'ชัชชาติ' เล็งสำรวจที่ดินกทม. หลังพบทำเกษตรเลี่ยงภาษีที่ดิน สูญรายได้ 100 ล้านบาท

ชัชชาติ เล็งสำรวจที่ดินกรุงเทพ หลังพบทำเกษตรเลี่ยงภาษีที่ดิน สูญรายได้ 100 ล้านบาท ปิ้งไอเดียชวนคนต่างถิ่นทำงานกรุงเทพย้ายทะเบียนบ้าน เข้าถึงสวัสดิการพื้นฐาน


นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้สัมภาษณ์ประเด็นการจัดเก็บภาษีหลังประชุมผู้บริหารไปว่า จากที่ดูตัวเลขรายได้หลักของกรุเทพมหานครมาจาก ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ขณะนี้เก็บข้อมูลพื้นฐานได้ 96% โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมเข้าระบบแล้ว 100% ส่วนนโยบาบรัฐบาลที่ลดภาษีที่ดิน 15% นั้นมีผลกระทบแต่ไม่มาก อย่างไรก็ตามปีนี้ได้ตั้งเป้าเก็บภาษีที่ดินให้ไม่น้อยกว่าปีที่แล้ว และเน้นย้ำว่าต้องเก็บเต็มเม็ดเต็มหน่วย นอกจากนี้ตั้งคณะทำงานในการหารายได้ทางอื่นอย่างมีประสิทธิภาพ แต่ไม่ทำให้ประชาชนลำบาก


ทั้งนี้เมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว ได้จัดผู้ว่าสัญจรที่เขตราชเทวี ได้สำรวจพบ ที่ดินแปลงนึงพื้นที่ 7 ไร่ หากเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง จะอยู่ที่ 4,000,000 บาท แต่เจ้าของได้ปลูกพืชพรรณเพื่อเป็นที่ดินแปลงเกษตร จะเก็บได้ 300,000 บาท ซึ่งสูญรายได้ไป 3,000,000 บาท จึงได้มอบหมายให้รองผู้ว่าฯ และ ฝ่ายรายได้ ลงสำรวจว่าที่ดินในกรุงเทพฯ มีการเลี่ยงและใช้วิธีทำเป็นแปลงเกษตรมีกี่ที่ เมื่อรวบรวมได้แล้วจะส่งเรื่องให้รัฐบาลรับทราบต่อไป โดยประเมินความเสียหายประมาณ 100 ล้านบาท ซึ่งอาจไม่ตรงกับเจตนารมณ์ และมีผลกระทบต่อรายได้ของ กทม.


ขณะที่ภาษีป้าย ผู้จัดเก็บคือกรมขนส่งทางบก ซึ่งปีที่ผ่านมามีรายได้ลดลง จึงเตรียมร่วมมือกับกรมขนส่งทางบก ในการขอข้อมูลและทำหนังสือทวงถามการจ่ายภาษีป้าย ซึ่งทาง กรุงเทพมหานคร เป็นผู้รับผิดชอบส่วนนี้และเตรียมลงนามความร่วมมือร่วมกัน (MOU) ภายในสัปดาห์นี้


นอกจากนี้ ยังเตรียมเสนอแก้ พรบ. ให้ กทม. สามารถมีอำนาจเก็บภาษีเพิ่ม ทั้ง ยาสูบ โรงแรม ส่วน น้ำมัน แม้จะเก็บภาษีอยู่แล้วแต่มีอัตราต่ำ จึงมีแนวคิดปรับให้สอดคล้องกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่อื่น รวมทั้ง ภาษีสิ่งแวดล้อม สำหรับผู้ที่ทำกิจกรรมส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม หรือการแบ่ง Low E-Mission Zone หากรถที่ไม่ได้มาตรฐานอาจต้องเสียภาษี ค่าธรรมเนียมเพิ่ม ทั้งนี้ยังเป็นแนวคิดและอยู่ในขั้นตอนการศึกษาซึ่งต้องใช้เวลา และหากได้ข้อสรุปส่งให้กระทรวงมหาดไทยพิจารณา แล้วส่งต่อเข้าให้รัฐบาลสมัยหน้าพิจารณา


ขณะที่การเก็บค่าธรรมเนียนน้ำเสีย นายชัชชาติยืนยันว่า ตอนนี้ยังไม่เก็บค่าธรรมเนียม ซึ่ง กทม. ยังแบกค่าดำเนินการอยู่ 600 ล้านบาท และอยู่ในช่วงหารือค่าธรรมเนียมให้เหมาะสม ส่วนค่าธรรมเนียนเก็บขยะคาดว่าจะเริ่มบังคับใช้เดือนมิถุนายนนี้


นอกจากนี้มีแนวคิดให้ประชากรแฝงย้ายทะเบียนบ้านมาที่กรุงเทพมหานคร เพื่อได้ข้อมูลจำนวนประชากรที่แท้จริง โดยปัจจุบันมีข้อมูลอยู่ในทะเบียนอยู่ 6,000,000 คน ส่วนประชากรแฝงอาจมีมากกว่า 9,000,000 คน ส่งผลต่อการของบประมาณจากส่วนกลางในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น โรงเรียน โรงพยาบาล ศูนย์บริการสาธารณสุข ซึ่งไม่เพียงพอต่อผู้ใช้บริการ โดยปัจจุบัน กทม. ร่วมมือ สปสช. ให้ประชาชนสามารถสมัครรับสิทธิบัตรทองได้ไม่ต้องย้ายทะเบียนบ้าน ซึ่งหากเป็นไปได้ถ้าย้ายทะเบียนบ้านเข้าระบบ จะสามารถให้บริการและเข้าถึงสวัสดิการพื้นที่ได้มาก ซึ่งแนวคิดนี้จะเสนอหลังได้รัฐบาลชุดใหม่