เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 9 ก.พ.66 อัดขึ้นเงินเดือน อบต.เพื่อหาเสียง-ผู้กองไบร์ทลาออกตร.-ดิว อริสรา แฉเคยถูกทำร้าย

-ดิว อริสรา โพสต์คลิปร่ำไห้ ถูกอดีตแฟนหนุ่ม เบนซ์ เดม่อน ทำร้ายร่างกายมาโดยตลอดแต่ไม่มีใครช่วย ทั้งถูกสาดมาม่าร้อนๆใส่ ลั่นที่ออกมาแฉมาเก๊า 888 เพราะรับไม่ได้ที่พี่น้องของอดีตแฟนจะไปแต่งงานมีความสุข แต่ตัวเองต้องทนอยู่กับบาดแผลในใจ ถึงขั้นผวาต้องพบจิตแพทย์ หมดศรัทธาการใช้ชีวิต

ดิว ยืนยันเซบาสเตียน สามี ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่มีธุรกิจที่ผิดกฎหมาย ส่วนคลิปรถตำรวจนำขบวนในไอจี เกิดขึ้นที่ไทย 1 คลิป เจ้าตัวไม่รู้อะไร เป็นแค่ชาวต่างชาติที่มาไทย เข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งซึ่งมีแพ็กเกจมีตำรวจมารับ – ส่ง เขาไม่รู้ว่ามันผิดกฎหมายหรือไม่ พร้อมขอบคุณทุกกำลังใจ หวังว่าที่ทำลงไปกฎหมายไทยจะนำความยุติธรรมมาให้กับสังคม

-ผู้กองไบร์ท ยื่นหนังสือลาออกจากราชการแล้ว ระบุเหตุผลต้องการไปดูแลคุณพ่อที่ชราภาพ หัวหน้าเผย เจ้าตัวอยากลาออกไปสู้คดี ไม่อยากให้องค์เสียหาย ขณะที่รองผู้บัญชาการ สอท. แจงผลสอบปากคำผู้กองไบร์ท ในฐานะพยาน หลังถูกปล่อยตัวจากห้องขัง ยันคำเดิมไม่เกี่ยวมาเก๊า 888 จากนี้จะตรวจสอบเส้นทางการเงิน และจะเรียกตัวมาสอบเพิ่ม

-ตำรวจไซเบอร์ จับผู้ต้องหาเอี่ยวมาเก๊า 888 ได้ 46 คน ยึดทรัพย์กว่า 500 ล้านบาท หลบหนี 12 คน 1 ในนั้นคือ เบนซ์ เดม่อน ยันจับทันทีที่ก้าวเข้าเมืองไทย พร้อมเปิดปฏิบัติการ Ep 5 ค้นโกดังเก็บของให้เช่าในปทุมธานี ที่เบนซ์เช่าไว้ หลังพบหลักฐานขนย้ายสิ่งของจากคอนโดหรูมาซุกที่นี่ ส่วนรถหรูลัมโบร์กินี ที่มีเพียงคันเดียวในไทย พบว่าเปลี่ยนมือผู้ถือครองก่อนเป็นข่าว และเปลี่ยนสีรถไปแล้ว เชื่อยังอยู่ในประเทศ

-คืนความเป็นธรรม! ปลดกำไลอีเอ็ม วินมอเตอร์ไซค์ ตกเป็นแพะคดีค้ามนุษย์ เพราะชื่อ พยุง มงคล ตรงกับผู้ต้องหา แต่เลขบัตรประชาชน 13 หลักไม่ตรงกัน เจ้าตัวสุดดีใจ หลุดพ้นข้อหา วิ่งกอดภรรยาร่ำไห้ ลั่นตำรวจต้องรอบคอบ อภัยให้ แต่ต้องไม่เกิดขึ้นอีก แถมชื่อ – นามสกุลนี้ ซ้ำกันถึง 5 คน

