สรุปข่าว

เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 18 ม.ค.66 ดรามาตำรวจถือพานไหว้สุชาติ-เรือบรรทุกน้ำมันระเบิด-เผาศพหนุ่มถูกแอปกู้เงินหลอก

โดย thichaphat_d

18 ม.ค. 2566

59 views

-เรือบรรทุกน้ำมันสมูธซี 22 บึ้มขณะจอดซ่อม เสียงระเบิดดังสนั่นปากน้ำแม่กลอง พบเสียชีวิต 3 พี่สาวคนตายสุดเศร้า เคยบอกให้น้องย้ายงาน เพราะงานเสี่ยง ได้ค่าจ้างแค่วันละ 600 บาท แต่เจ้าตัวไม่มีเงินพอต่อใบอนุญาต เลยต้องทำต่อ ก่อนมาจบชีวิต

คนงานเล่านาทีรอดชีวิต ได้ยินเสียงตู้ม หันไปเห็นไฟลุกเลยโดดลงน้ำ โดนเหล็กทิ่มหัวเข่าขวาบาดเจ็บ แต่พยายามว่ายขึ้นฝั่ง รับทำงานบนเรือมา 4 ปีไม่เคยเกิดเหตุแบบนี้

บ้านเรือนใกล้จุดเกิดเหตุเสียหาย 30 หลัง พังยับ 5 หลัง ฝ้าเพดานหลุดทั้งแผง หลังคาเปิด ประตูโดนแรงอัดผิดรูป เจ้าของบ้านเล่านาทีระเบิด มีลมกระแทกหน้าจนแทบล้ม บ้านสั่นสะเทือนจนเสาร้าว ต้องอพยพทันที

-ซาร่า คาซิงกินี ดอดเยี่ยมแดรีล ยัง ที่ DSI นานกว่า 4 ชั่วโมง และปฏิเสธตอบสื่อ บอกแค่ว่าเมื่อพร้อมจะแถลงข่าวอีกครั้ง และวันนี้ (18 ม.ค.) จะเดินทางมาส่งสามี ในช่วงเช้า ที่พนักงานสอบสวนจะนำตัวไปฝากขังที่ศาลด้วย ทนายรณณรงค์ ยื่น อธิบดีดีเอสไอ เอาผิดคนช่วยแดรีลหลบหนี พร้อมนำเอกสารพยานบุคคลใกล้ชิด รวมถึงซาร่า มาให้ขยายผล เชื่อมีเจ้าหน้าที่รัฐที่มีตำแหน่งสูงเกี่ยวข้องด้วย

-อธิบดีดีเอสไอ ลั่นต้นเรื่องนำทีมไปค้นบ้านพักอดีตกงสุลนาอูรู รีดเงินกลุ่มจีนเทาเกือบ 10 ล้าน คือ ตำรวจ 191 ที่ไปขอหมายค้น และมาขอกำลังสนับสนุนจากดีเอสไอเท่านั้น บิ๊กโจ๊กยืนยันคำเดิมดีเอสไอคือต้นเรื่องบุกจับ – รีดเงินจีนเทา แม้อธิบดีปฏิเสธ แต่มีพยานหลักฐานมัดข้อมูลเริ่มต้นมาจากไหน ติงไม่ควรโยนความผิดให้กันและกัน แต่ควรหาว่าเงินของกลางกว่า 9 ล้าน 5 แสนบาทอยู่กับใคร

-เผาแล้ว หนุ่มโรงงานที่จบชีวิตตัวเอง หลังถูกแอปฯ กู้เงินหลอก ภรรยา อยากให้เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือ และจัดการแก๊งมิจฉาชีพนี้ เพราะหลังจากสามีตาย แอดมินฯ ยังทักแชตให้ทำรายการ พอรู้ว่า เหยื่อเสียชีวิตไปแล้ว ยังพิมพ์กลับมาว่า “ถ้าไม่โลภอยากได้เงินคนอื่นก็รอด”

-ช็อกวงการบันเทิง พอลล่า เทเลอร์ โพสต์ไอจี สิ้นสุดความเป็นสามีภรรยา กับสามีนักธุรกิจลูกครึ่งฮ่องกง-อังกฤษ เอ็ดเวิร์ด บัทเทอรี่ หลังทั้งคู่ตัดสินใจแยกทางกันมาสักพัก เหลือไว้แต่หน้าที่พ่อ-แม่ของลูก ทั้ง 3 คน ปิดฉากชีวิตคู่ 12 ปี


