สรุปข่าว

เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 13 ธ.ค.65 จับตา 37 ส.ส.จ่อซบภูมิใจไทย-หนุ่มสาวเล่นจ้ำจี้ร้านสะดวกซัก-เผาว่าที่เจ้าสาวเหยื่อรถพ่วง

โดย thichaphat_d

13 ธ.ค. 2565

42 views

-โฉ่งฉ่าง หนุ่มสาวเล่นจ้ำจี้กลางร้านสะดวกซัก ย่านหนองจอก ไม่แคร์สายตาใคร วงจรปิดจับภาพชัด ทั้งคู่ลงมาจากรถเปลือยท่อนล่าง ร่วมรักสยิวทั้งในร้านและบนรถ เจ้าของร้านแฉ ทำมาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งล่าสุดมีเพศสัมพันธ์มาราธอน นานนับชั่วโมง และค่อนข้างรุนแรง คล้ายกับตั้งใจโชว์ ทำให้ร้านเสียหาย ลูกค้าไม่กล้ามาซักผ้า เผยเคยแจ้งความแล้ว แต่ตำรวจบอกทำได้แค่ลงบันทึกประจำวัน เพราะไม่ใช่เหตุซึ่งหน้า

ล่าสุด ตำรวจตามเจอตัวสองหนุ่มสาว ยอมรับกระทำอนาจารจริง โดยขับรถมาส่งสินค้าในละแวกนั้น เห็นที่จอดรถกว้าง เหลี่ยมดี ใกล้หอพัก ชอบความตื่นเต้น จนขาดความยับยั้ง ลั่นสำนึกผิด พร้อมเสียค่าปรับ จะไม่ทำอีก

-บีบหัวใจ เผาแล้วว่าที่เจ้าสาว เหยื่อรถพ่วงชนท้ายรถปาเจโร่ไถลอัดร่าง บรรยากาศโศกเศร้า สัปเหร่อถอดแหวนแต่งงานส่งคืน ว่าที่เจ้าบ่าวร่ำไห้ปริ่มจะขาดใจ บอกลาครั้งสุดท้าย ส่วนที่เชียงใหม่ สลด 2 ลุงป้าชาวกะเหรี่ยง เพิ่งแต่งงานใหม่ กลับจากพิธีเข้ากรรมนอกบ้าน รถเสียหลักตกน้ำดับ 2 ศพ คาดคนขับหลับใน รถเสียหลักรถชนต้นไม้ข้างทาง จนพุ่งตกลงไปในน้ำ

-หมอมนูญ หัวหน้าโรคระบบทางเดินหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ เตือนไทย รับมือโควิดสายพันธุ์ XBB หลังพบระบาดหนักในอินเดีย เผยติดง่ายกว่าสายพันธุ์เดิม และยังหลบหลีกภูมิคุ้มกัน คาด 3-4 เดือน เข้ามาแทนที่สายพันธุ์เดิม

-พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ รอง ผบ.ตร. ยันแจ้งข้อหาตู้ห่าว ฐานฟอกเงิน ได้แน่นอน ส่วนคดีความผิดนอกราชอาณาจักร ยังไม่มีหลักฐาน โดยเฉพาะการโอนเงินไปยังบุคคลอื่นในต่างประเทศ ลั่นเอาผิด ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ไม่มีละเว้น ตั้งแต่ชั้นประทวน หรือแม้แต่นายพล เผยตำรวจบางนาย ร้องไห้ขณะถูกสอบสวนเพราะจำนนต่อหลักฐาน ด้านชูวิทย์เผยมีหลักฐานเด็ด ตู้ห่าววางแผนนอกราชอาณาจักร จ่อแถลงล้มกระดาน พุธนี้

-ระทึกกลางถนนเมืองชลบุรี ล้อรถปริศนาโผล่ กระบะหลบไม่ทัน พุ่งชนเต็มแรง ก่อนจะเสียหลักพุ่งชนข้างทาง จนรถพังยับ บาดเจ็บ 4 ราย วอนตำรวจตามเจ้าของล้อรถมารับผิดชอบ ส่วนที่สงขลา กระบะเคราะห์ร้าย ขับรถลอดใต้สะพาน เจอมวลน้ำก้อนใหญ่ ตกกระแทกใส่ เสียงดังสนั่น กระจกรถแตกกระจาย โชคดีไม่มีใครบาดเจ็บ คาดน้ำทะลักจากท่อระบายน้ำบนสะพาน อีกทั้งขณะเกิดเหตุยังมีฝนตกหนัก



