เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 22 พ.ย.65 สะพัด บิ๊กตู่ลาบิ๊กป้อม-BTSปล่อยคลิปทวงหนี้-ทีวีดิจิทัลขอถ่ายบอลโลกคู่ขนาน

-ทีวีดิจิทัล ยื่น กสทช.ขอถ่ายทอดสดบอลโลกคู่ขนานกับทรูโฟร์ยู ย้ำต้องทั่วถึง เท่าเทียม คุ้มค่ากับเงินกองทุน 600 ล้านที่ กทปส.จ่ายไป ด้าน กสทช. เตรียมนำเรื่องพิจารณาวันนี้ รับปากให้ความเป็นธรรม ส่วนกรณี ทรูได้สิทธิถ่ายทอดสดมากกว่าทีวีดิจิทัลนั้น ต้องรอคุยกับ กกท.

ทั้งนี้ ตัวแทน กสทช. ระบุ ยังไม่ทราบเรื่อง กรณีข้อตกลงมอบสิทธิและประโยชน์ต่างๆ ให้แก่กลุ่มทรู รวมถึงการให้สิทธิทรู แต่เพียงผู้เดียวในการถ่ายทอดการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย เพราะยังไม่เห็นหนังสือดังกล่าว

-บีทีเอสไม่ทน ปล่อยคลิปทวงหนี้ 4 หมื่นล้าน ว่อนโซเชียล ลั่น คนเราจะอดทนกับการแบกหนี้ได้นานแค่ไหน ด้านผู้ว่าฯ ชัชชาติ เร่งเคลียร์ปมหนี้ เตรียมทำหนังสือเข้าสภา กทม ระบุหนี้ที่จ่ายต้องผ่านกระบวนการถูกต้องตามกฎหมายเนื่องจากเป็นภาระผูกพัน

-ตร.ล้อมจับ ไอ้แม๊คมือปืนฆ่าเมียเสียชีวิต กับกิ๊กสาว ขณะหนีซ่อนตัวในรีสอร์ทที่กระบี่ เจ้าตัวไม่ตกใจ ยังเปิดดูข่าวตัวเองในทีวี  ด้านตำรวจคุมตัวสอบ สารภาพไม่ได้ตั้งใจยิง ระบุเสียใจมากอยากขอขมาศพ ขอโทษครอบครัวและลูก ที่ทำผิดพลาดไป ขณะที่ญาติผู้ตายไม่ให้อภัย ประกาศเสียงแข็งไม่ต้องมาขอขมา แจ้ง 2 ข้อหา ประมาททำให้ผู้อื่นเสียชีวิต และมีอาวุธปืนในครอบครอง

-ศาลไม่ให้ประกันตัว แก๊งอุ้มเด็กช่างกลย่านรามคำแหงก่อนรุมทำร้าย หลังนายอี ลูกเจ้าของบ้านเรือนไทย พลอยแฟนสาวและพวก เข้ามอบตัว เล่าหนังคนละม้วน ปฏิเสธไม่ได้ใช้ปืนข่มขู่ –รุมซ้อม-เผาขนเพชร-บังคับอมนกเขา พร้อมนำคลิปผู้เสียหายชกกันเองสาหัส มอบเป็นหลักฐาน

-แลกคนละหมัด ชูวิทย์-สันธนะ เดินหน้าฟ้องกันรัว ปมอาบอบนวด-ทุนจีน ช่วงเช้า สันธนะ พบจเรตำรวจ ถาม ปมขายธุรกิจอาบอบนวด 4,000 ล้าน โดยไม่เสียภาษี ฝากบอกชูวิทย์แจงต่อสังคมแบบทันทีเหมือนเวลาที่แฉคนอื่น ก่อนยั่วให้อยู่รอด้วย

ด้านชูวิทย์ พบ DSI ยื่นข้อมูลธุรกิจทุนจีนสีเทา พบอดีตนักการเมืองและผู้มีอิทธิพลเอี่ยว เจ้าตัวงง เดินหน้าแฉนายตู้ห่าว แต่ตำรวจยังไม่ออกหมายจับ ลั่นไม่กลัวสันธะยินดีให้สอบ แต่ไม่รอระบุหากเจออาจมีตบกบาล