เรื่องเล่าการเมือง

-ความเคลื่อนไหวของพี่น้อง 2 ป. ที่ถูกมองว่าเป็นการชิงไหวชิงพริบกัน คือ พล.อ.ประวิตร ลาประชุม ครม. ตอนแรกเข้าใจว่าท่านป่วย แต่ตอนหลังนายกฯออกมาบอกนักข่าวว่า พล.อ.ประวิตร ไปราชบุรี

โดยก่อนในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวาน คนใกล้ชิด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้แจ้งกับผู้สื่อข่าวว่า พล.อ.ประวิตร ลาประชุม ครม. น่าจะเพราะอ่อนเพลียจากการลงพื้นที่ จ.ลำปาง และ พะเยา เมื่อวันก่อน

ปรากฏว่า หลังการประชุม ครม. นายกฯมาให้สัมภาษณ์ กลายเป็นอีกเรื่อง โดยนายกฯ เปิดประเด็นใหม่ว่า พล.อ.ประวิตร ลาไป จ.ราชบุรี

และต่อมา นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ภายหลัง นายกฯให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเสร็จ หลังจากที่ขึ้นไปยังตึกไทยคู่ฟ้า ได้โทรศัพท์โทรหาพลเอกประวิตรโดยทันที ด้วยความเป็นห่วงปรากฏว่าข้อเท็จจริงในวันนี้ พลเอกประวิตร ได้ติดภารกิจทำหน้าที่ จึงได้ลาการประชุมคณะรัฐมนตรี โดยสุขภาพของพลเอกประวิตรยังคงแข็งแรง ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการทำงานแต่อย่างใด


-ต่อมามีภาพออกมายืนยันว่า พล.อ.ประวิตร ได้ไป จ.ราชบุรีจริง ๆ โดยไปพบ ส.ส.ทั้งของพรรคพลังประชารัฐและพรรคอื่น ซึ่งเป็นการตัดหน้าก่อนนายกฯจะไปราชบุรีวันพรุ่งนี้

นี่คือภาพที่ปรากฏออกมาในช่วงเย็นเมื่อวาน เป็นภาพที่ พล.อ.ประวิตร เดินทางไปที่บ้านนางบุญยิ่ง นิติกาญจนา ส.ส. ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ กลุ่มสามมิตร ที่ จ.ราชบุรี

ซึ่งนอกจาก พล.อ.ประวิตร จะได้พบกับ ส.ส.บุญยิ่ง และทีมงานการเมืองแล้ว ยังได้พบกับ น.ส.กุลวลี นพอมรบดี ส.ส.ราชบุรีของพรรคพลังประชารัฐอีกคน และ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์อีกของราชบุรีอีก 2 คน คือ นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ และ นายชัยทิพย์ กมลพันธ์ทิพย์

ซึ่งการเดินทางไป จ.ราชบุรี ของ พล.อ.ประวิตร เมื่อวาน เรียกได้ว่า "ตัดหน้า" การลงพื้นที่ของ พล.อ.ประยุทธ์ อย่างชัดเจน โดย พล.อ.ประยุทธ์ จะเดินทางไป จ.ราชบุรีในวันพรุ่งนี้ (พฤหัส 19 ม.ค.) และถูกมองว่าเป็นการชิงไปดีลกับ ส.ส.ราชบุรีของพรรคก่อน เนื่องจากมีความเสี่ยงสูงที่จะโดนดูด เพราะหนึ่งใน ส.ส.ราชบุรีของพรรค คือ น.ส.กุลวลี ก็มีกระแสข่าวว่าจะย้ายไปอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติกับ พล.อ.ประยุทธ์

ทั้งนี้ มีรายงานว่า ทันทีที่มาถึงบ้าน ส.ส.บุญยิ่ง พล.อ.ประวิตรได้ทักทายว่า "เป็นอย่างไรกันบ้าง ยังรักกันอยู่หรือเปล่า แต่ฉันยังรักพวกแกนะ นี่ฉันอุตส่าห์ลาครม.เลยนะ" ซึ่งทุกคนพร้อมใจกันตอบว่า "ยังรักลุงป้อมอยู่"

นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร ยังได้บอกว่า เห็นว่านายกฯจะมา จ.ราชบุรี วันพฤหัสบดีนี้ พวก ส.ส.จึงตอบ พล.อ.ประวิตร ไปว่า "พวกเราก็คงต้องไปรับนายกฯตามหน้าที่" พล.อ.ประวิตร จึงบอกว่า "เออ ไปเหอะ ท่านเป็นนายกฯ ไปทำตามหน้าที่"

