เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 19 ธ.ค.65 โพลชี้ภูมิใจไทยเรตติ้งพุ่ง-อาร์เจนตินาคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก-เรือหลวงสุโขทัยอับปาง

-ภาคใต้จมบาดาลหลังฝนถล่มต่อเนื่อง ทั้งฝนทั้งลม ถล่มเมืองหาดใหญ่ ต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ทำน้ำท่วม ไฟดับ ปชช.เดือดร้อนหนัก ขณะที่หลายเส้นทางถูกตัดขาด โรงเรียนหลายแห่งประกาศหยุดสอน เปลี่ยนมาเรียนออนไลน์ ด้านคลื่นลมยังแรง ซัดเรือบรรทุกน้ำมันยักษ์เกยตื้นชายหาดแหลมสมิหลา ลูกเรือปลอดภัยแต่ยังไม่เข้าไปกู้ได้เพราะคลื่นแรง

ส่วนที่นราธิวาส สังเวยแล้ว 3 ศพ รอด 2 ทั้งหมดเป็นครอบครัวเดียวกัน หลังรถเก๋งตกข้างทางไหลตามกระแสน้ำเชี่ยวกราก ทหารต้องลุยน้ำช่วยเหลือ

-ระทึกกลางอ่าวไทย “เรือหลวงสุโขทัย”น้ำทะลักเข้าเรือ อุปกรณ์สื่อสารใช้ไม่ได้ อยู่ห่างจากชายฝั่ง 16 ไมล์ทะเล ระหว่างปากน้ำปรานบุรีกับบางสะพาน ด้านลูกเรือส่งข้อความขอช่วยเหลือ ก่อนระดมพลกู้เรือเพื่อยื้อเวลา รอกองทัพส่งเรือใหญ่เข้าช่วยเหลือ

ล่าสุดโฆษกกองทัพเรือ ออกแถลงระบุ กำลังพลทุกนายปลอดภัย สาเหตุคาดว่าเกิดจากเครื่องจักรขัดข้อง น้ำไหลย้อนเข้าตัวเรือ ส่งผลให้เรือเอียง ขณะที่เจ้าหน้าที่เร่งสูบน้ำออก แต่หากไม่สำเร็จต้องสละเรือ

-ตำรวจ ปอศ. รวบซีอีโอบริษัทหลอกขายลอตเตอรี่ทิพย์ หลังนอท กองสลากพลัส แจ้งความเอาผิด ตรวจสอบเบื้องต้นพบเงินหมุนเวียนกว่า 30 ล้าน ขณะที่ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ แต่รับเป็นกรรมการบริษัทจริง ก่อนอ้างสลากที่จำหน่ายซื้อมาจาก น.ส.มาลัย ซึ่งจะส่งเป็นไฟล์สลากฯ มาให้ ด้านเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ จึงส่งตัวดำเนินคดีต่อไป

-แตกตื่นกลางรังสิต-นครนายก หนุ่มหัวร้อนมีเรื่องกับรถเก๋งขณะติดไฟแดงก่อนเดือดจัด กระโดดเกาะฝากระโปรงรถ ก่อนถูกเร่งเครื่องสะบัดร่วงกลิ้งกลางถนน แล้วขับหลบหนีไป ขณะที่ตำรวจ สภ.ธัญบุรี ระบุยังไม่พบว่ามีการแจ้งความกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

-สมศักดิ์ศรี นัดชิงบอลโลก อาร์เจนตินา vs ฝรั่งเศส เกมพลิกไปมา อาร์เจนตินาดวลจุดโทษชนะฝรั่งเศส 4-2 หลังจบ 120 นาที เสมอกัน 3-3 ทำให้อาร์เจนตินาคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 3 ได้สำเร็จ หลังรอคอยมานาน 36 ปี


เรื่องเล่าการเมือง

-ความชัดเจนเกี่ยวกับแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของพรรคพลังประชารัฐ เมื่อวานนี้ นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค ออกมาบอกว่า พรรคพลังประชารัฐ จะเสนอชื่อ พลเอกประวิตร เพียงคนเดียว

นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงความชัดเจน ในการวางตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ในนามพรรคพลังประชารัฐว่า คนที่เหมาะสมที่สุด มีเพียงคนเดียว คือ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค

