สังคม

‘เสี่ยเบนท์ลีย์’ ส่งตัวแทนไกลเกลี่ย คู่กรณีข้องใจไมไม่เป่าแอลกอฮอล์ เรียกร้องรับผิดชอบเยียวยา

โดย chiwatthanai_t

9 ม.ค. 2566

91 views

เมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 9 มกราคม 2566 ที่ สน.ทางด่วน 1 พ.ต.ท.พิเชษฐ์ ก้อนแพง รอง ผกก.(สอบสวน) งานศูนย์ควบคุมจราจรด่วน 1 กก.2 บก.จร.ได้นัดผู้เสียหายคดีถูกรถยนต์หรู ยี่ห้อเบนท์ลีย์ ที่มีนายนายสุทัศน์ เป็นขับชน จนได้รับความเสียหาย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย เพื่อเจรจาไกล่เกลี่ยกับคู่กรณี


นายอภิชาติ ประธาน อพปร.เขตบางรัก กล่าวว่า จากการพูดคุยของทนายความฝั่งคู่กรณี ก็ยังคงยืนยันว่าจะรับผิดชอบต่อค่าเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถนี้ โดยจะซื้อรถให้ใหม่เลย เนื่องจากเราทำงานด้านสาธารณภัย สิ่งที่เราต้องการคือรถที่มีสมรรถนะดี เพื่อจะได้ไปช่วยเหลือสังคมต่อได้


ด้านนายอิทธิพล อายุ 35 ปี เจ้าหน้าที่อาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัยมัสยิดฮารูณ คนขับรถ อฟปร.กล่าวว่า อาการตอนนี้มีแค่ปวดตามร่างกาย ส่วนการรักษาแค่ปฐมพยาบาลล้างแผล โดยตั้งแต่วันเกิดเหตุยังไม่เคยได้ยินคำขอโทษจากผู้ก่อเหตุ หรือแม้แต่จะโทรมาถามอาการ ตอนนี้ต้องการให้ตัวคู่กรณีออกมาพูดให้ความกระจ่างกับเรื่องที่เกิดขึ้นต่อ หน้าสื่อมวลชน ว่าทำไมถึงไม่ยอมเป่าแอลกอฮอล์


ด้าน น.ส.ธนานิษฐ์ 29 ปี หนึ่งในผู้โดยสารที่อยู่ในรถยนต์ปาเจโร เล่าว่า วันเกิดเหตุตนและครอบครัวอยู่ระหว่างเดินทางกลับบ้านที่ จ.บึงกาฬ โดยมีพี่เขย คือนายนายศราวุธ ผู้ขับขี่ และมีพ่อของพี่เขยนั่งอยู่เบาะหน้าข้างคนขับ ถัดมาที่เบาะหลังคือแม่ของพี่เขย ลูกชาย 4 ขวบ และพี่สาว ส่วนตนเองนั่งอยู่เบาะหลังสุด ขณะที่รถกำลังวิ่งเลนกลาง ก็รู้สึกว่าโดนกระแทกจากด้านหลังอย่างแรงจนรถหมุน จากนั้นตนจึงตั้งสติเอื้อมมือไปคว้าตัวลูกชายไว้ และรถก็โดนชนอย่างแรงอีกครั้งจน พลิกคว่ำตีลังกา เมื่อรถหยุดนิ่งตนจึงรีบอุ้มลูกออกจากรถ เนื่องจากเกรงว่าไฟจะลุกไหม้รถ จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวตนเองและครอบครัวส่ง รพ.อาการของตนตอนนี้มีอาการปวดที่คอร้าวไปถึงไหล่ ต้องใส่เฟือกที่คอ


ส่วนพ่อของพี่เขยพึ่งผ่าตัดแขนเสร็จ ก็ยังพักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.จึงอยากเรียกร้องให้คู่กรณีรับ ผิดชอบเยียวยาค่ารักษาพยาบาลและเยียวยาผลกระทบที่มีต่อจิตใจของคนในคนอบครัว โชคดีที่ระหว่างเกิดเหตุลูกชาย 4 ขวบหลับอยู่ ไม่อย่างนั้นอาจเกิดภาพจำส่งผลให้กระทบกระเทือนต่อจิตใจไม่กล้านั่งรถอีกต่อไป ตอนนี้ยอมรับว่าก็ยังไม่มั่นใจว่าจะได้เยี่ยวยาตามที่เรียกไปหรือไม่ เพราะที่ผ่านมายังไม่เคยได้รับคำขอโทษหรือการเเสดงความรับผิดชอบจากคู่กรณีเลย


ส่วนตัวติดใจอยู่สองเรื่องคือ 1.ตั้งแต่เกิดเหตุทางคู่กรณียังไม่เคยติดต่อมาพูดคุยหรือส่งตัวแทนมาถามสารทุกข์สุกดิบหรือขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแม้แต่ครั้งเดียว  2.ทำไมคู่กรณีถึงไม่ยินยอมเป่าแอลกอฮอล์ หรือออกมาพูดต่อหน้าสื่อมวลชนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากที่ตัวแทนของ นายสุทัศน์ เดินทางเข้าเจรจาไก่เกลียกับทางคู่กรณีใช้เวลา 1 ชั่วโมง จากนั้นพยายามหลบและหลีกเลี่ยงสื่อมวลชน และไม่ขอตอบคำถามใดๆพูดเพียงว่าไม่รู้เรื่องเป็นเพียงแค่ตัวแทนมาพูดคุย และรีบเดินทางกลับในทันที

คุณอาจสนใจ

Related News