ในโลกออนไลน์ พร้อมทั้งได้มีการสั่งการให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเหตุใด จึงมีบัตรประจำตัวประชาชนปลอมของชายหนุ่มคนดัง กล่าวไปใช้ในการหลอกลวงประชาชนในการซื้อขายผ่านทางเฟซบุ๊กได้นั้น


โดยเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (9 มี.ค. 66) นายภาคินได้เดินทางมายังสถานีตำรวจภูธรลาดหญ้า เพื่อเข้าพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ พร้อมให้ข้อมูลกับผู้อำนวยการส่วนป้องกันและปราบปรามการทุจริต การทะเบียนและบัตรประจำตัวประชาชน สำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง ที่ได้ลงพื้นที่มาสอบถามข้อมูลจากนายภาคินด้วยตนเอง


โดยหลังจากเข้าให้ข้อมูลเสร็จเรียบร้อย นายภาคิน ได้เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองได้ทราบว่า มีการนำบัตรประชาชนของตนเองไปปลอมแปลงเพื่อใช้หลอกลวงประชาชนครั้งแรก เมื่อช่วงเดือนกันยายน 2565 โดยนำไปใช้หลอกโอนเงินมัดจำซื้อขายรถจักรยานยนต์ในเพจซื้อขายรถมือสองแห่งหนึ่ง


โดยมิจฉาชีพได้ใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ เปลี่ยนแปลงชื่อ นามสกุลบนบัตรของตนเองแล้วนำไปใช้เป็นหลักฐานส่งให้กับผู้ที่หลงเชื่อโอนเงินมัดจำมาให้แล้วเบี้ยวไม่ยอมส่งมอบรถ จนผู้เสียหายไปแจ้งความและมีการตรวจสอบเลขประจำตัวบนบัตรประชาชนใบดังกล่าวจนพบว่าเป็นบัตรของตน ตนจึงได้ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าตนถูกปลอมแปลงเอกสารบัตรประชาชน


ซึ่งหลังจากแจ้งความเรียบร้อย ตนก็คิดว่าทุกอย่างจะจบ มิจฉาชีพที่นำบัตรของตนไปใช้คงจะหยุดก่อเหตุและเลิกใช้บัตรประชาชนของตน แต่กลายเป็นว่า มิจฉาชีพรายดังกล่าว ยังคงนำเอาบัตรประชาชนของตนไปใช้ โดยใช้การเปลี่ยนแปลงชื่อ นามสกุล สลับเลขประจำตัวบนบัตรไปมา แต่ยังคงใช้รูปและใช้ที่อยู่ของตนในการก่อเหตุเรื่อยมา ทำให้จนถึงตอนนี้ตนเองถูกออกหมายเรียกในคดีหลอกลวงลักษณะเดียวกันนี้ถึง 12 คดี


และยังมีคดีที่ผู้เสียหายไม่ได้แจ้งความ แต่เข้ามาติดต่อหาตนโดยตรงเพราะคิดว่าตนเองเป็นมิจฉาชีพอีกนับสิบราย ซึ่งตนก็ได้แสดงความบริสุทธิ์ใจให้ตรวจสอบเลขบัญชีที่ฮอนเงินว่าไม่ได้เป็นของตนและตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด


ส่วนสาเหตุที่มิจฉาชีพรายนี้ สามารถนำบัตรประจำตัวประชาชนของตนไปปลอมแปลงได้นั้น น่าจะเป็นเพราะเมื่อปีที่แล้ว ตนเองได้ไปสมัครแอปเงินกู้ออนไลน์แอปหนึ่ง ซึ่งทางแอปต้องให้ส่งรูปถ่ายบัตรประชาชน พร้อมถ่ายรูปของตนร่วมกับบัตรประชาชน เพื่อเป็นการยืนยันตัวตนสมัครใช้แอป


ซึ่งตนก็ได้ส่งไปให้ตามที่ขอพร้อมเสียค่าธรรมเนียมอีก 500 บาท เพื่อทำเรื่องขอกู้เงินห้าหมื่นบาท แต่สุดท้ายเงินกู้ก็ไม่ได้รับอนุมัติ ตนต้องถูกหลอกเสียเงินฟรีไป 500 บาท แถมยังถูกนำบัตรประชาชนไปปลอมแปลงก่อคดีอีกนับสิบคดี และยังต้องกลายเป็นคนที่ถูกผู้คนในสังคมเข้าใจว่าเป็นมิจฉาชีพไปด้วย  

-------------

ด้านนายธนณัฏฐ์ ศรีสัตน์ นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า บัตรประจำตัวประชาชนทั้ง 7 ใบ เป็นบัตรปลอมทั้งหมด และจากการเข้าไปดูในฐานข้อมูลไม่พบข้อมูลเช่นกัน


ถามว่าเมื่อเป็นเช่นนี้ทางอำเภอจะดำเนินการอย่างไรนั้น เรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นที่เรา และทราบมาว่าคนที่นำบัตรฯ ไปหลอกลวงอยู่ทางภาคเหนือ ที่อาจจะเกี่ยวข้องกับขบวนการคอลเซ็นเตอร์ที่หลอกลวงประชาชน


ซึ่งขอแจ้งให้ทราบว่าปัจจุบันการทำบัตรประชาชนสามารถไปทำได้ในทุกสำนักทะเบียนทั่วประเทศ เมื่อเห็นบัตรดังกล่าวเป็นคนเมืองกาญจนบุรี ประชาชนจึงเข้าใจว่าอำเภอเมืองกาญจนบุรีจะมีการทุจริต ซึ่งความจริงแล้วไม่ใช่อย่างนั้น เพราะถ้าหากมีการทุจริตจริงเมื่อเข้าไปดูในฐานข้อมูลก็จะรู้ได้ทันทีเลยว่าบัตรออกมาจากสำนักทะเบียนไหน และจากการตรวจสอบบัตร ดังกล่าวพบว่าบุคคลดังกล่าวบ้านอยู่เทศบาลตำบลลาดหญ้า แต่เจ้าของมาทำบัตรที่เทศบาลเมืองกาญจนบุรี ซึ่งเมื่อทราบเรื่องดังกล่าวตนก็เป็นห่วงว่าเจ้าหน้าที่ของเรามีการทุจริตหรือไม่ จึงรีบทำการตรวจสอบโดยด่วน แต่ก็ไม่พบการทุจริตแต่อย่างใด

-------------

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/ih4DLljUsgc

คุณอาจสนใจ

Related News