สังคม
เปิดใจอดีตผู้บริหารบริษัทอสังหาริมทรัพย์ ถูกจับเป็นแพะคดียาเสพติด สู้คดีนาน 3 ปีจนศาลยกฟ้อง
โดย panisa_p
22 ธ.ค. 2565
354 views
เมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2563 ข่าว 3 มิติได้รับร้องเรียนจากรองกรรมการผู้จัดงานสายงานขายและการตลาดบริษัทชีวาไทย ที่ซึ่งเป็นตำแหน่งในขณะนั้น โดยระบุว่าเขาถูกตำรวจปราบปรามยาเสพติดจับฐานครอบครองไอซ์เพื่อจำหน่ายและจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ประเด็นที่ร้องเรียนพร้อมหลักฐานคือเขาเชื่อว่าตัวเองถูกจับผิดตัว และสายลับของตำรวจก็เคยยืนยันต่อหน้าพนักงานสอบสวนว่า เขาไม่ใช่ผู้ค้ายาเสพติดที่สายลับติดต่อด้วย
อย่างไรก็ตาม เขาก็ยังถูกดำเนินคดี จนเมื่อวานนี้ศาลอาญาพิพากษายกฟ้อง พร้อมเหตุผลว่า ศาลไม่เชื่อว่าเขาเป็นผู้กระทำผิด อีกทั้งคำให้การของพยานโจทก์ขัดแย้งกันเอง ส่วนพยานที่เป็นสายล่อซื้อ ก็ยืนยันในศาลด้วยว่า จำเลย ไม่ใช่ผู้ต้องหายาเสพติด ซึ่งตรงกับที่ข่าว 3 มิติเคยนำเสนอ
นักธุรกิจที่เคยเป็นถึงผู้จัดงานสายงานขายและการตลาดบริษัทอสังหาริมทรัพย์คนนี้ เปิดใจกับข่าว 3 มิติอีกครั้ง หลังศาลอาญาพิพากษายฟ้อง คดีที่เขาถูกตำรวจปส.จับและดำเนินคดีข้อหาครอบครองไอซ์เพื่อจำหน่ายและจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต
นักธุรกิจคนนี้เคยนำหลักฐานร้องเรียนข่าว 3 มิติ เมื่อพฤศจิกาย 2563 ว่าเขาถูกตำรวจจับโดยอ้างเบาะแสจากสายลับว่าเขาคือพ่อค้ายาเสพติด ที่นำไอซ์น้ำหนักเกือบ 2 ขีด ไปให้สายลับล่อซื้อคนหนึ่งเมื่อปี 2560 โดยผุ้ค้ายาเสพติดมีชื่อเช่นว่า โอ นำไอซ์ไปทิ้งไว้ที่ถังขยะในซอยแห่งหนึ่งย่านเพชรเกษม
ขณะนั้นไม่พบหลักฐานคนนำไอซ์มาทิ้งไว้ แต่หลักเดียวที่พบคือเลขทะเบียนรถยนต์ที่ให้ไว้ตรงกับชื่อนายณัฐนันท์ แต่ปรากฎว่ามีหลายอย่างไม่ตรงกัน เช่นรถยนต์ผู้ค้ายาเป็นมาสด้า 3 สีน้ำเงิน ส่วนรถผู้ร้องเป็นมาสด้า CX สีน้ำเงิน ผู้ค้ายาชื่อโอแต่ผู้ร้องชื่อเอก ผู้ค้ายาเคยเช่าห้องชั้น 9 คอนโดย่านกัลปพฤก แต่ผู้ร้องเคยไปคอนโดเดียวกันนี้ที่ชั้น 3
นอกจากนี้สายลับ ยังเคยถูกตำรวจเรียกมาพบตัวเขาที่ห้องสอบสวน และสายลับก็ทักท้วงทันทีว่า พ่อค้ายาที่สายลับติดต่อด้วย ชื่อโอ ไม่ใช่ผู้ร้องเรียนที่ชื่อเอก ซึ่งมีพยานแวดล้อมได้ยินการสนทนานั้น ขณะนั้นแม้แต่ผู้กำกับคนหนึ่งก็เอ่ยขอโทษข้อผิดพลาด
อย่างไรก็ตาม ในที่สุดเขาถูกสั่งฟ้องดำเนินคดี ด้วยประโยคหนึ่งหนึ่ง "ไปสู้คดีในชั้นศาล " ซึ่งเขาเชื่อว่าเป็นเพียงการเอาตัวรอดจากการที่จับผิดตัว และกระบวนการสู้คดีในชั้นศาล หากเขาไม่ได้รับประกันตัวเพราะข้อกล่าวหาที่มีโทษถึงประหารชีวิตนั้น ไม่ต่างกับถูกประหารชีวิตโดยที่ยังไม่มีคำพิพากษาด้วยซ้ำ
ทนายความของผู้ร้องเรียนที่เป็นจำเลยระบุว่า พยานโจทก์หลายปากทั้งพนักงานสอบสวนให้การขัดแย้งกัน และโจทก์ไม่เบิกความสายสลับมาเป็นพยาน จนฝ่ายจำเลยนำสืบที่อยู่และเสนอศาลเบิกตัว ซึ่งสายลับก็ระบุว่า จำเลยไม่ใช่ผู้ค้ายา เมื่อศาลพิเคราะห์รายละเอียดอื่นๆ จึงพิพากษายกฟ้องไม่ใช่เพราะเหตุสงสัย แต่เพราะเชื่อว่าจำเลยไม่ได้กระทำผิด
ตามขั้นตอนคดีนี้อัยการยังมีสิทธิ์ตามกฎหมายที่จะอุทธรณ์ และผู้ร้องเรียนก็ยืนยันว่าพร้อมพิสุจน์ความบริสุทธิ์ตัวเองอ แม้ว่าโอกาสก้าวหน้าทางการงาน ความสุขนในครบอครัวได้สูญเสียไปมาก จากเหตุการณ์ที่เขาใช้เชื่อว่า เขาเป็นแพะ ของคดี
