ไรเดอร์อำมหิตสารภาพ ค้อนทุบหัวสาวสอง โยนทิ้งคลองทั้งเป็น อ้างก่อเหตุเพราะเงินขัดข้อง

อำมหิต ไรเดอร์หนุ่มสารภาพใช้ค้อนทุบหัวสาวสอง ก่อนโยนลงคลองขณะที่ยังมีลมหายใจ เผยก่อเหตุเพราะเงินขัดข้อง


จากกรณีมีผู้พบศพผู้เสียชีวิตเป็นสาวประเภทสองที่มีการเสริมหน้าอก และแปลงเพศมาแล้ว ลอยเสียชีวิตภายในคลองส่งน้ำที่ 2 หมู่ 1 อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี โดยสวมเสื้อเกาะอกสีน้ำตาล ซึ่งร่นลงมาอยู่บริเวณหน้าท้อง สวมกางเกงยีนส์ขายาว ไม่สวมรองเท้า ลักษณะลอยคว่ำหน้า จากการตรวจสอบมีบาดแผลถูกทำร้ายที่ศีรษะ ด้วยของแข็งไม่มีคม ที่ข้อมือซ้ายสวมกำไรสีทอง-ดำ ใส่แหวนเพชรที่นิ้วชี้ข้างซ้าย ที่สะดือเจาะใส่จิวเพชร และพบพวงกุญแจรถมาสด้า และพวงกุญแจหลุดยส์วิตตอง ซึ่งทราบชื่อต่อมา คือ นายปิยะดา สรกุล อายุ 29 ปี


ต่อมาเจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมตัว นายยุทธพล ปิยวิทยาการ หรืออาร์ท อายุ 36 ปี ผู้ก่อเหตุ ได้ที่บางแสน ชลบุรี ขณะพาภรรยาไปเที่ยว จากนั้นคุมตัวมาถึงที่ สภ.คลองหลวง ปทุมธานี โดยระหว่างอยู่บนรถเจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำเบื้องต้น เจ้าตัวรับสารภาพว่าก่อเหตุจริง วันเกิดเหตุได้ขับรถเก๋งฮอนด้าของแม่ ผ่านจุดที่น้องกอหญ้า ยืนอยู่บริเวณสวนลุมพินี ก่อนจะพาน้องกอหญ้าขึ้นรถ ระหว่างทางมีปากเสียงกัน จึงใช้ค้อนทุบ แล้วจึงขับรถนำร่างมาโยนทิ้งที่คลอง


เมื่อมาถึง สภ.คลองหลวง ได้มีญาติผู้ตายมารอดูโฉมหน้าฆาตกร ก็เกิดเหตุเข้ารุมประชาทัณฑ์ผู้ต้องหาทันที ตั้งแต่ด้านหน้าประตูทางเข้า จนถึงชั้น 3 ของโรงพัก พร้อมกับตะโกนด่าทอผู้ต้องหาด้วยความโกรธแค้น และถามว่า "ก่อเหตุแบบนี้ทำไม" ท่ามกลางตำรวจทั้งโรงพักที่ต้องรีบเข้ามาควบคุมสถานการณ์


จากนั้นคุมตัวนายอาร์ท เข้าไปในห้องประชุม เจ้าตัวเปิดเผยเพียงสั้น ๆ ว่า "ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป" ตนไม่ได้อยากทำแบบนี้ ยอมรับว่ากลัวมาก กลัวว่าผู้เสียชีวิตจะไปแจ้งตำรวจ พร้อมอยากขอโทษสังคม ขอไปชดใช้กรรมต่อ ส่วนเหตุผลที่ก่อเหตุ เพราะทำงานแล้วเงินขัดข้อง


นอกจากนั้น ตำรวจยังได้นำตัวนายอาร์ท ไปยังบ้านพักย่านสายไหม เพื่อหาขอกลางที่ใช้ก่อเหตุมาตรวจสอบ พบทั้งค้อนที่ใช้ทุบ มีดสั้นที่ใช้จี้ชิงทรัพย์ เสื้อผ้าที่ใส่ในวันเกิดเหตุ และรถมอเตอร์ไซค์นำมาที่โรงพักด้วย


