"ชูวิทย์" เดินทางเข้าให้ปากคำจเรตำรวจแห่งชาติ ปม ตม. เอี่ยวคดีตู้ห่าว เอื้อนายทุนจีน แฉตร.สุดหรูมีเปอร์เช-คอนโดย่านหลังสวน

ชูวิทย์ เดินทางเข้าให้ปากคำจเรตำรวจแห่งชาติ ปมตำรวจเอี่ยวคดีตู้ห่าว

นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เดินทางมาที่สำนักงานจเรตำรวจแห่งชาติ เพื่อเข้าปากคำกับคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง  เมื่อเวลา 16.30 น. ที่ผ่านมา โดยนายชูวิทย์ เผยว่าวันนี้เดินทางมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง 4 และ 5 ที่อาจจะมีความเชื่อมโยงกับมูลนิธิ และสมาคมเถื่อนในการออกวีซานักศึกษา กว่า 7,000 คน โดยเฉพาะในจังหวัดข่อนแก่นจากข้อมูลมีมากถึง 3,000 คน และยังเชื่อว่ามีเจ้าหน้าที่ที่มีพฤติกรรมในลักษณะนี้อีกหลายพื้นที่ โดยพฤติกรรมดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงปี 2563-2564





นายชูวิทย์ ยังพาดพิงถึง ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองคนหนึ่งที่ขี่รถหรูเปอร์เช และมีคอนโดอยู่ย่านหลังสวน ตั้งคำถามว่าทำไมถึงมีทรัพย์สินเหล่านี้ อีกทั้งก่อนมาพบจเรตำรวจแห่งชาติมีบุคคลติดต่อมาเพื่อขอละเว้นส่งรายชื่อในการตรวจสอบ ซึ่งเรื่องนี้ตัวเองมองว่าไม่สามารถละเว้นได้ พร้อมเดินหน้าเอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดโดยไม่ละเว้น ถึงจะเป็นเพื่อนร่วมรุ่นเดียวกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติก็ตาม ยิ่งต้องให้ตรวจสอบเพราะเคยให้สัมภาษณ์มาก่อนหน้านี้ว่าจะเอาผิดโดยไม่ละเว้น




ส่วนการสอบปากคำในวันนี้ คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยมี พล.ต.ท.วีระ จิรวีระ รองจเรตำรวจแห่งชาติ ในประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติแต่งตั้ง พร้อมคณะทำงานจำนวน 10 นาย เป็นผู้ตรวจสอบ โดยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกำชับให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน



โดยมีรายงานว่าพบตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเกี่ยวข้องจำนวนมากถึง 50 นาย เคยปฏิบัติงานในสังกัดตำรวจตรวจคนเข้าเมือง 4 และ 5 นอกจากคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ยังมีทีมงาน ลงพื้นที่ตรวจสอบ เบื้องต้น ยังไม่เห็นพยานหลักฐาน  ส่วนขบวนการตรวจสอบเส้นทางการเงิน หากพบว่ามีความเกี่ยวข้องจริง จะมีโทษทางวินัยร้ายแรงสุดคือไล่ออกจากราชการตำรวจ