เรื่องเล่าการเมือง

-การเมืองหลังประชุมเอเปคร้อนขึ้นมาจริง ๆ เมื่อวานนายกฯย่องไปลงพื้นที่ที่บางกะปิ โดยไม่ได้แจ้งกำหนดการล่วงหน้า โดยมี ส.ส.พรรคพลังประชารัฐในพื้นที่ให้การต้อนรับ ท่ามกลางการตั้งข้อสังเกตเป็นการไปจีบ ส.ส.ให้ย้ายพรรคหรือไม่

ช่วงบ่ายเมื่อวาน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาล ไปลงพื้นที่สนามกีฬาเคหะคลองจั่น เขตบางกะปิ เป็นการส่วนตัว โดยไม่มีการแจ้งวาระงานใดๆ ซึ่งเขตบางกะปิ เป็นพื้นที่ของ นางสาวฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันท์ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ โดย ส.ส.ฐิติภัสร์ ได้มาต้อนรับและร่วมลงพื้นที่กับนายกฯด้วย

นายกฯ กล่าวกับประชาชนระหว่างการลงพื้นที่ว่า อดีต ปัจจุบัน อนาคตจะมีความต่อเนื่องเชื่อมโยงกัน วันนี้อยู่ตรงกลางคือปัจจุบัน ตอนนี้ทำปัจจุบันให้ทุกคนมีความสุข อนาคตคือการลงทุนต่างๆ เพื่อรองรับการเจริญเติบโตของบ้านเมือง โดยท่านได้เน้นย้ำไปถึงประโยชน์ที่ประเทศได้รับจากเวทีประชุมเอเปคที่เพิ่งผ่านไปด้วย

นางสาวฐิติภัสร์ เปิดเผยว่าการลงพื้นที่ของนายกฯ ไม่ได้มีการแจ้งมาล่วงหน้า แต่นางสาวฐิติภัสร์ได้ประชุมกับชาวบ้านในพื้นที่การเคหะฯอยู่แล้ว เมื่อทราบว่านายกฯมาลงพื้นที่ จึงออกไปต้อนรับ ซึ่งนายกฯใช้เวลาประมาณอยู่ในพื้นที่ประมาณ 45 นาที

ทั้งนี้ ในช่วงนี้มีกระแสข่าวว่า ส.ส. กทม.ของพรรคพลังประชารัฐส่วนหนึ่ง ซึ่งครั้งที่แล้วได้รับเลือกตั้งมาด้วยกระแสความนิยมในตัว พล.อ.ประยุทธ์ อาจจะย้ายไปอยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ หาก พล.อ.ประยุทธ์ ย้ายไปอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ

อย่างไรก็ตาม นางสาวฐิติภัสร์ ยืนยันว่า นายกฯไม่ได้พูดคุยเรื่องการเมือง หรือทาบทามไปอยู่พรรคร่วมไทยสร้างชาติ /สำหรับตัวเอง ตอนนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจอนาคตทางการเมืองว่าจะอยู่พรรคพลังประชารัฐ หรือ ไปอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ

ทั้งนี้การลงพื้นที่บางกะปิของ พล.อ.ประยุทธ์ เมื่อวาน ถือเป็นการลงพื้นที่กรุงเทพมหานครเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ท่านกลับมาปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีอีกครั้งหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่ายังเป็นนายกฯไม่ครบ 8 ปี



-ส่วน พล.อ.ประวิตร เมื่อวานก็กลับมาเดินสายลงพื้นที่ตามที่กำหนดไว้ว่าจะลงพื้นที่ทุกวันจันทร์อีกแล้ว เมื่อวานท่านไปที่ จ.กำแพงเพชร

ช่วงเช้า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ได้ไปรับฟังสถานการณ์ด้านการป้องกันและแก้ปัญหายาเสพติด และการจัดการที่ดินทำกินตามนโยบายของรัฐบาล ณ โรงเรียนปางศิลาทองศึกษา มีผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร และ หัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ให้การต้อนรับ