ขณะที่อาสาสมัครกู้ภัยจากมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และตำรวจ มาที่จุดที่ผู้ต้องหาอ้างว่าทิ้งศพ ได้งมหาหลักฐานในคดีเพิ่มเติม คือ ดัมเบล และโซ่ ที่ผู้ต้องหาผูกกับศพ ก่อนผลักทิ้งลงคลอง และมีโทรศัพท์ของผู้ตาย และสร้อยคอที่ทิ้งลงคลอง หลังจากที่งมหาประมาณ 5 นาที ก็พบของกลางทั้งหมด


พลตำรวจตรีพีระพงศ์ วงษ์สมาน รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ระบุว่า ผู้ก่อเหตุให้การว่าวันที่ 22 พฤศจิกายน ได้เดินทางมาที่สวนลุมพินี แล้วใช้บริการผู้เสียชีวิตจนสำเร็จความใคร่แล้ว 1 ครั้ง และแยกย้าย แล้วกลับมาอีกรอบเพื่อล็อคผู้เสียชีวิตขึ้นรถมา จากนั้นค้นตัวหวังเอาทรัพย์สิน โดยใช้มีดจี้คอ แต่ค้นแล้วไม่เจอทรัพย์สิน


เลยบังคับให้ผู้เสียชีวิตโอนเงินเข้าบัญชีผู้ก่อเหตุ จำนวน 1,400 บาท ซึ่งหมดทั้งบัญชีที่ผู้เสียชีวิตมี (เงินส่วนตัวน้องกอหญ้า 400 อีก 1,000 ของผู้ต้องหาที่โอนให้) และเมื่อผู้เสียชีวิตพยายามที่จะดิ้นรนต่อสู้ ผู้ก่อเหตุจึงใช้ค้อน ฝั่งที่ใช้ถอนตะปูที่มี 2 ง่ามทุบเข้าไปที่หัว จนเลือดกระเด็นเต็มทั้งเบาะและประตูรถ ก่อนที่จะนำร่างของผู้ตาย คาดว่ายังไม่หมดลมหายใจไปทิ้งบริเวณคลองสอง โดยใช้ดัมเบลกับโซ่รัดถ่วงน้ำหนักที่คอผู้ตาย


ส่วนเหตุผลที่นำมาทิ้งคลองส่งน้ำ เพราะผู้ก่อเหตุขับไรเดอร์อยู่ย่านนี้ ก็เลยต้องการหาจุดที่ทิ้งศพให้ปลอดภัย หลังจากนั้นได้ทำความสะอาดรถแล้วไปจอดที่บ้านพักย่านสายไหม ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วได้ชวนภรรยาขึ้นรถมอเตอร์ไซค์ไปที่บางแสน


เบื้องต้นแจ้งข้อหา คือ ชิงทรัพย์ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และซ่อนเร้นอำพรางศพ ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ตรวจยึดอุปกรณ์ที่ใช้ในการก่อเหตุ ทั้งค้อน มีด เสื้อผ้า และเงินสดของผู้ต้องหามาเป็นของกลางด้วย


ทีมข่าวได้ข้อมูลที่น่าสนใจ จากหนึ่งในเพื่อนของผู้ตาย ซึ่งเป็นสาวข้ามเพศ ให้ข้อมูลว่า คนร้ายเคยมาซื้อบริการเพื่อนของผู้ตายที่เป็นสาวข้ามเพศ เมื่อคืนวันที่ 20 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยให้ตนช่วยสำเร็จความใคร่ให้ ในรถของคนร้าย และให้เงินมา 1,000 บาท


และในคืนเกิดเหตุ ผู้ตายดันขับรถมาจอดใกล้กับรถของคนร้ายพอดี ทำให้คนร้ายเห็นว่า ผู้ตายน่าจะมีทรัพย์สิน คนร้ายจึงมาวนรถ เพื่อตามหาผู้ตายอีกครั้ง ก่อนเจอตัวแล้วลงมือก่อเหตุ