-ครูเจ้าของภาพไวรัล ใช้แอปแต่งหน้าตัวเองเป็นครู 7 วิชา จนฮือฮาในโซเชียล เปิดใจได้ไอเดียตอนถ่ายรูปทำ ทำเนียบครู เลยลองแปลงหน้าตัวเองขำๆ จำลองบุคลิกครูแต่ละวิชา อย่างสังคมต้องแมนๆ วิทยาศาสตร์ หัวจะล้านๆ ครูอังกฤษต้องขาวสวย ไม่คิดว่าจะปังแบบนี้ ส่วนชีวิตจริงตัวเองสอนถึง 5 วิชา



เรื่องเล่าการเมือง

-ประเด็นใหม่ทางการเมืองที่ร้อนขึ้นมา คือ เรื่องการขึ้นค่าตอบแทน อบต.ทั่วประเทศ 4 แสนกว่าคน ที่นายกสมาคม อบต.แห่งประเทศไทยมาพบเลขาธฺการนายกฯเมื่อวันก่อน เมื่อวานฝ่ายค้านออกมาตั้งคำถามว่า ทำไมมาเร่งทำในช่วงนี้ ทำเพื่อหาเสียงหรือไม่

นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ตั้งคำถามว่า เหตุใดต้องเร่งอนุมัติในช่วงที่จะมีการเลือกตั้ง ซึ่งต้องระมัดระวังการใช้อำนาจหน้าที่ หรือทรัพยากรและงบประมาณรัฐเอื้อประโยชน์ในการหาเสียง โดยเฉพาะนายพีระพันธุ์ เลขาธิการนายกฯ ซึ่งเป็นหัวหน้าพรรคการเมือง และพลเอกประยุทธ์ ที่มีฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคการเมืองด้วย

ขณะที่ นายรังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล ตั้งคำถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ อยู่มา 8 ปี แต่กลับเพิ่งมาคิดทำเรื่องนี้ ทั้งที่ อบต.ก็ไม่ได้ขึ้นเงินเดือนมา 15 ปีแล้ว แสดงว่าต้องการใช้เรื่องนี้สร้างบุญคุณเพื่อให้ได้คะแนนเสียงหรือไม่ ทั้งนี้ ทั้งคู่ไม่ได้คัดค้านการขึ้นเงินเดือน อบต. แต่ตั้งคำถามถึงการมาทำเรื่องนี้ในช่วงเลือกตั้ง



-ขณะที่นายกฯ บอกว่า เป็นเรื่องของกระทรวงมหาดไทย แต่ถ้าเป็นงบของหน่วยงานเอง ก็เป็นเรื่องของหน่วยงานที่จะพิจารณาเองว่ามีงบพอหรือไม่

ส่วนที่มีเสียงครหาว่ามาทำช่วงใกล้เลือกตั้ง นายกฯบอก ถ้าอย่างนั้นคงจะไม่ต้องทำอะไรเลยมั้ง กว่าจะเลือกตั้ง กว่าจะได้รัฐบาล ไม่ต้องทำอะไรเลย นั่งเฉยๆ เอามั้ยล่ะ

ขณะที่ทางกระทรวงมหาดไทย โดยนายสุวิชชา เพ็งไพบูลย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายฯ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ชี้แจงว่า เมื่อวานคณะกรรมการพิจารณาร่างกฎหมายของกระทรวงมหาดไทย ได้พิจารณาเรื่องนี้แล้ว แต่ขอให้กลับไปเพื่อให้รับฟังความเห็นผู้เกี่ยวข้อง และพิจารณาให้รอบคอบก่อน เพราะเกี่ยวข้องกับงบประมาณจำนวนมาก และ ถ้ามีการปรับค่าตอบแทนของ อบต. อาจมีข้อเรียกร้องขององค์กรท้องถิ่นอื่นตามมาอีก เช่น เทศบาล / อบจ.



