เลือกตั้งและการเมือง

‘วีระกร’ มั่นใจ ‘อนุทิน’ นั่งนายกฯต่อ ‘บิ๊กตู่’ หลังหมดอำนาจ ส.ว.เลือกนายกฯ

โดย attayuth_b

11 ม.ค. 2566

45 views

นายวีระกร คำประกอบ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นครสวรรค์ พรรคภูมิใจไทย เปิดเผยภายหลังการสมัครสมาชิกพรรคภูมิใจไทย ยืนยันว่า ไม่ขอให้ใครตามมาพรรคภูมิใจไทยด้วย เพราะต้องเคารพพรรคเก่าด้วย ย้ำว่า พรรคเก่าเป็นพรรคที่ดี ไม่ใช่ลาออกเพราะพรรคไม่ดี หัวหน้าพรรคใจดี แต่สาเหตุที่ย้ายมี 2 เหตุผม คือ 1.มีความคล่องตัวในการทำงานการเมืองมากกว่า ซึ่งบางครั้งเราเจอในสภาตลอด ก็เป็นนักการเมืองด้วยกัน สามารถพูดคุยกันได้ตลอด หากอยู่พรรคเดิม อาจต้องใช้เวลาในการพบกับหัวหน้าพรรค ต้องมีช่วงระยะเวลาถึงจะได้พบ ไม่ใช่พบกันแบบง่ายๆ 2.ตนมั่นใจในนโยบายของพรรคภูมิใจไทยที่สามารถช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้หลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องที่ไม่ต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว เพราะเป็นรถไฟฟ้าที่เป็นไข่แดงใจกลาง กทม. หากขายสัมปทานไปแล้ว จะเอาอะไรมาต่อรองค่าโดยสาร จึงไม่มีเหตุผลต้องขาย แต่ภูมิใจไทยมีนโยบายแน่นอนชัดเจนที่ไม่ยอมขายสัมปทานต่อให้ผู้ถือสัมปทานเดิม ก็จะทำให้หลังปี 2572 พรรคภูมิใจไทยถ้าเป็นแกนนำรัฐบาล จะมีนโยบายให้ประชาชนใช้รถไฟฟ้าขาหนึ่งไม่เกิน 40 บาทอย่างแน่นอน

นายวีระกร ยอมรับว่า ได้พูดคุยกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐมา 2-3 เดือนแล้ว และตนได้อธิบายให้เข้าใจว่า มีปัญหาอะไรทำงาน ก็เล่าให้หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐฟังว่า ไม่คล่องตัวในพรรคพลังประชารัฐ การรอฟังหัวหน้าพรรคนั้นนานเกินไป ไม่คล่องตัว ต้องเข้าตามระเบียบ ไม่เหมือนนักการเมืองที่เจอทุกวันในการประชุมสภาฯ

เมื่อถามว่า แต่พล.อ.ประวิตรก็เคยให้ตำแหน่ง รองเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ นายวีระกร กล่าวว่า หัวหน้าพรรคคงเข้าใจว่าตนจะลาออกจึงให้ตำแหน่งนี้มา ตนจึงบอกไปว่า จะเริ่มทำงานพรุ่งนี้เลย เพราะคิดว่า ต่อไปคงได้เข้าพบง่าย

เมื่อถามว่า แล้วอะไรคือฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ออกจากพรรคพลังประชารัฐ นายวีระกร กล่าวว่า เพราะหัวหน้าพรรคบอกว่า “จะทำอะไรให้มาขอผมก่อน” ซึ่งตนทำไม่ได้ พร้อมย้ำว่า การจะเข้าไปบ้านป่ารอยต่อ จะต้องแลกบัตร รถถึงจะเข้าไปได้ และต้องนั่งรอครึ่งชั่วโมงถึง 1 ชั่วโมง กับผู้ใหญ่ก็ต้องรอ แต่กับนักการเมืองด้วยกันไม่ต้องรอ เจอกันก็คุยกันได้เลย คล่องตัวกว่า ซึ่งนายอนุทิน ก็ให้ความเมตตาและเข้าใจในเรื่องเกษตรกร ซึ่งนายอนุทินจึงได้ชวนตนมาให้ดูเรื่องนี้ด้วย

นายวีระกร ยังมั่นใจว่า พรรคภูมิใจไทยเป็นแกนนำรัฐบาลแน่นอน หากดูจำนวน ส.ส.เชื่อว่า ไม่ต่ำกว่า 120 คน และพรรคภูมิใจไทย จะมี ส.ส.มากที่สุด เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลและเป็นพรรคที่แข็งแรงที่สุดได้ และตอนนี้หลายคนทราบดีว่า พรรคพลังประชารัฐเป็น 2 พรรคแล้ว คือ พรรคพลังประชารัฐและพรรครวมไทยสร้างชาติ จึงตอบไม่ได้ว่า 2 พรรคนี้ จะได้ ส.ส.เท่าไหร่ แต่พรรคภูมิใจไทยจะได้ ส.ส.มากที่สุด และเมื่อ ส.ว.หมดอำนาจตามมาตรา 272 ที่จะบอกเลือกนายกรัฐมนตรีได้ คือ 6 เม.ย.67 พูดง่ายๆว่า ถ้าตั้งรัฐบาลได้ไม่ถึง 1 ปี สมมติว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้รับเลือกจากรัฐสภาให้เป็นนายกฯต่อ ก็จะอยู่ได้โดยที่มีอำนาจของ ส.ว.สนับสนุนอีกแค่ 10 เดือน ต่อจากนี้ก็เชื่อว่า เป็นโอกาสของภูมิใจไทย

เมื่อถามย้ำว่า หมายถึงว่า นายอนุทิน จะได้เป็นนายกฯต่อจาก พล.อ.ประยุทธ์ ใช่หรือไม่ นายวีระกร กล่าวว่า ไม่ทราบ แต่มี ส.ส.มากที่สุด คิดเอาแล้วกัน

เมื่อถามย้ำอีกว่า มั่นใจว่า นายอนุทินจะได้เป็นนายกฯหรือไม่ นายวีระกร กล่าวว่า มั่นใจ แต่ไม่ใช่เลือกตั้งครั้งต่อไป ใน 1-2 ปีข้างหน้า เมื่อถามอีกครั้งว่า สรุปว่า นายอนุทินจะได้เป็นนายกฯ ต่อจากพล.อ.ประยุทธ์ใช่หรือไม่ นายวีระกร กล่าวว่า ก็น่าจะเป็นต่อ

เมื่อถามว่า ต่อไปก็จะไม่มีองครักษ์พิทักษ์ พล.อ.ประยุทธ์และพล.อ.ประวิตร ในสภาฯ ใช่หรือไม่ นายวีระกร กล่าวว่า การที่เราจะอยู่พรรคไหน เราก็ต้องซื่อสัตย์กับพรรคนั้น แต่ยืนยันว่า สิ่งที่ตนพูดปกป้องในสภาฯนั้นมีเหตุผล ไม่เคยโต้เถียงกับฝ่ายตรงข้าม และย้ำว่า ลุงตู่ก็มีดี ทำความดีไว้เยอะ เห็นได้จากการฟื้นสัมพันธ์กับซาอุดีอาระเบียในรอบ 30 ปี รวมถึงโครงการอีอีซี ซึ่งเป็นผลงานเด่น

คุณอาจสนใจ

Related News