ฉาวไม่พัก! โซเชียลแชร์ชายห่มผ้าเหลืองพาสีกาเข้ารีสอร์ต เชิดสิงโต เป่าปี่ ตีฉาบ

ฉาวไม่เลิก! โลกออนไลน์แฉชายห่มเหลืองพาสีกาเข้ารีสอร์ต เชิดสิงโต เป่าปี่ ตีฉาบ พอสีกาอยากจะเลิก ชายห่มเหลืองไม่พอใจถึงขั้นตบสีกา



โลกออนไลน์แฉเรื่องราววงการชายห่มผ้าเหลือง หลังจากมีคลิปชายหัวโล้นที่คนแฉบอกว่า เป็นพระอายุ 39 ปี กำลังยืนใส่เสื้อผ้าในห้องที่รีสอร์ต พร้อมระบุว่า ฉาวไม่เลิก เจ้าสำนักสงฆ์ในอำเภอจตุรพักตร์พิมาน จังหวัดร้อยเอ็ด เชิดสิงโต เป่าปี่ ตีฉาบกับสีกาในรีสอร์ต ทำมาแล้ว 5 ปี



นอกจากนี้ยังมีภาพที่ระบุว่าเป็นเจ้าสำนักรายนี้ นุ่งผ้าขนหนู ยืนเปิดทีวีในรีสอร์ต ซึ่งในภาพถ่ายติดภาพปลายเท้าผู้หญิงนอนอยู่บนเตียง



โลกออนไลน์ยังแฉอีกว่า นอกจากสีกาที่คบกันมา 5 ปี พระรูปนี้ยังได้ฝึกวิทยายุทธ์คาถาอมเทียน จากเจ๊เจ้ามือหวยในจังหวัดร้อยเอ็ด โดยพาไปฝึกที่ต่างจังหวัด ทั้งยโสธร มหาสารคาม กาฬสินธุ์ ไม่เว้นแม้แต่ชานเมืองที่ร้อยเอ็ด เจ๊เจ้ามือหวย ก็ถูกใจชายหัวโล้นคนนี้ ถึงขนาดซื้อรถใหม่ป้ายแดง ประเคนเป็นรางวัลให้ แทนรถเก๋งนิสสันคันเก่า ๆ



เจ้าสำนักรายนี้ถูกเพจในโลกออนไลน์แฉมาแล้วถึง 8ep. นอกจากพฤติกรรม พาสีกาเข้ารีสอร์ตเชิดสิงโต ส่งแชทสยิว ส่งภาพบวบไปโชว์สีกา เพื่อชวนไปมีอะไรด้วย ก็ยังถูกแฉเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ โดยเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว เพิ่งจัดงานบริจาคเงิน บรรเทาทุกข์ บำบัดกิเลส และยังถูกแฉเรื่องโกงเงินกฐินด้วย



ส่วนสาเหตุที่ถูกแฉเป็นเพราะสีกาคนแรกที่เคยมีอะไรกับพระรูปนี้มา 5 ปี อยากจะขอเลิก แต่พระไม่เลิก แล้วยังไปทำร้ายเขา จึงต้องเอาเรื่องมาแฉในเพจ เพื่อขอจบความสัมพันธ์



ผู้สื่อข่าวตรวจสอบ พบว่า พระที่ถูกแฉเป็นเจ้าสำนักของสำนักสงฆ์แห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ชายป่า ที่ห่างจากชุมชน บ้านหนองชาด อำเภอจตุรพักตร์พิมาน ประมาณ 2 กิโลเมตร จึงเดินทางไปตรวจสอบ ก็ไม่เจอพระรูปที่ถูกกล่าวหา ที่กุฏิถูกคล้องกุญแจล็อกไว้ แต่ตู้เย็นยังเสียบปลั๊กใช้งานอยู่



ส่วนในบริเวณวัด ก็ไม่เจอพระ เจอเพียงโยมอุปัฏฐากชายหญิงจำนวนหนึ่ง นั่งพูดคุยกันอยู่ พร้อมบอกว่า เรื่องที่เอามาแฉกันไม่เป็นเรื่องจริง โดยนางสาวกาญจนา ยันว่า รู้จักเจ้าสำนักสงฆ์ เป็นอย่างดี ตั้งแต่มาตั้งสำนักสงฆ์ในพื้นที่กว่า 3 ปี ก็ประพฤติตนดี ไม่มีพฤติกรรมตามที่ถูกกล่าวหา ทำอะไรก็เปิดเผยตามวินัยสงฆ์ ไม่เคยมีเรื่องชู้สาว ไม่มีพฤติกรรมที่ผิดทำนองคลองธรรม เชื่อว่า ถูกกลั่นแกล้งจากคนที่ไม่ประสงค์ดี ภาพที่เห็นน่าจะเป็นการไปทำกิจนิมนต์ของลูกศิษย์ ที่มีอยู่หลายจังหวัด แล้วจัดฉากถ่ายภาพแบล็คเมล์




จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางออกจากสำนักสงฆ์ ก็ไปเจอชาวบ้านอีกกลุ่มดักรออยู่ โดยนางรำไพ บอกว่า เคยศรัทธาพระรูปนี้ แต่ระยะหลังเห็นความประพฤติที่ไม่ตรงตามวินัยสงฆ์หลายอย่าง เช่น เปิดบริการคล้ายนวดแผนโบราณให้กับประชาชน เห็นว่าน่าจะขัดวินัยสงฆ์ ทำให้เสื่อมศรัทธา ถูกชาวบ้านไล่ที่ตั้งสำนักสงฆ์ 3 ครั้ง กระทั่งได้ซื้อที่ดิน 2 ไร่ มาตั้งสำนักสงฆ์ถาวร ตอนที่คัดค้านเรื่องการเปิดบริการนวดแผนโบราณ ก็แจ้งตำรวจมาจับตนเอง กล่าวหาว่าลักจีวรของสำนักสงฆ์ไป 10 ผืน จนต้องขึ้นศาล แต่สุดท้ายศาลตัดสินว่าตนเองไม่ผิด จากนั้นตนยิ่งไม่ศรัทธา



ด้านนายสมการ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 บ้านดอนชาติ บอกว่า ตนและชาวบ้านที่นี่ไม่ค่อยเข้าร่วมกิจกรรมที่สำนักสงฆ์จัด ส่วนใหญ่จะไปทำบุญที่วัดภายในหมู่บ้านเป็นหลัก เพราะตั้งมาโดยถูกต้อง เป็นที่ยอมรับของชาวบ้าน  หลังสำนักสงฆ์เกิดข่าวฉาว ก็มีเจ้าหน้าที่จากสำนักพุทธ และพระตัวแทนจากเจ้าคณะตำบล และอำเภอลงพื้นที่มาสอบสวนข้อเท็จจริง แต่ก็ไม่เจอพระรูปดังกล่าว โดยพบว่า สำนักสงฆ์แห่งนี้ ก่อตั้งโดยไม่ได้ขออนุญาต ซึ่งผิดกฎหมาย