เรื่องเล่าการเมือง


-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกเดินทางไปร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน-สหภาพยุโรป สมัยพิเศษ ที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยี่ยม ระหว่างวันที่ 12-15 ธ.ค.นี้ ก่อนไปได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าว ว่าในช่วงที่เดินทางไปต่างประเทศ เป็นห่วงอะไรหรือไม่

ซึ่งท่านนายกฯ บอกว่า เรื่องการทำงาน ไม่ห่วงอะไรทั้งนั้น เพราะมีคนทำงานตามระบบอยู่แล้ว ในช่วงที่ นายกฯไม่อยู่ ก็มีรักษาการแทน พร้อมขอสื่อมวลชน นำเสนอข่าวให้เบาๆหน่อย เพราะส่วนที่เป็นห่วงอย่างเดียว คือ ปัญหาความขัดแย้ง

นอกจากนี้ ยังตอบคำถาม กรณีผลสำรวจนิด้าโพล ที่ออกมาระบุว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ จะไม่ได้เป็นรัฐบาลต่อ ว่า ไม่มีผลต่อการตัดสินใจอนาคตการเมือง

ส่วนหลังกลับมาจะเปิดตัวทางการเมืองหรือไม่ ท่านนายกฯ ระบุเพียงว่า "เดี๋ยวกลับมาตอบ" ไปฟังเสียงบางช่วง



-มีท่าทีจากเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ ออกมาสวนทางทันที ก็มั่นใจว่าพรรค จะกวาดที่นั่ง ส.ส. เพียงพอสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ โดยนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ พูดถึงผลสำรวจความนิยมประชาชนของนิด้าโพลล่าสุด ที่ระบุว่าพรรคเพื่อไทย มีโอกาสเป็นรัฐบาลมากที่สุด ขณะที่พรรครวมไทยสร้างชาติจะไม่ได้เป็นรัฐบาลว่า

"ก็เป็นการประเมินวิเคราะห์ ก็ย้ำว่า รวมไทยสร้างชาติ ยังเป็นพรรคใหม่ ที่กำลังก้าวเข้าสู่จังหวะการเปลี่ยนแปลง ทั้งตัวผู้นำ / ผู้สมัครส.ส. รวมถึงการนำเสนอจุดยืนและแนวนโยบายพรรค ซึ่งมั่นใจว่าจะเป็น พรรคที่มีศักยภาพแข่งขันในสนามเลือกตั้ง และมีจำนวนส.ส.มากเพียงพอ ที่จะร่วมจัดตั้งรัฐบาลได้

ขณะที่ นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พูดถึงกรณีพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ไม่ติดในโพลว่า เป็นห้วงเวลา และพรรคการเมืองที่เกิดใหม่อาจจะมีข้อด้อยในการรับรู้ของประชาชน พร้อมขอบคุณกับผลโพล ที่มองว่าเพื่อไทย มีโอกาสได้เป็นรัฐบาล แต่ก็บอกว่า ยังวางใจไม่ได้ และต้องทำงานหนักในการเข้าถึงประชาชน



-กระแสข่าว 37 ส.ส. จากพรรคต่างๆ เตรียมย้ายซบพรรคภูมิใจไทย เริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น โดยวันนี้กลุ่ม ส.ส. ของพรรคพลังประชารัฐที่เป็นข่าว จะนัดหารือเพื่อกำหนดท่าทีเรื่องนี้

37 ส.ส. ตามที่ปรากฎเป็นข่าว มีชื่อ ส.ส. พลังประชารัฐมากสุด 14 คน ส่วนใหญ่เป็น ส.ส. โซนภาคกลาง / พรรคเพื่อไทย 10 คน ส่วนใหญ่อยู่ในโซนภาคอีสาน / พรรค ก้าวไกล 5 คน / พรรคเศรษฐกิจไทย 3 คน / ประชาธิปัตย์ กับ บรรดาพรรคเล็กพรรค จำนวน 5 คน รวม 37 คน

นายสุชาติ อุสาหะ ส.ส.เพชรบุรี พรรคพลังประชารัฐ หนึ่ง ส.ส.ที่มีชื่อจะย้ายพรรค ยืนยันว่า ตอนนี้ยังไม่ได้ลาออกจากพรรคพลังประชารัฐ แต่พรุ่งนี้จะมีความชัดเจน โดย ส.ส.กลุ่มของตน ประมาณ 8 คน จะมีการหารือกัน เพราะหากต้องไป ก็จะไปกันเป็นกลุ่ม

ขณะที่พรรคเพื่อไทย นายสุทิน คลังแสง แกนนำพรรค บอกว่า พรรคเพื่อไทยทราบมานานแล้ว ถึงรายชื่อดังกล่าว จึงไม่ได้ส่ง ส.ส. กลุ่มนี้ ลงเลือกตั้งครั้งหน้า และมองว่าคนที่ออกไปมีโอกาสที่จะสอบตก เพราะอยู่กับพรรคเพื่อไทยเรียกได้ว่าเป็นของดี แต่เมื่อออกไปอาจกลายเป็นของเสีย

