พนักงานขับรถบรรทุกน้ำมัน ลอบขนยาเสพติดเข้าไทย มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท อ้างต้องการหาเงินรักษาเมียป่วย

             เจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรหนองคาย พร้อมด้วย นายอำเภอ, ตำรวจ สภ.เมืองหนองคาย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  แถลงข่าวจับกุมนายประสิทธิ์ อายุ 53 ปี  พร้อมของกลางยาบ้า  3,860,000 เม็ด, ยาอีเม็ดสีม่วงรูปหมี 5,000 เม็ด, ไอซ์ 10 ก.ก. มูลค่ารวมประมาณ 100 ล้านบาท  โดยยาเสพติดทั้งหมดซุกซ่อนอยู่ในถังน้ำมันรถบรรทุกน้ำมันของบริษัทแห่งหนึ่ง  

            สืบเนื่องจาก เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายภาคิน เทียบคำ  หัวหน้าด่านพรมแดนหนองคาย  นำเจ้าหน้าที่ศุลกากร ตรวจสอบรถที่เดินทางเข้า-ออก  บริเวณด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่ 1 ตามปกติ  แล้วพบนายประสิทธิ์ ผู้ต้องหา ขับรถบรรทุกน้ำมันกลับเข้าประเทศ  เจ้าหน้าที่จึงขอตรวจสอบ  โดยใช้รถเอ็กซเรย์  พบความผิดปกติบริเวณถังน้ำมัน  เมื่อตรวจสอบอย่างละเอียด พบว่ามีวัตถุต้องสงสัยว่าจะเป็นยาเสพติดซุกซ่อนอยู่  เมื่อนำออกมาจากถังน้ำมั นก็พบว่าเป็นยาบ้า ยาอี และยาไอซ์  

            นายประสิทธิ์  รับสารภาพว่า  ขับรถบรรทุกน้ำมันไปส่งให้กับบริษัทที่ สปป.ลาวมานานกว่า 20 ปี  ไม่เคยเสพยาเสพติดมาก่อน  ครั้งนี้ก็ขับรถนำน้ำมันไปส่งตามปกติ   แต่ตอนจะเดินทางกลับ มีคนลาวไม่ทราบชื่อติดต่อมาว่า  ให้จอดรถตามป่าข้างทางก่อน  จากนั้นมีชาย 3 คน ขนยาเสพติดมาขึ้นรถ  โดยบอกให้ตนนำยาเสพติดไปส่งที่เขาหินซ้อน จ.ปราจีนบุรี  โดยให้เงินค่าจ้างมาก่อน  50,000 บาท  ส่วนจุดส่งยา จะแจ้งให้ทราบภายหลัง   แต่ตนถูกจับได้เสียก่อนขณะขับรถเข้าด่าน  ส่วนสาเหตุที่ต้องรับจ้างขนยาบ้า เพราะต้องการหาเงินมารักษาภรรยาที่กำลังป่วยหลายโรครุมเร้า  อีกทั้งเมื่อ 6 ปีก่อน เคยรับจ้างขนกัญชาเข้ามาในประเทศครั้งละประมาณ 300-400 กิโลกรัม  ได้ค่าจ้างประมาณ 30,000 บาท และทำมาหลายครั้งแล้ว

          เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ส่งตัวดำเนินคดีและขยายผลต่อไป