-อีกประเด็นสำคัญ เมื่อวานนี้ ท่านนายกฯ ย้ำท่าทีปิดประตูเรื่องการนิรโทษกรรม สร้างความปรองดอง ก็บอกใครทำผิดต้องรับโทษ ตามกระบวนการยุติธรรม

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ครั้งที่ 1/2566 ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรเข้าร่วมการประชุมด้วย ก็ตอบคำถามเรื่องการสร้างความปรองดองว่า มีการพูดถึง การนิรโทษกรรมหรือไม่

โดยยืนยันว่าไม่ได้มีการพูดถึง พร้อมระบุการปรองดอง คือ การสร้างความรักความสามัคคี และเคารพต่อกระบวนการยุติธรรม

ส่วนกรณีที่พรรคพลังประชารัฐเตรียมจะเสนอกฎหมายนิรโทษกรรม หากได้เป็นรัฐบาลครั้งหน้า นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็ลองเสนอมาแล้วกัน ผ่านได้หรือไม่ตนก็ไม่ทราบ

แต่ย้ำเสียงแข็งว่า ส่วนตัวมองว่า ใครทำผิดต้องว่ากันตามกฎหมาย เพราะถ้าจะมาเลือกปฏิบัติ ตนมองว่าไม่ควร

ผู้สื่อข่าว พยายามถามเรื่องนี้ ว่าจะเป็นการจับมือร่วมกัน ของพรรคเพื่อไทยกับพรรคพลังประชารัฐ และโยงไปถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น ท่านนายกฯ กล่าวอย่างมีอารมณ์ ว่าเป็นการถามแต่เรื่องการเมือง ก็ย้ำไม่เกี่ยวข้องกับใครทั้งสิ้น

และช่วงท้าย ก่อนเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า ท่านนายกฯ ยังได้ชูกำปั้น หลังถูกถามมีภูมิต้านทานทางการเมืองเข้มแข็งพอใช่หรือไม่



-เมื่อวานมีการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ เรื่องตัดอำนาจ ส.ว. ในการเลือกนายกฯ แต่สุดท้ายสภาล่ม โดยมี ส.ว. ลาประชุมมากถึง 95 คน

เป็นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่เสนอโดยนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว และคณะ โดยมีการนัดประชุมรัฐสภา ในเวลา 9 นาฬิกา แต่การเปิดประชุมเป็นไปอย่างล่าช้าเนื่องจากไม่ครบองค์ประชุม กระทั่งเวลา 11.09 น. จึงครบองค์ประชุม สามารถเปิดประชุมได้

อย่างไรก็ตาม เมื่อเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุม ส.ว.สมชาย แสวงการ ได้เสนอญัตติให้ดำเนินการตามวาระที่ค้างอยู่ คือ พิจารณา ร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ แม้จะมีผู้คัดค้านและขอให้นายสมชาย ถอนญัตติเพื่อให้รัฐสภาเดินหน้าไปได้ แต่นายสมชายยังยืนยันเหมือนเดิม นายชวน หลีกภัย ประธานในที่ประชุม จึงเรียกสั่งตรวจสอบองค์ประชุมก่อนลงมติ

ปรากฏว่าใช้เวลากว่าครึ่งชั่วโมง มีสมาชิกมาแสดงตนเพียง 308 คน ไม่ครบองค์ประชุม ที่ต้องมี 333 คน นายชวน จึงต้องสั่งปิดประชุม โดยก่อนปิดประชุมได้แจ้งว่า วันนี้ มี ส.ส.ลาประชุม 15 คน / ส.ว. ลา 95 คน

นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน แถลงว่า ที่สภาล่มในวันนี้ เป็นความพยายามของ ส.ว. โดยในการประชุมครั้งที่แล้ว ส.ว.ได้ทักท้วงว่าเป็นการบรรจุระเบียบวาระที่ไม่ถูกต้อง นายชวน จึงได้เชิญวิป 3 ฝ่ายมาทำความเข้าใจ แต่ท้ายสุดยังมีความพยายามที่จะทำให้สภาล่ม จึงมองเป็นอื่นไม่ได้ เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้กระทบกับ ส.ว. และ และ ส.ว.คิดว่ารับไม่ได้ ดังนั้นสังคมจะได้เห็นว่า ส.ว. มีวุฒิภาวะที่สมควรหรือไม่



-ส่วนเรื่องที่ลูกพรรคภูมิใจไทยปราศรัยโจมตี พล.อ.ประยุทธ์ ก็ยังไม่จบ เมื่อวานนายอนุทิน ออกมาพูดอีกครั้งถึงการเข้าไปกราบขอโทษนายกฯ โดยย้ำว่า "เข่าด้าน"

