ตั้งกรรมสอบปมตร.ไล่กวดจับ นักเรียนปวช.ชนป้ายริมทางดับ

กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสตข้อความว่า "คุณทำเกินไปไหม ทั้งฟาดทั้งถีบรถน้องผม เพียงแค่ต้องเงินค่าปรับแค่ไม่กี่บาท คุณร้อนเงินขนาดนั้นเลยเหรอ หรือคุณแค่ต้องการเอาผลงานในการจับรถเด็กนักเรียน คุณมีคุณธรรม มีสำนึกความเป็นคนไหม"

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นในวันที่ 1 ธ.ค. 65 ที่ผ่านมา ทราบว่า นายกฤตเมธ (สงวนนามสกุล) อายุ 16 ปี นักศึกษา ปวช. ชั้นปีที่ 1 วิทยาลัยแผนกช่างยนต์ จ.เพชรบูรณ์ ได้ประสบอุบัติเหตุ ขี่รถจักรยานยนต์ ชนเสาป้ายริมทางจนได้รับบาดเจ็บสาหัส มีอาการปอดฉีกทั้ง 2 ข้าง เลือดคั่งในสมอง และเสียชีวิตในเวลาต่อมา หลังขี่รถหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สายตรวจ สภ.เมืองเพชรบูรณ์ ที่ขี่รถตามประกบ ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขี่ชนเสาไฟฟ้าส่องสว่างริมทาง

ล่าสุดวันที่ 2 ธ.ค. 65 นางเนตรชนก อายุ 42 ปี และนายประหลัด อายุ 43 ปี พ่อแม่ผู้เสียชีวิต พร้อมทั้งญาติ และเพื่อน ๆ ผู้ตาย เดินทางมาที่ สำนักงานเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ เพื่อมาทำใบมรณะบัตร ก่อนจะเดินทางมาที่ สภ.เมืองเพชรบูรณ์ เพื่อมาพบพนักงานสอบสวน เจ้าของคดี ขอเอกสารตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิด

โดยกล้องวงจรปิด บริเวณไฟแดงหน้ามาหาวิทยาลัยราชภัฎเพชรบูรณ์ พบว่าทั้ง 2 ได้ขี่รถตีคู่กันมาด้วยความเร็ว ก่อนจะมาประสบอุบัติเหตุ ที่ถนนช่วงคอขวด บนทางหลวงมายเลข 21 สายสระบุรี-หล่มสัก ในพื้นที่หมู่ 10 บ้านปากปู่ ต.สะเดียง อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ ส่วนผลทางด้านคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจ ยืนยันว่าจะทำอย่างตรงไปตรงมา ส่วนใครถูกใครผิด หลักฐานยังไม่ถูกระบุชี้ชัด

ส่วนร่างของนายกฤตเมธ ผู้เสียชีวิต คืนนี้ยังคงตั้งสวดพระอภิธรรมทางศาสนา เป็นคืนที่ 2 ที่บ้านในพื้นที่ ต.บ้านติ้ว อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ และจะมีพิธีฌาปนกิจศพ ในวันที่ที่ 3 ธ.ค. 65

นายอภิเดช อายุ 22 ปี รุ่นพี่สนิทกัน เล่าให้ฟังว่า ในวันเกิดเหตุน้องก็มานั่งเล่น กินข้าวกันตามปกติ ยืนยันไม่มีการดื่มเหล้า พวกตนไม่ดื่มกัน และผลตรวจแอลกอฮอล์ในร่างกายก็ไม่เจอ

พ.ต.อ.รณฤทธิ์ สุธาพจน์ ผกก.สภ.เมืองเพชรบูรณ์ กล่าวว่า ได้รับรายงานตั้งแต่วันแรกที่เกิดเหตุ ได้รับบาดเจ็บทั้งสองฝ่าย จึงเร่งนำส่งโรงพยาบาล เพราะยังไม่สามารถให้การได้ทั้งคู่ ส่วนเรื่องของคดีเบื้องต้นมอบให้ร้อยเวรไปพิสูจน์ทราบการจัดทำแผนที่เกิดเหตุ แล้วให้พิสูจน์หลักฐานตรวจที่เกิดเหตุ

"การช่วยเหลือเบื้องต้น ผู้บังคับบัญชาสั่งการว่า ให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง ว่าการไปขี่รถไล่จับเยาวชน เป็นการกระทำตามหน้าที่หรือเกินกว่าเหตุ จะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ตำรวจจึงได้นำพวงหรีดไปเคารพศพ และมีการมอบเงินช่วยเหลือให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตจำนวนหนึ่ง" ผกก.สภ.เมืองเพชรบูรณ์

พ่อแม่ผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า มีลูก 2 คน เป็นผู้ชายทั้งคู่ คนเสียชีวิตเป็นคนโต กำลังเรียนอยู่ ปวช.ปี 1 มาทราบข่าวตอนเพื่อนลูกชายโทรมาแจ้งว่าเกิดอุบัติเหตุ ส่วนสาเหตุยังไม่ได้คุยรายละเอียด วันนี้หลังทราบว่าคู่กรณีเป็นตำรวจ เขาก็ได้เข้ามาแสดงความเสียใจ แต่ยังไม่ได้คุยอะไรกันมาก รอให้เสร็จสิ้นงานศพเสียก่อน เพราะต้องรอดูหลักฐานจากกล้องวงจรปิด

อย่างไรก็ตาม ตนยอมรับว่าติดใจสาเหตุ แต่ก็ยังทำอะไรไม่ได้ และทำใจไม่ได้ แพทย์ถามว่า "คุณแม่จะเอายังไงต่อ" ตนรู้สึกสงสารลูกมาก ๆ จึงเซ็นเอกสารว่า ถ้าหัวใจหยุดเต้นรอบ 3 ก็ยอมปล่อยให้ลูกไป เพราะลูกไม่ไหวจริง ๆ