'ผับข้าวสาร' ขอโทษ ไล่ออกแล้วการ์ด ตบหน้า-คล้องกุญแจมือ นทท.ฝรั่ง แจ้งความทำร้ายร่างกาย

จากกรณีสื่อสังคมออนไลน์ เผยแพร่คลิปขณะที่พนักงานรักษาความปลอดภัยของผับแห่งหนึ่ง ในถนนข้าวสาร ใส่กุญแจมือนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ซึ่งในคลิปมีการถกเถียงกันเรื่องการขโมยน้ำดื่ม โดยชายชาวต่างชาติพยายามปฏิเสธ ก่อนที่จะถูกตบหน้า 2 ครั้ง และมีคนมาห้าม


หลังคลิปดังกล่าวเผยแพร่ออกไป เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก ต่อมาเพจ เดอะ คลับ ข้าวสาร สถานบันเทิงดังกล่าว ได้ออกแถลงการณ์ขอโทษ ว่า "ทีมบริหารตระหนักถึงปัญหา และประเด็นที่เกิดขึ้น อย่างมิได้นิ่งนอนใจ และได้พยายามหาช่องทางติดต่อชาวต่างชาติ รวมถึงชาวไทยในคลิปดังกล่าวแล้ว เพื่อดำเนินการชดเชยอย่างเต็มความสามารถ


เรื่องการกระทำดังกล่าวของพนักงานรักษาความปลอดภัยที่ปฏิบัติต่อลูกค้าชาวต่างชาติอย่างไม่เหมาะสม เบื้องต้นตอนนี้ทางเราได้แจ้งความดำเนินคดี "ทำร้ายร่างกาย" และดำเนินการให้ออกจากงาน อันเป็นไปตามนโยบายบริษัท และได้เร่งดำเนินการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ชุดที่เหลือ รวมทั้งควบคุมดูแลพนักงานของเราอย่างเข้มงวด เพื่องานบริการที่มีคุณภาพ ทีมบริหารกราบขออภัยลูกค้าผู้มีอุปการคุณอย่างสูงสุด"


ต่อมา วานนี้ (วันที่ 26 ก.พ.66) เวลา 17.20 น. ที่ถนนข้าวสาร พ.ต.อ.สนอง แสงมณี ผกก.สน.ชนะสงคราม พ.ต.ท.เอกภณ พุทธิกุล รองผกก.ป.สน.ชนะสงคราม พ.ต.ต.ปรเมษฐ์ ดวงแก้ว สว.กก.1 บก.ทท. ร่วมกับตัวแทนผู้ประกอบการร้านอาหารและตัวแทนการ์ดร้านถนนข้าวสาร 30 คน มาพูดคุยและปรับความเข้าใจ หลังจากเกิดกรณีที่การ์ดผับย่านถนนข้าวสารคล้องกุญแจมือและตบหน้าฝรั่ง จนเป็นที่โจษจันในโลกโซเชียล


พ.ต.อ.สนอง กล่าวว่า เป็นการเรียกประชุมแบบฉุกเฉิน เพราะมีการ์ดแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมกับนักท่องเที่ยว ทำให้นักท่องเที่ยวรู้สึกไม่ปลอดภัย เพราะอีกไม่นานเดือนเมษายนที่จะถึงนี้นักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวอีกจำนวนมาก อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจการท่องเที่ยวถนนข้าวสาร ซึ่งการ์ดที่นี้จะต้องช่วยกันดูแลนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ทั้งถนนข้าวสารให้ปลอดภัย


พ.ต.อ.สนอง กล่าวต่อว่า สำหรับการ์ดทั้งสองคนจากการสอบปากคำได้ยอมรับสารว่าก่อเหตุจริงสาเหตุนักท่องเที่ยวขโมยน้ำเปล่า 1 ขวด ทั้งนี้ทางร้านได้แสดงความรับผิดชอบ โดยการให้การ์ดทั้งสองคนออกจากงานไปแล้ว พร้อมกับปิดสถานบริการเป็นเวลา 3 วัน ตามมาตรการของผู้ประกอบการที่ตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้ เพื่อปรับปรุงระบบบริหารจัดการของร้าน


สำหรับคำถามที่ว่าการใช้กุญแจมือกับนักท่องเที่ยวนั้นสามารถทำได้หรือไม่ ทุกคนสามารถพกพากุญแจมือและทำการจับกุมได้เฉพาะคดีลักทรัพย์ในเหตุการณ์เฉพาะหน้าเท่านั้น เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้แจ้งข้อหาต่อผู้ใด เนื่องจากชาวต่างชาติผู้เสียหายยังไม่มีแจ้งความทำร้ายร่างกาย ส่วนทางร้านก็ไม่ได้เข้ามาแจ้งความลักทรัพย์ต่อนักท่องเที่ยว


พ.ต.อ.สนอง กล่าวอีกว่า นอกจากนี้เมื่อคืนที่ผ่านมาได้มีคลิปปรากฏในโซเซียลอีกเหตุการณ์หนึ่ง เป็นการวิวาทระหว่างรถสามล้อไปเฉี่ยวชนแท็กซี่ โดยมีชายชาวต่างชาติเข้าไปเป็นพยานว่าสามล้อได้เฉี่ยวชนแท็กซี่ ทำให้ผู้ขับขี่รถสามล้อไม่พอใจชกเข้าใบหน้า 2 ครั้ง จนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะดำเนินการติดตามคู่กรณีรถเฉี่ยวชนมาสอบปากคำ รวมถึงติดต่อชายชาวต่างชาติมาแจ้งความดำเนินคดีต่อไป

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/3vTNzNG2mUA