ชายเมาไม่เบรก ชนกระจาย 3 คันรวดกลางแยกไฟแดงสุวินทวงศ์

ภาพจากกล้องวงจรปิดริมถนนสุวินทวงศ์ บันทึกภาพเหตุการณ์ที่รถกระบะขับขี่มาด้วยความเร็ว เมื่อถึงแยกไฟแดงแล้วไม่ยอมเบรก ทำให้พุ่งชนรถที่ติดไฟแดงจำนวน หลายคัน โดยเหตุการณ์ดังกล่าวมีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นหญิง 1 ราย ส่วนผู้ขับขี่รถคันก่อเหตุอยู่ในอาการมึนเมา ไม่ได้รับบาดเจ็บแถมเอาเลสข้อมือพระออกมาโชว์ ว่าตนเองรอดจากอุบัติเหตุครั้งนี้ เพราะเลสข้อมือหลวงพ่อจากวัดแห่งหนึ่งที่ตนเชื่อ

เวลา 23.00 น. วันนี้ ( 09 ม.ค.65 ) ร.ต.ท.พิทักษ์พงษ์ กาวี รอง.สว.(สอบสวน) สภ.บางน้ำเปรี้ยว รับแจ้งเหตุรถยนต์ชนกันจำนวนหลายคัน มีผู้บาดเจ็บ บริเวณ 3 แยกตลาดสุวินทวงศ์ มุ่งหน้ากรุงเทพมหานคร ม.18 ต.ศาลาแดง อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา จึงประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยฉะเชิงเทราร่วมตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุบริเวณกลางแยกไฟแดงพบรถยนต์ชนกัน ลักษณะชนท้ายจำนวนหลายคัน โดยคันก่อเหตุคือ รถกระบะ ยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์ มีนายปริญา อายุ 51 ปี เป็นคนขับยังอยู่ในอาการมึนเมา ไม่ได้รับบาดเจ็บ นอกจากนี้ในที่เกิดเหตุยังมีรถได้รับความเสียหายอีกจำนวน 3 คัน ประกอบด้วยรถกระบะ โตโยต้าวีโก้ สีขาว ,รถเก๋งโอเปิล สีดำ ,และรถบรรทุกพ่วง ได้รับความเสียหาย โดยนางสาว นิรชา อายุ 26 ปี ที่นั่งมาในรถยนต์กระบะ โตโยต้าสีขาว ได้รับบาดเจ็บ จุกเสียดที่หน้าอก เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้เร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลพุทธโสธร

สอบถามนายปริญา คนขับกระบะคันก่อเหตุ ที่ยังอยู่ในอาการมึนเมาเปิดเผยว่า ตนเองดื่มมานิดหน่อย กำลังจะกลับบ้านในเขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ เห็นสัญญาณไฟเขียวด้านหน้า จึงไม่ได้เบรกรถ แต่มองไม่เห็นว่ามีรถติดไฟแดงอยู่จึงพุ่งชน ทำให้รถของตนเองพังยับเยินเสียหาย นอกจากนี้ตนเองไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด เพราะแขวนเลสข้อมือ หลวงพ่อที่วัดแห่งหนึ่ง อ.องค์รักษ์ จ.นครนายก ไว้กับข้อมือจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ

ขณะที่นายอาทิตย์ อายุ 34 ปี ผู้ขับขี่รถบรรทุกพ่วงเปิดเผยว่า ขณะที่ตนจอดติดไฟแดง เป็นสัญญาณไฟเขียว รถทุกคันกำลังเคลื่อนออก จู่ๆรถของนายปริญญา ก็เฉี่ยวรถของตนก่อนจะพุ่งชนรถที่อยู่ด้านหน้ารถของตนไป จนรถชนท้ายจากแรงกระแทกได้รับความเสียหาย โดยนายปริญญาเดินลงจากรถไม่มีอาการบาดเจ็บแต่อย่างใด

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ประสานรถยก ยกรถที่ไม่สามารถขับเคลื่อนออกไปได้ และได้เชิญตัวนายปริญญาไปตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดที่ สภ.บางน้ำเปรี้ยว นอกจากนี้จะรอให้อาการของนายปริญญา สามารถสื่อสารได้รู้เรื่องมากกว่านี้ จะได้ทำการสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป