สหรัฐฯ ยิงบอลลูนจีนรุกน่านฟ้า ร่วงทะเล แม้อีกฝ่ายอ้างไม่ได้สอดแนม

สหรัฐอเมริกาทำการยิงบอลลูนสอดแนมของจีน ที่รุกล้ำเข้ามาในน่านฟ้า ชิ้นส่วนของบอลลูน ตกในทะเลนอกชายฝั่งของรัฐเซาท์แคโรไลนา



กระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ หรือ เพนทากอน ยืนยันว่า กองทัพสหรัฐฯ ได้ส่งเครื่องบินขับไล่ F-22 จากฐานทัพอากาศ ในเมืองแลงก์ลีย์ รัฐเวอร์จิเนีย ขึ้นไปยิงขีปนาวุธทำลายบอลลูนสอดแนมของจีน ขณะกำลังลอยอยู่บนท้องฟ้า นอกชายฝั่งรัฐเซาท์แคโรไลนา



รายงาน ระบุว่า กองทัพสหรัฐฯ ใช้ขีปนาวุธ "เอไอเอ็ม-ไนน์เอ็กซ์ ไซด์ไวน์เดอร์ (AIM-9X Sidewinder)" ซึ่งเป็นขีปนาวุธพิสัยใกล้ แบบติดตามความร้อน เพียงลูกเดียวในการทำลาย



ซากของบอลลูนตกลงไปในทะเล ลึกประมาณ 14 เมตร ซึ่งตื้นกว่าที่คาดการณ์ไว้ ใกล้กับชายหาดไมร์เทิล ขณะนี้ กองทัพสหรัฐฯ กำลังเก็บกู้ซากความเสียหายที่ ตกลงมาจากท้องฟ้า โดยใช้เรือรบทั้งหมด 2 ลำ รวมถึง เรือเครนขนาดใหญ่ สำหรับเก็บกู้



ทั้งนี้ ก่อนการยิง ทางองค์การบริหารการบินแห่งชาติของสหรัฐฯ หรือ FAA มีคำสั่งห้ามเครื่องบินพลเรือน บินในพื้นที่ 100 ตารางไมล์ หรือราว 250 ตารางกิโลเมตร เหนือมหาสมุทรแอตแลนติก และชายฝั่งของรัฐเซาท์แคโรไลนาเป็นการชั่วคราว ด้านประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ ออกมาแสดงความยินดี ที่สหรัฐฯ สามารถปฏิบัติภารกิจครั้งนี้ได้สำเร็จ



อย่างไรก็ดี ในเวลาต่อมา กระทรวงการต่างประเทศของจีน ออกมาแถลง แสดงความไม่พอใจที่สหรัฐฯ ใช้กำลังโจมตีอากาศยานไร้คนขับนี้



โดยระบุว่า ทางการจีนได้แจ้งให้สหรัฐฯ ทราบหลายครั้งแล้วว่า บอลลูนนี้เป็นของพลเรือน และลอยเข้าไปในสหรัฐฯ โดยสุดวิสัย



ทั้งนี้ การที่บอลลูนของจีนลุกล้ำน่านฟ้าเข้ามาในสหรัฐฯ ส่งผลให้ความสัมพันธ์ทางการทูตกับจีน กลับมาตึงเครียดเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีฯต่างประเทศของสหรัฐฯ ประกาศเลื่อนแผนการเดินทางเยือนกรุงปักกิ่งในทันที อย่างไรก็ดี ทางการจีนก็ปฏิเสธว่า บอลลูนลูกนี้ ไม่ใช่บอลลูนสอดแนม แต่ใช้สำหรับการสำรวจอากาศ