อาชญากรรม

มาเฟียรถไฟ! พ่อค้าเจ้าถิ่นฉุนสาวท้องอ่อน-สามีขายของทับที่ รุมกระทืบ มีดฟันหัว กลางสถานีรถไฟชุมพร

โดย petchpawee_k

10 ก.พ. 2566

330 views

เปิดคลิปแฉแก๊งมาเฟียสัมปทานโหด อ้างได้รับสัมปทานขายของ ในสถานีรถไฟชุมพร ไม่พอใจพ่อค้า-แม่ค้าท้องอ่อน ขายอาหารบนตู้โบกี้รถ ก่อนเรียกลงมา รุมกระทืบ ใช้มีดฟันหัว ต่อหน้าต่อตาผู้โดยสาร โชคดีมีทหารเข้าห้ามทันรอดตายหวุดหวิด ด้านผู้เสียหาย เผยยังตกใจกับสิ่งที่เกิด โดนเตะท้องเกือบแท้งลูก แต่โชคยังดีที่ปลอดภัย ยันเอาเรื่องถึงที่สุด ขณะที่ตำรวจ รู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว กำลังออกหมายเรียกมาสอบปากคำ


กล้องวงจรปิดบริเวณสถานีรถไฟชุมพร จับภาพชายผู้ก่อเหตุ เดินเข้ามาคุยกับสองสามี ภรรยา ที่เป็นแม่ค้าบนรถไฟ บริเวณชานชาลา จากนั้นได้มีการต่อว่าและชี้หน้ากัน ก่อนที่ชายคนดังกล่าว จะส่งสัญญาณเรียกกลุ่มผู้ก่อเหตุเดินเข้ามาเสริมและเข้ารุมทำร้ายสองสามีภรรยา และยังมีภาพเหตุการณ์ที่ผู้อยู่ในเหตุการณ์ถ่ายไว้ได้ เป็นช่วงที่สามีถูกกลุ่มชายผู้ก่อเหตุ ใช้มีดฟันเข้าไปที่ศีรษะ และถูกกระชากลงมานอนที่พื้นก่อนจะถูกรุมกระทืบ เหตุเกิดเมื่อเวลา 22.20 วันที่ 7 ก.พ. ที่ผ่านมา


ต่อมาวานนี้ (วันที่ 9 ก.พ.) เมื่อเวลา 09.30 น. ตำรวจ สภ.เมืองชุมพร อ.เมืองชุมพร รับแจ้งจาก นายวรชัย และน.ส. กัลยรัตน์ หลังจากถูกรุมทำร้ายที่สถานีรถไฟชุมพร หลังจากสอบปากคำ นายวรชัย ให้การว่า เมื่อวันที่ 7 ก.พ. เวลาประมาณ 22.40 น.ที่ สถานีรถไฟชุมพร บริเวณชานชาลา ได้ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ ร่วม 10 คน เข้ามารุมทำร้าย จนได้รับบาดเจ็บ มีบาดแผลแตกที่ใบหน้าต้องเย็บหลายเข็ม รอยฟกซ้ำดำเขียวที่ใบหน้า คอ และลำตัว พร้อมทั้งนำใบตรวจร่างกายจากแพทย์ รพ.ชุมพรเขตต์อุดมศักดิ์ มาแสดงให้ตำรวจดู จึงได้รับแจ้งความ และจะได้ติดตามตัวคนร้ายที่ทั้ง 2 สามีภรรยา จำหน้าตาได้ทั้งหมดมาดำเนินคดีต่อไป