ซึ่งตอนนี้พรรคมีการพูดคุยกันแล้วว่า จะเสนอชื่อของ พลเอกประวิตร เป็นแคนดิเดตเพียงคนเดียว แต่ยังต้องรอมติจากกรรมการบริหารพรรค ด้วย

นายไพบูลย์ บอกว่า เหตุผลที่เสนอเพียงชื่อเดียว เป็นเพราะ พลเอกประวิตรเป็นหัวหน้าพรรค และเป็นที่ยอมรับ เคารพนับถือของ ส.ส. ทุกคนในพรรค เป็นเสาหลัก และเป็นศูนย์กลางของคนในพรรค จึงเหมาะสม ที่จะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค

ส่วนกรณีที่นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ ออกมาเปิดชื่อตัวเองก่อนหน้านี้ว่า พลเอกประวิตร จะเสนอชื่อเป็นหนึ่งในแคนดิเดตนั้น นายไพบูลย์ บอกว่าเป็นเพียงการเสนอชื่อตัวเอง ของนายมิ่งขวัญ และยังไม่มีใครเห็นด้วย

ซึ่งเมื่อชัดเจนแล้วว่า พรรคจะเสนอพลเอกประวิตรเพียงคนเดียว หลังจากนี้ นายมิ่งขวัญจะอยู่หรือไปตนไม่ทราบ แต่เชื่อว่านายมิ่งขวัญจะไม่น้อยใจ เพราะการพูดเรื่องนี้ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ นายมิ่งขวัญควรจะรู้ว่า อะไรเป็นไปได้ อะไรเป็นไปไม่ได้



-ส่วนกรณีที่พรรคพลังประชารัฐ มั่นใจว่า พลเอกประวิตร จะได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี ในการเลือกตั้งครั้งหน้า เพราะมีเสียง ส.ส. และ ส.ว ในมือนั้น เมื่อวานนี้ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ บอกว่าสามารถทำได้ แต่ควรต้องมีเสียง ส.ส. เกินกว่าครึ่งด้วย

เมื่อวานนี้ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ยืนยันว่าขณะนี้พรรคประชาธิปัตย์ ยังไม่มีการพูดคุยถึงแนวทางการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี หลังการเลือกตั้ง เพราะต้องรอให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินผ่านการเลือกตั้งก่อน ว่าจะสนับสนุนพรรคการเมืองใด และพรรคใดจะสามารถรวมเสียงในสภาได้มากกว่า

ซึ่งการที่พรรคพลังประชารัฐจะรวมเสียง ทั้ง ส.ส. และ ส.ว. เพื่อให้พลเอกประวิตร เป็นนายกฯนั้น มองว่า สามารถทำได้ แต่ในการบริหารราชการแผ่นดินตามความเป็นจริง คนที่จะเป็นนายกฯ ได้ต้องมีเสียง ส.ส. ในสภาผู้แทนราษฎร สนับสนุนเกินกว่าครึ่งด้วย ไม่เช่นนั้น จะกลายเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย บริหารไม่ได้ เป็นนายกฯได้เพียงอย่างเดียว

ส่วนสถานการณ์ในสภาปัจจุบัน ที่มี ส.ส.ทยอยลาออก เพื่อย้ายพรรค และอาจเป็นเหตุนำไปสู่การยุบสภานั้น

นายจุรินทร์ มั่นใจว่า แม้จะมี ส.ส.ลาออก แต่รัฐบาลยังคงมีเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร เชื่อว่ายังสามารถขับเคลื่อนงานด้านนิติบัญญัติต่อไปได้



-เมื่อวานนี้ มีผลสำรวจความคิดเห็นประชาชน ของนิด้าโพล เกี่ยวกับผลงานของสภาผู้แทนราษฎร ในรอบเกือบ 4 ปีที่ผ่านมา ทั้งความพึงพอใจในการทำงานของ ส.ส. และความเห็นต่อการยุบสภา



โดยเป็นการสำรวจ จากหน่วยตัวอย่าง 1,310 คน จากทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ซึ่งเมื่อถามถึงความพึงพอใจต่อการทำงานของ ส.ส. ในรอบเกือบ 4 ปีที่ผ่านมา พบว่า