ด้าน นายภราดร ปริศนานันทกุล โฆษกพรรคภูมิใจไทย ยังไม่ยืนยัน ถึงกระแสข่าว 37 ส.ส. ที่จะย้ายมาอยู่พรรคภูมิใจไทย แต่ยอมรับว่าพรรคมีสมาชิกเข้ามาเพิ่ม ซึ่งต้องรอดูวันเปิดตัวที่ทำการพรรค วันที่ 16 ธ.ค.นี้

โดย ส.ส.ภราดร ย้ำว่า เป้าหมายของพรรคตอนนี้คือการเป็นพรรคขนาดใหญ่ พร้อมเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และนายอนุทิน ชาญวีรกูล ก็พร้อมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี ด้วย

กระแส ส.ส. ย้ายซบพรรคภูมิใจไทย ยังมีความเห็นจากนักวิชาการด้านพรรคการเมือง อย่าง ดร.สิริพรรณ นกสวน สวัสดี อาจารย์ คณะรัฐศาสตร์จุฬาฯ บอกว่า ส่วนตัวยังไม่เชื่อว่าจะมี ส.ส.ย้ายไปถึง 40 คน ตามที่เป็นข่าว เพราะยังมีปัจจัยของพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่หากมีการเปิดตัวพลเอกประยุทธ์ ชัดเจน ส.ส. ที่จะไปพรรคภูมิใจไทยอาจลดลง

อย่างไรก็ตามเหตุผลส่วนหนึ่งที่ ส.ส. ย้ายไปพรรคภูมิใจไทย เป็นเพราะ พรรคภูมิใจไทยมีทรัพยากร ในการดูแล ส.ส. อย่างดี ที่สำคัญ พรรคภูมิใจไทย มีโอกาสเป็นรัฐบาลสูง เพราะมีความยืดยุ่นจะร่วมรัฐบาลกับพรรคไหนก็ได้ ในการเลือกตั้งครั้งหน้า



-ขณะที่ความเคลื่อนไหวของพรรคพลังประชารัฐ ในวันนี้ จะมีการเปิดตัวสมาชิกพรรคเพิ่มเติม อีก 2 คน คือ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตรองหัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย และนายอันวาร์ สาและ อดีตส.ส.ปัตตานี พรรคประชาธิปัตย์

ตามกำหนดการ จะมีการเปิดตัวในเวลา 15.00น. มีบรรดากรรมการบริหารพรรคมาต้อนรับ ซึ่งนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ก่อนหน้านี้ได้ลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ และมาร่วมงานกับพรรคสร้างอนาคตไทย ดำรงตำแหน่งรองหัวหน้าพรรค ได้เกือบปี ก่อนตัดสินใจ ลาออก มาร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ เพื่อรับผิดชอบดูแลพื้นที่ภาคใต้

เช่นเดียวกับ นายอันวาร์ สาและ อดีตส.ส.ปัตตานี พรรคประชาธิปัตย์ เพิ่งประกาศลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์เมื่อเดือนที่แล้ว หลังจากช่วงที่ผ่านมา มีบทบาทสวนมติพรรคหลายครั้ง

ส.ส.รงค์ บุญสวยขวัญ กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ บอกว่า ทั้ง 2 ท่าน ถือเป็นนักการเมืองที่มีประสบการณ์ เชื่อว่าจะเป็นอาวุธทางการเมือง ที่จะทำให้พรรค ซึ่งมีความเข้มแข็งในพื้นที่ภาคใต้อยู่แล้ว จะยิ่งเพิ่มศักยภาพในการสร้างความนิยมของประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ มากขึ้น

สำหรับพรรคพลังประชารัฐ ยังมีรายงานด้วยว่า ส.ส.กทม. ของพรรค ทั้ง 12 คน มีความชัดเจนจะไม่ไปต่อกับพรรคพลังประชารัฐแล้ว ส่วนใหญ่จะไปอยู่ พรรครวมไทยสร้างชาติ กับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และไปอยู่พรรคภูมิใจไทย ขณะที่บางส่วนไปพรรคเพื่อไทย และพรรคประชาธิปัตย์

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค วางตัวให้นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค ทำหน้าเป็นผู้คุมสนามเลือกตั้ง ส.ส.กทม. ขณะนี้อยู่ระหว่างร่างนโยบาย รวมถึงคัดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.ด้วย

คุณอาจสนใจ

Related News