ช่วงหนึ่งท่านก็ได้เดินทักทายกับพี่น้องชนเผ่าที่มาต้อนรับอย่างอารมณ์ดี และในช่วงบ่าย พล.อ.ประวิตร ไปติดตามเรื่องการบริหารจัดการน้ำ ณ ฝายชั่วคราวกั้นแม่น้ำปิง หนองวัวดำ ต.โกสัมพี อ.โกสัมพีนคร และโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษา ที่ อ.เมือง กำแพงเพชร

มีประชาชนที่มาให้การต้อนรับอย่างคึกคัก นอกจากป้ายยินดีต้อนรับลุงป้อม ก็ยังมีป้าย ขอบคุณลุงป้อมที่ทำให้คนไทยได้ดูบอลโลกด้วย

พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวขอบคุณผู้ที่มาต้อนรับ และขอบคุณเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นทุกคน โดยย้ำว่า "ข้าราชการจะต้องทำหน้าที่ประหนึ่ง เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของประชาชน"

ด้าน นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่เพิ่งได้รับแต่งตั้งจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ให้เป็นประธานคณะกรรมการนโยบายพรรคพลังประชารัฐ เพื่อเตรียมจัดทำนโยบายของพรรคสำหรับการหาเสียงครั้งหน้า ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ ว่า

ส่วนตัวเห็นว่า พล.อ.ประวิตร เหมาะสมที่สุดที่จะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ ส่วนควรจะมีชื่อคนอื่นเป็นแคนดิเดตด้วยหรือไม่ ไม่ทราบ



-มีรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้แจ้งกับ พล.อ.ประวิตร เรียบร้อยแล้วว่าจะไปอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ และมีการเช็คชื่อ ส.ส.ที่จะไปด้วย ล่าสุด ระบุว่ามี 72 คนแล้ว

มีรายงานข่าวว่า เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (20 พ.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เข้าพบ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ และได้มีการเปิดใจและพูดคุยถึงทิศทางการเมืองในอนาคต และ พล.อ.ประยุทธ์ ได้มาลา เพื่อไปทำงานการเมืองกับพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.) โดยจะมีการเปิดแถลงข่าวในช่วงเวลาที่เหมาะสมอีกครั้ง

ซึ่งภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์ ได้เดินทางกลับจากมูลนิธิป่ารอยต่อฯ พล.อ.ประวิตร ได้โทรศัพท์เช็คแกนนำพรรคพลังประชารัฐในแต่ละกลุ่มว่าหากเกิดการเปลี่ยนแปลงในพรรคพลังประชารัฐแล้ว จะยังอยู่กับพรรคพลังประชารัฐต่อหรือไม่

ขณะที่ในช่วงเย็นวันเดียวกัน นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีแรงงาน ผู้อำนวยการพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งจะย้ายตามพล.อ.ประยุทธ์ ไปพรรครวมไทยสร้างชาติด้วย ก็ได้มีการเช็คชื่อ ส.ส.ในกลุ่ม ที่จะย้ายไปด้วย ล่าสุดพบว่ามี ส.ส. 12 คน เช่น

น.ส.ไพลิน เทียนสุวรรณ ส.ส.สมุทรปราการ

นายสมพงษ์ โสภณ ส.ส.ระยอง

นายธรรมวิชญ์ โพธิพิพิธ ส.ส.กาญจนบุรี

นายอัฏฐพล โพธิพิพิธ ส.ส.กาญจนบุรี

นายสาทิตย์ อุ๋ยตระกูล ส.ส.เพชรบุรี

นายรณเทพ อนุวัฒน์ ส.ส.ชลบุรี

นอกจากนี้ มีรายงานว่า ล่าสุดมีการรวมรายชื่อ ส.ส. ทั้งจากพรรคพลังประชารัฐ และพรรคประชาธิปัตย์ ที่จะย้ายตามพล.อ.ประยุทธ์ ไปพรรคใหม่ พบว่า ขณะนี้มีทั้งหมด 72 คน



-การเมืองหลังจากนี้เป็นที่จับตาถึงท่าทีหลังเสร็จสิ้นการประชุมเอเปค มีความเห็นจาก อ.ยุทธพร อิสรชัย นักวิชาการรัฐศาสตร์ เชื่อว่าการเมืองหลังจากนี้จะเข้มข้นมาขึ้น โดยเฉพาะตัวของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่จะเดินหน้าต่อทางการเมืองอย่างแน่นอน

