DSI แจงการยึดรถแอสตันมาร์ติน

หลังจากเมื่อวานนี้ นายปราปต์ปฎล สุวรรณบาง นักแสดง ได้เข้ายื่นหนังสือติดตามความคืบหน้าคดีฟอกเงินของตัวเองต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ และยังมีการกล่าวพาดพิงถึงนายพงษธร อินอำนวย หรือ ผอ.เค เรื่องการบุกเข้าคอนโดมิเนียมของสาวประเภทสองซึ่งเป็นเพื่อนของ น.ส.ภคมน สีลุน และได้ทำการตรวจยึดทรัพย์สินภายในห้องพักโดยไม่มีหมายค้นจากศาล รวมถึงเข้ายึดรถยนต์หรู แอสตันมาร์ติน ที่บ้านพักแห่งหนึ่งในจังหวัดราชบุรี หลังจากนายปราปต์ปฎลขับไปฝากจอดหนีน้ำท่วมและหนีเพื่อนสาวประเภทสอง โดยระบุว่า นายพงษธร ได้กระทำการตรวจยึดรายการทรัพย์สินโดยมิชอบด้วยกฎหมายนั้น



ทีมข่าวได้สอบถามประเด็นดังกล่าว กับ นายพงษธร ว่า นางสาว ภคมน ได้มีการนำรถแอสตันมาร์ติน ไปซุกซ่อนที่อื่น และนำไปขับใช้ในขีวิตประจำวัน อีกทั้งยังรายงานว่ามีการนำไปเร่ขายอีกด้วย เจ้าหน้าที่จึงล่อซื้อ แต่พอจะล่อซื้อปรากฏว่าตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นรถของนายอภิรักษ์ โกฎธิ ที่เป็นของกลาง ตำรวจจึงประสานข้อมูลทางลับมายังตนว่า นางสาว ภคมน และ ผู้ชายอีกคนหนึ่งได้นำรถคันนี้มาเร่ขาย ตนจึงได้รับหน้าที่ให้ติดตามรถคันนี้แต่ก็หาไม่เจอ กระทั่งเพื่อนสาวประเภทสองของ น.ส.ภคมน ได้ให้ทนายความติดต่อมายังตน ให้เข้าไปดำเนินการยึดทรัพย์สินภายในห้องพักคอนโดมิเนียมที่เขาเป็นเจ้าของ เพราะ น.ส.ภคมน ได้นำทรัพย์สินไปฝากไว้ และเนื่องด้วยเพื่อนสาวประเภทสองรายนี้ได้ปรึกษาทนายความและกลัวความผิด ซึ่งขณะนั้นตนเป็นเลขาคดีดังกล่าว จึงได้เดินทางไปที่ห้องพักดังกล่าวและขอดูหลักฐานเอกสารว่าห้องพักนี้ใครเป็นเจ้าของ และเมื่อตรวจดูสัญญาเช่า ก็พบว่าเป็นห้องของสาวประเภทสองจริง มีคีย์การ์ดจริง ตนจึงไม่ได้ขอหมายค้นต่อศาล



