สังคม

สาวกู้ภัยเสียชีวิตพร้อมลูกในท้อง สามีคาใจตั้งข้อสงสัยมาตรฐานการรักษาของแพทย์

โดย nattakarn_l

12 ธ.ค. 2565

1.6K views

             สามีของอาสาสมัครกู้ภัยหญิงที่ตั้งครรภ์แก่ 8 เดือนเศษ คาใจที่ภรรยากับลูกในท้องเสียชีวิตหลังพบแพทย์ไม่ถึงสัปดาห์  ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับการวินิจฉัยโรคของแพทย์              

             บรรยากาศที่ศาลาศรัทธาราษฎร์อนุกูล วัดลาดหญ้าแพรก อำเภอเมืองนครปฐม  วันนี้ (12 ธ.ค.) เป็นการตั้งสวดพระอภิธรรมศพ นางสาวฐิติยา   หรือ มะนาว อายุ 30 ปี และทารกอายุ 8 เดือนเศษ ลูกในท้อง  ซึ่งทั้งคู่เสียชีวิตเมื่อวันที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมา ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในอำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี

            นายอดิศักดิ์ หรือ จิม อายุ 28 ปี สามี  เปิดเผยว่า ภรรยาฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลแห่งนี้  ตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์จนอายุครรภ์ 8 เดือน   กระทั่งวันที่ 2 ธ.ค. น.ส.ฐิติยา ไปหาหมออีกครั้ง เพราะมีอาการตาบวม ขาบวม   หมอบอกว่า เส้นประสาทตาอักเสบ จึงจ่ายยาแก้อักเสบมาให้กิน จากนั่น 2-3 วัน  น.ส.ฐิติยา มีอาการปากเบี้ยว เท้าบวม และ อาการไม่ดีขึ้น   จึงรอไปพบหมอทีเดียวตามรอบนัดตรวจครรภ์ วันที่ 9 ธ.ค. โดยสามีไปด้วย ปรากฎว่า ระหว่างรอพบหมออยู่หน้าห้องตรวจ น.ส.ฐิติยา เดินไปเข้าห้องน้ำและเป็นลมในห้องน้ำของโรงพยาบาล  ผ่านไประมาณ 5-10 นาที มีคนไปเจอจึงรีบตามคนมาช่วย

            หมอจึงพาเข้าห้องแอทมิดและพบว่าเด็กเสียชีวิตแล้ว หมอจึงให้กินยาเหน็บเพื่อให้คลอดเด็กออกมา จนประมาณ 14:00 น. เด็กยังไม่คลอด  หมอจึงตัดสินใจผ่าคลอดนำร่างเด็กออกมา  ส่วน น.ส.ฐิติยา  หมอแจ้งกับญาติว่า พ้นขีดอันตรายแล้ว ญาติๆจึงพากันกลับบ้าน  แต่ผ่านไปประมาณ 3 ชั่วโมง หมอโทรศัพท์มาแจ้งว่า น.ส.ฐิติยา อาการโคม่าอีกรอบ ต้องทำ CPR และเข้าอุโมงค์ CT Scan ก่อนจะเสียชีวิต ซึ่งทางโรงพยาบาลและทีมแพทย์แจ้งกับญาติว่า สาเหตุการเสียชีวิตมาจากระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลว และอาจมีภาวะของโรคหัวใจซึ่งไม่สามารถตั้งครรภ์ได้

           ทางสามีและญาติๆของผู้เสียชีวิตจึงตั้งคำถามว่า ถ้ามีภาวะของโรคหัวใจและไม่สามารถตั้งครรภ์ได้  ทำไมไม่แจ้งตั้งแต่ที่ไปฝากครรภ์ในตอนแรก  ส่วนเหตุการณ์ ตั้งแต่วันที่ 2 ธันวาคม  ที่ไปหาหมอจากภาวะตาบวมเท้าบวม  ทำไมหมอไม่ให้แอดมิดและดูอาการ   จนผ่านมาถึงวันที่ 9 ธันวาคม  ภรรยาเป็นลมและความดันตก ทำไมหมอไม่ตัดสินใจผ่าคลอด   ยังมีโอกาสที่จะรอดทั้งคู่ หรือ คนใดคนหนึ่ง แต่นี่เท่ากับว่าครอบครัวต้องเสียทั้งสองชีวิต และสิ่งที่มุ่งหวังตั้งใจไว้ต้องพังทลาย

             สำหรับนางสาวฐิติยา เป็นอาสามูลนิธิกู้ภัยแห่งหนึ่งในจังหวัดราชบุรี  ผ่านมาทำงานเป็นจิตอาสามานานกว่า 5 ปี ช่วยเหลือทั้งคนเจ็บและคนตาย ญาติๆไม่คิดว่าจะมาเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นกับครอบครัว  หลังเกิดเหตุทางโรงพยาบาลส่งมาเพียงพวงหรีด 1 พวง และยังไม่ติดต่อมาอีก โดยทางครอบครัวอยากเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับสองชีวิตที่เสียไปและที่สำคัญอยากให้ทางโรงพยาบาลมีมาตรฐานมากกว่านี้ จะได้ไม่เกิดเหตุซ้ำอีก

คุณอาจสนใจ

Related News