เมื่อวานผู้สื่อข่าวถามนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ถึงกรณีที่นำนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ไปคุยกับนายกฯ ก่อนการประชุม ครม.เมื่อวันอังคาร จากกรณีที่ลูกพรรค คือ นายศุภชัย ใจสมุทร กล่าวปราศรัยพาดพิงนายกฯ นายอนุทิน ตอบกลับทันทีว่า ไม่ได้ไปคุย ไปกราบขอโทษเลย และย้ำถึงแนวทางทางพรรคที่ไม่ให้หาเสียงแตะพรรคอื่น ก่อนจะบอกว่าถ้าพาดพิงถึงพรรคอื่นอีก ตนก็ต้องไปกราบขอโทษเหมือนกัน และพูดย้ำว่าเมื่อวาน "เข่าด้าน" เลย

นายอนุทิน ยังได้กล่าวถึงกรณีที่นายกฯแสดงความกังวลถึงเรื่องการขอเพิ่มงบสวัสดิการต่างๆ ซึ่งใช้งบประมาณจำนวนมาก บางพรรคเสนอมา 8 แสนล้าน ซึ่งจะกระทบกับงบรายจ่ายประจำและมีการฝากประชาชนพิจารณาด้วย โดยนายอนุทิน บอก วันประชุม ครม.กดไมค์ไม่ทัน ท่านนายกฯปิดประชุมก่อน ไม่งั้นจะบอกนายกฯว่า พรรคไหนออกนโยบายพรรคนั้นต้องรับผิดชอบ และยุคนี้ข่าวสารเยอะ ประชาชนรู้ว่านโยบายไหนทำได้จริงหรือขายฝัน

ที่สำคัญ นายอนุทิน บอกว่า "ถ้านโยบายเหล่านั้นเกิดขึ้นจริงก็เป็นรัฐบาลชุดอื่นแล้ว ท่านนายกฯก็ไม่ต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว"


-พรรคเพื่อไทย เปิดตัว “ทีมบ้านใหญ่คุณปลื้ม" ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ระบุว่า “ไม่เป็นไร ของใครของมัน” และก็ย้ำสำหรับพื้นที่จังหวัดชลบุรีไม่ต้องห่วง

การเปิดตัวทีม "บ้านใหญ่ชลบุรี" กลับเข้ามาอยู่พรรคเพื่อไทยเมื่อวานนี้ นำทีมโดย นายสนธยา คุณปลื้ม อดีตรัฐมนตรีหลายกระทรวง และอดีต ส.ส.หลายสมัย และ นางสุกุมล คุณปลื้ม ภรรยานายสนธยา อดีตรัฐมนตรีในช่วงรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ซึ่งมาเปิดตัวพร้อมกับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ชลบุรี ทั้ง 10 เขต

นายสนธยา บอกว่า ยินดีที่มีโอกาสกลับมาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยอีกครั้ง หลังเคยร่วมงานในสมัยพรรคไทยรักไทย จนได้รับความไว้วางใจจากประชาชนชนะการเลือกตั้งยกจังหวัดในการเลือกตั้งปี 2548 จึงมั่นใจครั้งนี้จะชนะแลนด์สไลด์ทั้งจังหวัดเช่นกัน

นายสนธยา ยังพูดถึง นายอิทธพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม น้องชายก็จะย้ายมาอยู่พรรคเพื่อไทยด้วย แต่จะยังทำหน้าที่รัฐมนตรีไปจนครบวาระ ยืนยันเป็นบ้านเดียวกัน ไปด้วยกัน มาด้วยกัน ไม่แยกกันแน่นอน

ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตอบคำถามเรื่องนี้ ระหว่างลงพื้นที่จังหวัดปทุมธานีเมื่อวานนี้ ก็บอกว่า "ก็ไม่เป็นไร ของใครของมัน"และย้ำว่าในพื้นที่ชลบุรีไม่ต้องห่วง


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/DAm-DaqD6Mo