นายพงษธร ยังบอกอีกว่า ในวันนั้นตนได้เข้าไปตรวจค้นในห้องพักคอนโดฯแห่งนี้ โดยมีเจ้าของห้องอยู่ด้วย และสาวประเภทสองรายนี้ก็ได้นำทรัพย์สินหลายรายการใส่เตรียมไว้ในกระเป๋าเดินทางหมดแล้ว และเขาก็แจ้งว่า ไม่ได้เปิดกระเป๋า ตนจึงให้เปิดและนำของในกระเป๋าออกมาบันทึกภาพ รวมถึงทำบันทึกรายการทรัพย์สินว่ามีอะไรบ้าง และให้เซ็นกำกับว่าเจ้าหน้าที่ยึดเพื่อนำส่งให้พนักงานสอบสวน นอกจากนี้ ยังพบว่ามีกุญแจรถแอสตันมาร์ติน (Aston Martin) ตนจึงสอบถามว่ากุญแจรถคันนี้เป็นของใคร สาวประเภทสองจึงบอกว่าเป็นรถของ น.ส.ภคมน และนายปราปต์ปฎล ได้นำไปซุกไว้ที่ต่างจังหวัด ตนจึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพิกัดรถจากจีพีเอส และติดตามเจอว่ารถจอดอยู่ที่บ้านพักแห่งหนึ่งในจังหวัดราชบุรี วันรุ่งขึ้นจึงได้ไปที่บ้านหลังนี้ เเละเชิญเจ้าของบ้านมาสอบถามว่าเหตุใดรถคันนี้จึงมาจอดอยู่ที่นี่ เพราะเป็นรถที่เจ้าหน้าที่ติดตามมานาน ทางเจ้าของบ้านจึงยอมรับว่าเขาเป็นนักแสดงคู่กับนายปราปต์ปฎล และนายปราปต์ได้นำรถมาฝากเขาไว้สองรอบแล้ว คือ มีการนำรถขับออกไปเที่ยวแล้วก็นำกลับมาจอดฝากไว้ อย่างไรก็ตาม เจ้าของบ้านรายนี้ไม่ทราบว่ารถคันนี้เป็นของใคร รู้แต่เพียงว่านายปราปต์แจ้งกับเขาว่าเป็นรถของแฟนสาวตัวเอง คือ กู๋กี๋ จึงขอฝากรถจอดไว้ที่นี่



นายพงษธร เผยต่อว่า ไม่ใช่เพียงการฝากจอดรถแต่เจ้าของบ้านยังให้การว่านายปราปต์ได้เสนอขายรถคันนี้กับตัวเองอีกด้วย แต่เจ้าของบ้านก็ไม่ได้รับซื้อ / จากนั้นตนจึงได้ยึดรถคันดังกล่าว ทำให้นายปราปต์ ไปแจ้งความที่ สน.สุทธิสาร ว่า ตนมีพฤติกรรมไปบุกคอนโดมิเนียม ตรวจยึดทรัพย์สินต่างๆและเข้าไปยึดรถแอสตันมาร์ตินโดยมิชอบด้วยกฏหมาย รวมถึงยังได้มาร้องที่กรมสอบสวนคดีพิเศษให้ตั้งคณะกรรมการสอบตน ซึ่งก็ได้มีการตั้งเรื่องตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดแล้ว ซึ่งมีหลักฐานยืนยันว่า ทรัพย์สินที่ยึดมาเป็นของกลางและเข้าไปปฎิบัติหน้าที่โดยถูกต้อง ทำให้ตำรวจ สน.สุทธิสาร ไม่แจ้งข้อหากับตน รวมไปถึงอัยการก็ไม่มีการสั่งฟ้องเนื่องจากของทุกชิ้นเป็นของกลางจริงๆ



เมื่อถามว่านายปราปต์ทราบหรือไม่ว่ารถแอสตันมาร์ตินที่ขับไปจอดฝากไว้ที่บ้านเพื่อนที่ราชบุรี เป็นหนึ่งในรายกาาทรัพย์สินจากคดี Forex-3D นายพงษธร ระบุว่า ในวันที่แชร์ Forex-3D ล้ม ประชาชนทราบกันทั่วประเทศ และ น.ส.ภคมน กับนายปราปต์ปฎลเคยคบกันมาก่อนที่จะไปแต่งงานกับนายอภิรักษ์ แต่หลังจากแต่งงานกับนายอภิรักษ์นั้น น.ส.ภคมน ก็มีรถแอสตันมาร์ตินทันที แต่เมื่อแชร์ Forex-3D ล้ม รถคันนี้ก็จดทะเบียนไม่ได้มาสองปีกว่า รวมถึงยังมีการเสนอขายรถแก่เพื่อน ดังนั้น นายปราปต์ปฎลจะไม่ทราบที่มาของรถแอสตันมาร์ตินได้อย่างไร ซึ่งเพื่อนเจ้าของบ้านก็ได้สอบถามว่าทะเบียนรถอยู่ไหน แต่นายปราปต์ก็ได้ระบุไปว่า ทะเบียนไม่มี รถจดทะเบียนไม่ได้