ฝ่ายค้านจัดหนัก อัดขบวนการฟอกเงินเว็บพนัน-ยาเสพติด เอี่ยวรัฐบาล

การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในครั้งนี้ ปรากฏชื่อนายพันณรงค์ ขุนพิทักษ์ หรือแอดดี้ ว่าเกี่ยวข้องกับคดีฟอกเงิน ทั้งยาเสพติดที่นำเงินไปซื้อบริษัท อัลลัวร์กรุ๊ป และฟอกเงิน จากการพนันออนไลน์ โดยก่อนหน้านี้ตำรวจกองกำกับการ 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนนครบาลได้ออกหมายจับแล้ว แต่ปรากฏข่าวรั่วนายแอดดี้พาภรรยาหลบหนี ไปก่อนตำรวจเข้าค้นเพียงคืนเดียว และคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายล่าสุดตำรวจที่ทำคดีก็ถูกย้ายยกชุด



รีสอร์ตหรู ใน อำเภอขนอม จ.นครศรีธรรมราช มูลค่ากว่า150 ล้านบาท เป็นทรัพย์สินของ นายพันณรงค์ ขุนพิทักษ์ หรือแอดดี้ อายุ 46 ปี และ นส.กัลยวีร์ หรือจอย อายุ 43ปี ภรรยาคนที่ 2 ที่ถูกยึดทรัพย์ หลังถูกตำรวจกองกำกับการ2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนนครบาลออกหมายจับในข้อหาร่วมกันฟอกเงินจากเครือข่ายยาเสพติด รวมทั้งยึดทรัพย์สินทั้งโฉนดที่ดินที่นายแอดดี้ถือครองตั้งแต่เหนือจรดใต้ ในกรุงเทพ รวมมูลค่ากว่า 680 ล้านบาท



นายแอดดี้มีชื่อขึ้นมาอีกครั้งเมื่อถูกทั้งนายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ ระบุว่าเป็นเจ้าของเว็บการพนันรายใหญ่ ไซค์Lของไทยเพราะทำมานานแล้ว มีเครือข่ายลูกน้องมากมาย รวมทั้งคนใหญ่คนโตและคนมีสี จึงคาดเดาได้ว่า การถูกตำรวจออกหมายจับเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว นานแอดดี้และภรรยาคนที่ 2 หลุดรอดไปได้ เพราะข่าวรั่ว ก่อนที่ขณะนี้จะมีข่าวว่าซื้อรร. มูลค่า9 พันล้านอยู่ที่อังกฤษ



นอกจากเป็นเจ้าของเว็บพนันออนไลน์รายใหญ่แล้ว จากข้อมูลการแกะรอยของตำรวจสืบสวนนครบาล ยังพบว่านายแอดดี้ยังฟอกเงิน ด้วยการเข้าไปซื้อธุรกิจอัลลัวร์กรุ๊ป ต่อจากนายดีลยัง ลูกเขยของ สว.คนหนึ่ง และบริษัทอัลลัวร์กรุ๊ปนี่เอง



ได้มีเครือข่ายกลุ่มผู้ค้ายาเสพติด 4 กลุ่มโอนเข้ามา เพื่อไปจ่ายซื้อค่ากระแสไฟฟ้า ที่แม่สายและขายต่อให้ฝั่งท่าขี้เหล็กในประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเครือข่ายยาเสพติดทั้ง 4 กลุ่มนี้ ประกอบด้วยนายพิทวัส หรือคิงนนทบุรี นายชยุต ศุขทัศน์ กลุ่มนายอนุภาพ และนายก้องเกียรติ กลุ่มนายอริย์ธัช ชูก้าน และนายเอกชัย เอกสารตรา โดยนายพิทวัสถูกศาลตัดสินประหารชีวิต



โดยการสืบสวนยังจับกุมนายวรวัฒน์ วังศพ่าห์ อดีตที่ปรึกษาผู้ชำนาญการสมาชิกวุฒิสภา และพวกรวม 6คน ซึ่งศาลได้ตัดสินประหารชีวิต 5 คน และจำคุกตลอดชีวิต 1 คน เมื่อกลางเดือนธันวาคมที่ผ่านมา



และผลงานหลังสุดคือการจับกุมนายทุนมินลัต นักธุรกิจชาวเมียนมา เจ้าของบริษัทอัลลัวร์กรุ๊ป ที่ซื้อธุรกิจต่อมาจากสมาชิกวุฒิสภา คนหนึ่ง พร้อมกับกุม น.ส.น้ำหอม เลขาของนายทุนมินลัต นายดีลยัง จุลธุระ ลูกเขย สว.คนหนึ่ง และน.ส.ปิยะดา เลขาของ สว. โดยคดีศาลได้ตรวจสอบพยานไปเมื่อสัปดาห์ก่อน โดยผู้ต้องหาทั้งหมดได้ให้การเกี่ยวโยงไปถึง สมาชิกวุฒิสภา และศาลนัดพิจารณาคดีในเดือนมิถุนายนนี้



โดยในการอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อคืนที่ผ่านมา นายรังสิมันต์โรม ยังได้ระบุถึงการแต่งตั้งโยกย้าย ตำรวจชุดทำคดีของกองกำกับการ 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนนครบาล ซึ่งมีผลงานได้รับรางวัลการปราบปรามยาเสพติดดีเด่นในระดับนครบาลและระดับประเทศ แต่เมื่อการแต่งตั้งโยกย้ายครั้งล่าสุด พบว่า ตั้งแต่พ.ต.อ.กฤศณัฎฐ์ ธนศุภณัฎฐ์ ซึ่งเป็นหัวหน้าชุดและ พ.ต.ท.สุชาติ มงคลพิพัฒน์ รองหัวหน้าชุดจับกุม ไปจนถึงสารวัตร อีก 2 นาย คือพ.ต.ท.มานะพงษ์ วงศ์พิวัฒน์ และพ.ต.ต.ชำนาญยุทธ ก้อนฆ้อง ต่างถูกย้ายออกนอกหน่วย โดยพ.ต.ท สุชาติ ถูกย้ายไปอยู่ชายแดน ที่สภ.ตาพระยา จ.สระแก้ว



โดยนายรังสิมัน ระบุว่า ทำให้ตำรวจที่ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ ปราบปรามยาเสพติดมาโดยตลอดแต่นอกจากไม่ได้รับการเลื่อนขั้นแล้วและยังถูกย้ายออกนอกหน่วยไปไกลอีกด้วย