ในช่วงบ่าย ผู้สื่อข่าวได้เจอ พล.อ.ประวิตร และพยายามสอบถามถึงเรื่องการเดินทางราชบุรี ซึ่งท่านตอบเสียงดังว่า "ผมไปธุระส่วนตัวเฉย ๆ" / ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่นายกฯโทรศัพท์มาสอบถามด้วยความเป็นห่วง นึกว่าไม่สบาย / พล.อ.ประวิตร มีสีหน้าเรียบเฉย ไม่ตอบคำถาม



-อีกความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจเมื่อวาน ยังคงอยู่ที่ พล.อ.ประวิตร โดยได้นำการแถลงเปิดนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ ซึ่ง พล.อ.ประวิตร ยังได้พูดชัดเจนครั้งแรกว่า พร้อมเป็นนายกฯคนที่ 30

ไฮไลท์ในการแถลงนโยบายของ พล.อ.ประวิตร มี 2 ประเด็น อย่างแรก คือ การประกาศจุดยืนเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งในสังคม โดยบอกว่าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมสานสัมพันธ์กับทุกฝ่ายเพื่อก้าวข้ามความขัดแย้ง

การพูดว่าพร้อมจับมือกับทุกฝ่ายเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งของ พล.อ.ประวิตร จึงถูกโยงไปที่กระแสข่าวที่ว่าพรรคพลังประชารัฐจะไปจับมือกับพรรคเพื่อไทยในการจัดตั้งรัฐบาล และ พล.อ.ประวิตร จะขึ้นเป็นนายกฯ

อีกประเด็นไฮไลท์ คือ การประกาศนโยบายแรกของพรรค คือ สานต่อนโยบายบัตรประชารัฐด้วยการเพิ่มเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็น 700 บาทต่อเดือนทันที่ที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล

จากนั้นมีการเชิญแกนนำพรรคขึ้นถ่ายภาพร่วมกัน ซึ่งก็มีแกนนำกลุ่มสามมิตรก็อยู่กันพร้อมหน้า ทั้งนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรียุติธรรม และ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม

จากนั้น พล.อ.ประวิตร ให้สัมภาษณ์ โดยแสดงท่าทีชัดเจนครั้งแรกว่าพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30


-กรณีดราม่า ภาพเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยืนเรียงกัน 10 กว่าคน ตั้งแถวถือพานพวงมาลัย เข้าไหว้สวัสดีปีใหม่ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสม ว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ทำไมต้องไปไหว้นักการเมือง

นายสุชาติ ยอมรับว่าภาพที่ปรากฎเป็นเรื่องจริง แต่ไม่ได้มีแค่เจ้าหน้าที่ตำรวจ มีข้าราชการหลายหน่วย ในพื้นที่งานมาสวัสดีปีใหม่ ตามประเพณี มีคนมาร่วมงานเป็นพันคน พร้อมกับย้อนสื่อกลับว่า ส่วนตัวเชื่อว่า สื่อมวลชนทุกช่อง ก็ต้องมีข้าราชการมาอวยพรปีใหม่ เหมือนกัน จึงขออย่าให้เพจที่ไม่มีตัวตนมาด้อยค่าข้าราชการ หรือใช้ภาพเพียงไม่กี่ภาพมาวิสามัญข้าราชการ

ด้านนายจาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์ภาพที่กำลังเป็นประเด็น พร้อมแสดงคิดความเห็นไปถึงการปฏิรูปตำรวจ โดยระบุว่า ข้ออ้างในการล้มรัฐบาลจากการเลือกตั้งและการรัฐประหารมีบทสรุปที่ชัดเจนที่สุดด้วยภาพนี้

นายตำรวจยืนเป็นแผงเป็น 10 คน เอาดอกไม้ธูปเทียนไปขอบคุณรัฐมนตรีที่ไม่มีหน้าที่เกี่ยวกับตำรวจ แต่มีอิทธิพลสามารถให้คุณให้โทษในการแต่งตั้งโยกย้ายได้ ไม่นับข้ออ้างในการปฏิรูปการคอรัปชั่นรัฐธรรมนูญ ที่เห็นชัดแล้วว่าเสียหายยับเยินและถ้าต่ออายุพลเอกประยุทธ์ไปอีก มันคือหายนะยกกำลังสอง นี่คือเหตุผลที่ว่าถ้าจะทำให้ประเทศไปต่อได้ ก็ต้องทำให้ประยุทธ์หยุดอยู่แค่นี้



รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/_iyrRfRohHY

คุณอาจสนใจ

Related News