ร้อยละ 31.98 ไม่ค่อยพอใจ เพราะใช้เวลาไปกับการทะเลาะกัน และ ส.ส. เข้าร่วมประชุมน้อย

ขณะที่ ร้อยละ 30.46 ค่อนข้างพอใจ เพราะมีความมุ่งมั่นตั้งใจทำงาน นำเสนอปัญหาตามความต้องการของประชาชน

ส่วนร้อยละ 25.96 ไม่พอใจเลย เพราะสภาล่มบ่อยครั้ง

ขณะที่พอใจมาก มีเพียง ร้อยละ 9.77

เมื่อถามถึงความพึงพอใจต่อการทำงานของนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ พบว่า ร้อยละ 41.98 ค่อนข้างพอใจ เนื่องจากเป็นคนมีเหตุผล สุขุม รอบคอบ และมีความเป็นกลาง

ร้อยละ 24.05 พอใจมาก เพราะ เป็นคนซื่อสัตย์สุจริต ตรงไปตรงมา มีความยุติธรรม มีความรู้ความสามารถ ทำหน้าที่ได้ดี

ขณะที่ร้อยละ 20.38 ไม่ค่อยพอใจ เพราะ ไม่ค่อยมีความเป็นกลาง และขาดความเด็ดขาด

ส่วน ความคิดเห็นต่อการประกาศยุบสภาของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา

- ผลสำรวจ ร้อยละ 43.13 บอกว่า นายกฯ ควรประกาศยุบสภา ภายในเดือนธันวาคม นี้

- รองลงมา ร้อยละ 33.82 นายกฯควรอยู่จนครบวาระ ในวันที่ 23 มีนาคม ปี66

- ร้อยละ 12.37 นายกฯ ควรยุบสภา ภายในเดือนมกราคม ปี66

- ร้อยละ 3.74 นายกฯ ควรยุบสภา ภายในเดือนกุมภาพันธ์ ปี66

- และ ร้อยละ 2.82 นายกฯ ควรยุบสภา เพียงไม่กี่วันก่อนการครบวาระ



นอกจากนี้ยังมีอีกโพลสำรวจ "ที่สุดแห่งปี สุดแห่งพรรคการเมือง” ของซูเปอร์โพล จาก 1,190 ตัวอย่าง ที่หลักๆ มองว่า พรรคภูมิใจไทย เด่นแก้โควิด ขณะที่พรรคพลังประชารัฐ มีขัดแย้งสูง

โดยผลสำรวจในประเด็น ที่สุดภาพจำของประชาชนต่อพรรคการเมือง

ร้อยละ 72.7 ระบุว่า พรรคภูมิใจไทย เพราะโดดเด่นในการบริหารจัดการวัคซีนโควิด มีผลงานดูแลบุคลากรการแพทย์ อสม. ในระดับพื้นที่ห่างไกล

รองลงมา ร้อยละ 58.1 ก็ระบุ พรรคภูมิใจไทย เพราะ รักชาติบ้านเมือง ปกป้องเชิดชูสถาบัน เสาหลักของชาติมากที่สุด



ในขณะที่ ร้อยละ 43.9 ระบุว่า พรรคประชาธิปัตย์ เพราะเป็นขวัญใจเกษตรกร ไม่มีประวัติด่างพร้อยเรื่องทุจริต

ส่วนประเด็น พรรคการเมืองที่มีความขัดแย้งสูงภายในพรรค และมี ส.ส.ย้ายออก พบว่า เป็น พรรคพลังประชารัฐ ถึง ร้อยละ 46.9 /รองลงมา พรรคเพื่อไทย ร้อยละ 38.0 / และพรรคประชาธิปัตย์ ร้อยละ 36.2

ที่น่าสนใจคือ ประเด็น ผู้นำพรรคการเมืองที่ประชาชนวางใจเป็นมือแก้ปัญหาปากท้อง รายได้และหนี้สินของประชาชนได้

อันดับแรก คือ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ร้อยละ 61.4 /รองลงมาคือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ร้อยละ 38.8 / และนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ร้อยละ 35.8



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/qDPorqkkZWI