เดินทางปีใหม่เริ่มแล้ว! ขาเข้าอีสาน รถติดยาวเหยียด - รถไฟโคราชแน่นไม่มีที่ยืน คนตกค้างร่วม 300 คน

เริ่มแล้ว ประชาชนเริ่มทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนา เพื่อไปฉลองเทศกาลส่งท้ายปีเก่า-ต้อนรับปีใหม่กับครอบครัว ขณะที่ถนน 304 ราชสีมา-กบินทร์บุรี ทางสายหลักเชื่อมระหว่างภาค รถหนาแน่นเต็ม 2 ช่องจราจร ติดยาวเหยียดหลายกิโล ด้านสถานีรถไฟโคราชวุ่น ผู้โดยสารนับ100 ตกค้าง โวยคนเยอะไม่เพิ่มตู้ แน่นจนไม่มีที่ยืน ส่วนประชาสัมพันธ์สถานี ประกาศขออภัย ผ่านเสียงตามสาย

วานนี้ (25 ธ.ค 65) เวลา 14.30 น. บรรยากาศการเดินทางกลับภูมิลำเนา ช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ประชาชนเริ่มวางแผนทยอยเดินทางล่วงหน้ากันอย่างคึกคัก

โดย ถนนสาย 304 ราชสีมา-กบินทร์บุรี ฝั่งขาเข้านครราชสีมา ซึ่งเป็นเส้นทางสายหลักเชื่อมระหว่างภาคตะวันออกกับจังหวัดทางภาคอีสาน มีรถยนต์วิ่งหนาแน่นเต็มทั้ง 2 ช่องการจราจร เกือบทั้งเส้นทาง โดยเฉพาะบริเวณในเขตชุมชนการจราจรจะหนาแน่นมาก และรถติดขัดยาว

ขณะที่ บริเวณจุดก่อสร้างสะพานวงแหวนรอบเมือง ก่อนถึงแยกสวนสัตว์นครราชสีมา ผู้ใช้รถใช้ถนนต้องใช้ทางเบี่ยงอ้อมจุดก่อสร้าง เนื่องจากมีป้ายแจ้งเตือนกำลังก่อสร้างทาง เพราะยังไม่เปิดเป็นทางสาธารณะ ผู้ขับขี่ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ รถยนต์เกิดการชะลอตัว และติดสะสมยาวเหยียด

อย่างไรก็ตาม ศูนย์บริหารจราจรตำรวจภูธร จ.นครราชสีมา ได้ประสานแขวงทางหลวงนครราชสีมาคืนผิวจราจรจุดที่มีการก่อสร้างปรับปรุงซ่อมแซมถนนทุกเส้นทางให้แล้วเสร็จภายในวันนี้ เพื่อรองรับการเดินทางกลับภูมิลำเนาเทศกาลปีใหม่ คาดว่าจะเริ่มเดินทางอย่างคึกคักตั้งแต่วันนี้ไป จนถึงตลอดสัปดาห์สุดท้ายของปี

-------------
วานนี้ (25 ธ.ค. 65) เวลา 14.30 น. ที่สถานีรถไฟชุมทางถนนจิระ อ.เมือง จ.นครราชสีมา พบผู้โดยสารประมาณ 300 คน ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาที่เสร็จภารกิจการทดสอบและประเมินสมรรถนะ ตามมาตรฐานวิชาชีพครู ครั้งที่ 2 ประจำปี พ.ศ.2565 ซึ่งใช้โรงเรียนมัธยมในพื้นที่ อ.เมือง เป็นสนามสอบ ได้มายืนบนชานชาลาที่ 3 รอใช้บริการโดยสารขบวนรถไฟท้องถิ่น 427 นครราชสีมา-อุบลราชธานี เพื่อเดินทางกลับภูมิลำเนาเดิม

เมื่อขบวนรถดีเซลรางแล่นมาจอดเทียบชานชาลา ผู้โดยสารกว่าครึ่งต้องพากันผิดหวัง เนื่องจากเพียงแค่สถานีแรกที่ออกมาจากต้นทาง ปรากฏว่าทั้ง 4 โบกี้ มีผู้โดยสารแน่นขนัด ไม่เหลือพื้นที่ให้เข้าไปยืน ทางประชาสัมพันธ์สถานีต้องประกาศเสียงตามสาย ขออภัยการใช้บริการ และให้ผู้โดยสารที่มีตั๋วปลายทาง จ.สุรินทร์ สามารถใช้บริการขบวนรถธรรมดา 233 กรุงเทพมหานคร-สุรินทร์ ซึ่งจะมาถึงเวลา 17.20 น. และได้เพิ่มตู้โดยสาร 4 โบกี้ กรณีไม่ประสงค์เดินทางสามารถคืนตั๋วในราคาเต็มได้

ด้าน น.ส.ปรานี สุขใจ นศ.มหาวิทยาลัยของรัฐชื่อดัง ซึ่งเป็นผู้โดยสารที่ซื้อตั๋วลงปลายทาง จ.อุบลราชธานี แต่ไม่สามารถใช้บริการได้ เพราะไม่มีที่ยืน เปิดเผยว่า ฝากถึงผู้บริหารการรถไฟแห่งประเทศไทย ทั้งที่ทราบว่าต้นทางมีผู้โดยสารจำนวนมาก ทำไมไม่เพิ่มตู้โดยสารให้เพียงพอกับจำนวนคน แม้ราคาตั๋วรถไฟถูกกว่าขนส่งสาธารณะประเภทอื่น แต่รถไฟไทยไม่ตรงเวลา มักวิ่งตามเวลา และการบริหารจัดการเกี่ยวกับการให้บริการที่ไม่พัฒนา เป็นสาเหตุสำคัญที่คนรุ่นใหม่ใช้บริการรถไฟน้อยลง
-------------

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/q2iKM2PL4Go