ไล่ออก 6 ตร. ยัดยาบ้าปชช. หลังพ่อสู้หาวงจรปิดช่วยลูกตกเป็นแพะนานนับปี

กรณีคุณลุงขับวินจักรยานยนต์รับจ้าง ร้องขอความเป็นธรรมให้ลูกชาย หลังถูกอดีตตำรวจสายสืบ สน.สุทธิสารกลุ่มหนึ่ง ยัดยาบ้า 20 เม็ด ตกเป็นเเพะในคดียาเสพติด ต้องถูกคุมขังในเรือนจำระหว่างรอสู้คดี-นานเกือบหนึ่งปี โชคดีที่ขณะนั้น ได้คลิปหลักฐานจากกล้องวงจรปิด บันทึกพฤติกรรมตำรวจกลุ่มนี้ได้ชัดเจน ต่อมาศาลจึงพิพากษาให้ยกฟ้อง หลังจากสำนักงานปปท.ชี้มูลความผิดอาญาไปเเล้ว ล่าสุด สำนักงานตำรวจเเห่งชาติ ส่งเอกสารเเจ้งความคืบหน้ามาที่ข่าว 3 มิติ หลังปรากฏข้อเท็จจริงพบตำรวจทั้ง 8 นาย เกี่ยวข้อง ในจำนวนนี้มี 6 นาย ทำผิดวินัยเเละประพฤติชั่วร้ายเเรง มีคำสั่งให้ลงโทษไล่ออกจากราชการ



ราว 5 โมงเย็น วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2559 วงจรปิดในซอยชุมชนพิบูลย์อุปถัมภ์ เขตห้วยขวาง ซึ่งอยู่ในท้องที่รับผิดชอบของ สน.สุทธิสาร บันทึกเหตุการณ์ขณะตำรวจนอกเครื่องเเบบกลุ่มหนึ่ง จอดจักรยานยนต์เเละมีพฤติกรรมบางอย่าง



ชายคนนี้ชื่อ นายชาญ สุขสวัสดิ์มาลัย อาชีพรปภ. ตกเป็นเป้าการตรวจค้น จากวงจรปิดจะเห็นว่า นายชาญ ให้ความร่วมมือเเละไม่ได้มีท่าทีขัดขืน เจ้าหน้าที่ค้นละเอียดทั้งกระเป๋าหน้าเเละด้านหลัง เปิดเบาะรถไม่พบยาเสพติดหรือสิ่งผิดกฎหมาย ด้วยอารมณ์ขณะนั้นประกอบกับมีบางคำพูดจากชุดตรวจค้น จึงบันดาลโทสะ-โถมเข้าไปชกหน้าตำรวจหนึ่งครั้ง



ก่อนจะถูกคุมตัวขึ้นจักรยานยนต์ พาไปที่ห้องสอบสวนสน.สุทธิสาร ถูกเเจ้งข้อกล่าวหามียาบ้าครอบครองเพื่อจำหน่าย 20 เม็ด เเละทำร้ายเจ้าพนักงาน



คุณลุงวีระชัย พ่อของนายชาญ เล่าเปิดใจกับข่าว 3 มิติ อีกครั้ง ที่ผ่านมาต้องฟันฝ่าเเละทำทุกวิถีทาง เพื่อคืนความเป็นธรรมให้ลูกชาย คุณลุงบอกว่า ระหว่างที่นายชาญถูกคุมตัว โดนทำร้ายเเละบังคับให้รับสารภาพ เเต่ก็ยืนหยัดปฏิเสธเรื่อยมา ด้วยหาเช้ากินค่ำ จึงไม่มีเงินหรือหลักทรัพย์ขอประกันตัวลูกชาย นายชาญจึงถูกคุมขังระหว่างรอสู้คดีในชั้นศาล



นายชาญปฏิเสธคดียาบ้า เเต่รับสารภาพคดีชกตำรวจ ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐาน เห็นว่า การตรวจค้นไม่ชอบด้วยกฏหมาย ทั้งศาลช้ันต้นเเละอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง



สำเนาเอกสารที่สำนักงานตำรวจเเห่งชาติ ส่งมาที่รายการข่าว 3 มิติ เเจ้งเรื่องคำสั่งลงโทษไล่ออกจากราชการ กรณีตรวจสอบตำรวจ 8 นาย ตั้งเเต่ระดับผู้บังคับหมู่ นายดาบ สารวัตร ไปจนถึงรองผู้กำกับในสมัยนั้น ซึ่งปัจจุบันส่วนใหญ่ย้ายไปประจำการที่อื่น เเละมีตำเเหน่งที่สูงขึ้น



ก่อนหน้านี้ สำนักงานปปท. ได้ชี้มูลความผิดอาญากับตำรวจชุดนี้ ทั้งมาตรา 157 / 162 เเละมาตรา 200 วรรคสอง ผิดวินัยร้ายเเรง ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ฐานกระทำการอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วร้ายเเรง เเละยังมีความผิดตามมาตรา 78 อันเป็นเหตุให้เสียหายเเก่ราชการร้ายเเรง



สำนักงานตำรวจพิจารณาเเล้วเห็นว่า ความผิดดังกล่าวมีระดับโทษไล่ออกจากราชการ จึงลงโทษไล่ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 ถึงผู้กล่าวหาที่ 8 ออกจากราชการ



สำนักงานตำรวจเเห่งชาติ ระบุในเอกสารว่า หากผู้ถูกลงโทษประสงค์จะอุทธรณ์คำสั่ง ให้ยื่นภายใน 30 วัน ส่วนคดีอาญา ปปท.ได้ส่งสำนวนให้อัยการเเล้ว โทษสูงสุดคือจำคุก