อ.ยุทธพร อิสรชัย อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช เชื่อว่าโอกาส ที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเป็นแคนนิเดตนายกรัฐมนตรี ในนามของพรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นไปได้สูง จากท่าทีของพรรคที่ขณะนี้กำลังเปิดประตูต้อนรับ เพราะจะเป็นผลดีกับ พลเอกประยุทธ์ มากกว่าการอยู่ในพรรคพลังประชารัฐ ที่มีความขัดแย้ง

ส่วนประเด็น ที่พรรคการเมือง ต้องมี ส.ส. ถึง 25 ที่นั่งขึ้นไป จึงจะเสนอชื่อแคนนิเดตนายกฯ ได้นั้น อ.ยุทธพร เชื่อว่าไม่มีปัญหา สำหรับพลเอกประยุทธ์ เพราะไม่ว่าจะอยู่พรรคไหน พลเอกประยุทธ์จะเป็นแม่เหล็กดูดฝั่งรัฐบาล รวมถึงจะส.ส.จากพรรคร่วมรัฐบาล ย้ายร่วมงาน จึงเชื่อว่าพลเอกประยุทธ์ จะไปพรรครวมไทยสร้างชาติ และให้พลเอกประวิตร อยู่กับพรรคพลังประชารัฐ ตามยุทธศาสตร์แยกกันเดิน รวมกันตีที่จะเป็นประโยชน์มากกว่า



-กรณีสลายการชุมนุมกลุ่มราษฎรหยุดเอเปค เมื่อวันที่ 18 พ.ย. ที่ผ่านมา และมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก เมื่อวานนี้แกนนำไปร้องต่อกรรมาธิการ ให้ตรวจสอบการใช้กำลังของเจ้าหน้าที่

เมื่อวานนี้ นายอานนท์ นำภา พร้อมตัวแทนกลุ่มราษฎรหยุดเอเปค ไปยื่นเรื่องร้องเรียนต่อ คณะกรรมาธิการ พัฒนาการเมือง ที่อาคารรัฐสภา เพื่อขอให้กรรมาธิการตรวจสอบการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ใช้กำลังเข้าสลายการชุมนุม บริเวณถนนดินสอจนนำมาสู่ความรุนแรงมีผู้ได้รับบาดเจ็บและถูกจับหลายราย

โดยนายบารมี ชัยรัตน์ ตัวแทนกลุ่มผู้ชุมนุมที่ไปยื่นเรื่อง ยืนยันว่าการชุมนุมที่ผ่านมา กลุ่มผู้ชุมนุมทำตามกรอบของกฎหมาย แต่เจ้าหน้าที่กลับใช้กำลังโดยมิชอบ ขัดขวาง และทุบตีผู้ชุมนุม จนมีคนบาดเจ็บสาหัสถึงขั้นเสียดวงตาไป 1 ดวง

ด้านนายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.พรรคก้าวไกล ในฐานะกรรมาธิการที่มารับเรื่อง กล่าวว่า จากการกระทำที่เกิดขึ้น ถือเป็นเรื่องที่เกินกว่าเหตุ ดังนั้นในวันที่ 24 พ.ย. นี้ จะนำเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาของกรรมาธิการ เพื่อเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาชี้แจงต่อไป

และจากปัญหาการชุมนุมที่เกิดขึ้น วันนี้ เวลา 14.00น. กลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน หรือ คปปส. จะไปยื่นหนังสือต่อ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้ตรวจสอบ ผู้ว่าฯชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ด้วย กรณีเปิดพื้นที่ลานคนเมืองให้มีการชุมนุม

ซึ่งผู้ว่าฯชัชชาติ ชี้แจงว่า ยืนยันว่าหารือกับฝ่ายความมั่นคง ในการอนุญาตดังกล่าว ยืนยันว่า ไม่ได้สนับสนุนผู้ชุมนุม หรือฝ่ายใด ฝ่ายหนึ่ง เป็นเพียงการดูแลประชาชน และประคองสถานการณ์ไม่ให้มีผลกระทบกับเอเปค

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/BMnbPlN7v_o