ด้านนางสาวกัลยรัตน์ กล่าวว่า โดยในวันเกิดเหตุ ขณะที่รถไฟขบวน 171 กำลังจอดเทียบชานชลา มีชายหญิง ซึ่งทราบภายหลังเป็นสามีภรรยากัน ได้ขึ้นมาบนขบวนรถพร้อมกับชี้หน้าต่อว่าตนเอง ซึ่งขณะนั้นกำลังเก็บข้าวของลงรถ ว่ามีสิทธิอะไรมาขายของที่สถานีรถไฟแห่งนี้ ซึ่งเขาอ้างว่า เขาได้รับสัมปทานมาถูกต้อง ซ้ำพูดดูถูกด้วยถ้อยคำหยาบคายหลายอย่าง และเรียกตนว่าไอ้พวกแม่ค้าเร่เถื่อน ซึ่งตนได้พยายามชี้แจงด้วยคำสุภาพ แต่สามีภรรยากับต่อว่าหนักขึ้น และเสียงดัง

นางสาวกัลยรัตน์ กล่าวต่อว่า เมื่อตนลงจากรถไฟ และกำลังวางสิ่งของที่ชานชาลา ตัวผู้หญิงก็ได้ปรี่เข้ามากระชากแขนตนพร้อมต่อว่าซ้ำ ตนได้สะบัดแขน แล้วไปชี้แจงต่อกับทางสามีเขา แต่พูดได้ไม่กี่คำ ทางตัวผู้ชาย ได้ตบมือเหมือนส่งสัญาญาณ ก็ได้มีกลุ่มชายฉกรรจ์เกือบ 10 คนกรูเข้ามา ไม่พูดพร่ำทำเพลง รุมเตะต่อย กระทืบสามีตน ซึ่งกำลังเดินลงมาจากรถ จนล้มลุกคลุกคลาน


ผู้โดยสารทั้งบนรถและที่อยู่บนชานชาลาต่างวิ่งหนี และบางคนก็เข้าห้ามปราบ จนพวกนั้นล่าถอยกลับไป ตนพร้อมสามี โชคดีที่มีพลเมืองดีเข้ามาช่วย โดยเฉพาะมีทหารคนหนึ่งที่โดยสารมากับรถขบวนนี้ ได้วิ่งลงมาช่วยเหลือ ตนจึงรอดเงื้อมมือพวกอันธพาลกลุ่มนี้ แม้ตัวสามีจะถูกฟันเข้าที่แผ่นหลัง ที่ศีรษะ ก็นับว่าโชคยังดี ไม่ถึงอาบเลือด


นางสาวกัลยรัตน์ กล่าวต่ออีกว่า ตนรู้สึกเจ็บใจมาก โดยเฉพาะผู้ชายที่ใจร้าย ที่เข้ามาเตะตนเองเข้าบริเวณชายโครง จนจุก และตนเองกำลังตั้งท้อง 3 เดือนอีกด้วย ซึ่งตนเองจะไม่ยอมความแต่อย่างใด จะแจ้งความดำเนินคดีกับพวกนี้ให้ถึงที่สุด


ต่อมานางกัลยรัตน์ ได้นำผู้สื่อข่าวไปที่ สถานีรถไฟชุมพร เพื่อดูที่เกิดเหตุ พร้อมทั้ง กล่าวว่า ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ขายที่ชานชาลา ตนได้จ่ายเงินให้กับคนคนหนึ่งที่อ้างว่า เป็นผู้ประมูลจากสถานีรถไฟชุมพรโดยจ่ายวันละ 300 บาท จนรู้ว่าชายคนดังกล่าวหมดสัญญา ทำให้มีเงินที่จ่ายเกินไปจำนวนหนึ่ง จนสุดท้ายจะเรียกเงินอีก 3 หมื่น แต่ไม่ยอมจ่ายจึงเข้าไปหานายสถานีรถไฟชุมพร เพื่อขอเงินที่จ่ายเกินไปคืน นายสถานีได้โอนคืนให้ หลังจากนั้นก็ถูกห้ามไม่ให้ขายที่ชานชาลา ตนจึงย้ายไปขายบนรถไฟ จนมาเกิดเรื่องในครั้งนี้


ด้านแม่ของ นส.กัลยรัตน์ กล่าวว่า พวกตนขายอาหารอิสลามเพื่อให้คนอิสลามที่เดินทางมากับรถไฟในภาคใต้ได้กิน เพราะบางขบวนคนอิสลามเยอะมาก ขายมานานถึง 22 ปี และจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด


ด้านพ.ต.ท.สกฤชญ สุขนิตย์ สว.สืบสวน สภ.เมืองชุมพร เปิดเผยว่า ในเบื้องต้นขณะนี้ รู้ตัวผู้ก่อเหตุบางรายแล้ว และกำลังจะรอเชิญตัวมาสอบปากคำต่อไป


ในส่วนของขบวนการมาเฟียรถไฟที่ขยายอิทธิพล ควบคุมกิจการร้านค้าร้านอาหารบริเวณสถานีรถไฟสายใต้ตั้งแต่สถานีรถไฟชุมพร ไปจนถึงสถานีรถไฟนครศรีธรรมราช โดยกลุ่มมาเฟียเหล่านี้มักจะเป็นลูกหลานหรือเป็นญาติของบรรดาเจ้าหน้าที่การรถไฟที่รู้เห็นเป็นใจ และมีการกระทำเป็นขบวนการมานานหลายสิบปี สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำวันละหลายแสนบาท ให้กับขบวนการมาเฟียรถไฟเหล่านี้


สถานีรถไฟสายใต้ที่มีร้านค้าร้านอาหารตามเส้นทางและเป็นสถานีใหญ่ อาทิ สถานีชุมพร สถานีหลังสวน สถานีไชยา สถานีสุราษฎร์ธานี สถานีทุ่งสง แต่ละสถานีเหล่านี้จะเป็นสถานีที่มีผู้โดยสารรถไฟจากภาคใต้ ตั้งแต่สถานีสุไหงโกลกจะต้องผ่านตามขบวนรถไฟสายภาคใต้เข้าสู่กรุงเทพฯ อย่างน้อยวันละ 5-6 ขบวนแต่ละขบวนจะมีผู้โดยสารมากกว่า 500 คนทำให้มีกลุ่มลูกค้าที่จะต้องใช้บริการร้านค้าร้านอาหารมากกว่าวันละ 5,000 คนเฉลี่ยจะต้องจ่ายค่าอาหารคนละ 100 บาทขึ้นไป


ซึ่งเป็นราคาที่สูงกว่าท้องตลาดมากถึง 50% ทำให้ในแต่ละวันจะมีรายได้ทั้งขาขึ้นและขาล่องของขบวนรถไฟอย่างน้อย 1 แสนบาทจากการขายอาหารเหล่านี้ โดยขบวนการมาเฟียรถไฟเหล่านี้จะอาศัยผู้มีอำนาจในระดับสถานีใหญ่ๆทำแสร้งว่าเป็นการประมูลและแต่งตั้งผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องกับผู้มีอำนาจเข้ามา ทำทีว่าประมูลหลังจากนั้นจะนำสัญญาประมูล ไปบังคับให้แม่ค้าที่ขายอาหารอยู่แล้วต้องจ่ายเงินรายละ 30,000-50,000 บาทเป็นแลกเข้า  และจ่ายเป็นรายวันอีกวันละ 300-500 บาท ในแต่ละสถานีมีแม่ค้าอย่างน้อย 5-20 คนแม่ค้าเหล่านี้ก็จะต้องไปขายสินค้าที่มีคุณภาพต่ำลงและราคาแพงโดยที่ไม่สามารถจะร้องเรียนผู้ใด


อีกทั้งเมื่อมีการยกเลิกตู้เสบียงบนขบวนรถไฟทำให้ผู้โดยสาร มีความจำเป็นต้องซื้ออาหารน้ำดื่มและของกินอื่นๆอีกจำนวนมากทำให้ราคาสินค้าที่ขายอยู่บนสถานีรถไฟก็ดีบนขบวนรถไฟก็ดีมีราคาแพงมากกว่าท้องตลาดทั่วไปถึง 100% สร้างรายได้ให้กับขบวนการมาเฟียรถไฟสายใต้เหล่านี้อย่างมหาศาลต่อเดือน


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/-z88EOeuB0c

คุณอาจสนใจ

Related News