วัยรุ่นระยองสุดกร่างกระทืบคนแก่ตาเขียวก่อเหตุกลางวันแสกๆ เหตุบอกให้จ่ายค่ามือถือ

วันที่ 7 มีนาคม ช่วงเที่ยงวันที่ผ่านมา นางวิมลรัตน์  อายุ 53 ปี  ได้เดินทางไปทำธุระ ระหว่างทาง ตรงถนนสายวัดช้างชนศิริราษฎร์บำรุง-ศาลาแดง ต.ตะพง อ.เมือง จ.ระยอง ได้เจอกับกลุ่มวัยรุ่นทำร้าย



หลังจากเจอวัยรุ่นกลุ่มดังกล่าว 1 ในกลุ่มวัยรุ่นเป็นชาย ได้กระโดดถีบตรงซี่โครง พอป้าวิมลรัตน์ ล้มลงได้ก็เข้าไปเตะเตะยอดหน้าตรงขอบตาจนเขียวช้ำ ระหว่างก่อเหตุ กลุ่มวัยรุ่นมากันหลายคนทั้งผู้หญิงผู้ชาย ต่างส่งเสียงเชียร์



เอามันเลย กระทืบมันเลย ป้าวิมลรัตน์ ดิ้นรนเอาตัวรอดคว้าโทรศัพท์จะโทรแจ้งตำรวจ พอจับโทรศัพท์ได้วัยรุ่นได้เตะโทรศัพท์จนปลิว จังหวะนั้นมีรถผ่านมาพอดีกลุ่มวัยรุ่นเลยพากันขับรถหนีไป



ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่เกิดเหตุไปพบกับ ป้าวิมลรัตน์ และลูกสาว ชื่อ น.ส.วิชาดา  อายุ 28 ปี ป้าวิมลรัตน์ ได้พาชี้จุดเกิดเหตุที่ถูกกระทืบ ผู้สื่อข่าวได้ถามเปิดใจว่า ป้าครับ สาเหตุที่โดนวัยรุ่นกระทืบเนี่ยเกิดจากอะไร ป้าวิมลรัตน์ เล่าเปิดใจว่า

เมื่อปีที่แล้วเพื่อนของตนเองซึ่งเป็นแม่ของน้องผู้หญิง ที่อยู่ในกลุ่มวัยรุ่นที่มาวันนี้



ได้มายืมบัตรประชาชนไปทำเรื่องใช้บริการโทรศัพท์ ต่อมาติดค้างค่ามือถือกว่า 5 พันบาททางค่ายมือถือจึงมาทวงตนเอง ตนเองเลยไปบอกกับเพื่อนว่าให้ไปชำระและจ่ายเงินด้วย ต่อมาเพื่อนได้นำเรื่องที่เกิดขึ้น

ไปเล่าให้ลูกสาวเขาฟังลูกสาวจึงไม่พอใจ เอาเรื่องไปบอกแฟนเขา จากนั้นจึงมีการโพสต์ข่มขู่ จะทำร้ายครอบครัวป้าเรื่อยมา จนมาวันนี้ขณะขับรถมาทำธุระ พอมาถึงที่เกิดเหตุ เขาออกมาจากวัดพอดี ก็เลยมาทำร้ายป้าจนเกิดเหตุการณ์ขึ้น



ผู้สื่อข่าวจึงถามต่อว่า จำได้แม่นเลยใช้ไหมคนที่มาทำร้ายในวันนี้ ป้าวิมลรัตน์ ยืนยันว่าจำได้แม่นเลย



ผู้สื่อข่าวยังได้สัมภาษณ์ลูกสาว ป้าวิมลรัตน์ เพิ่มเติม โดยลูกสาวของป้ายืนยันว่า ทางครอบครัวถูกข่มขู่มาตลอด เราก็อยู่แบบหวาดระแวง เพราะเขาเป็นวัยรุ่นในพื้นที่ มีพรรคพวกเยอะ เหตุการณ์ในวันนี้ที่แม่โดนทำร้าย



มาทราบเรื่องช่วงบ่าย 2 ที่ผ่านมา ตอนแรกมีเพื่อนทักมาบอกแต่ตนเองนอนหลับ จนแม่กลับมาบ้านด้วยอาการสบักสบอมจึงถามที่มาที่ไปจึงทราบว่าแม่โดนวัยรุ่นทำร้ายมา จากนี้จะเร่งพาแม่ไปตรวจร่างกายและพาไปแจ้งความที่ สภ.เมือง ระยอง ยืนยันจะดำเนินคดีคนที่ทำร้ายแม่ให้ถึงที่สุด



ถือว่าอุกอาจมากกับเหตุการณ์นี้คงต้องฝาก สภ.เมืองระยองเร่งดำเนินการคลี่คลายคดีนี้โดยเร็วเพราะก่อเหตุกลางวันแสกๆแถมยังอยู่ใกล้กับวัดอีกด้วยช่างอุกอาจจริงๆ