'ม็อบค้านเอเปค' ปะทะตำรวจกลางถนน ช่างภาพโดนลูกหลงสลายการชุมนุม - นักข่าวถูกผลักล้ม

ม็อบราษฎรหยุด APEC2022 ไปไม่ถึงศูนย์ประชุมสิริกิติ์ ปะทะเดือดตำรวจกลางถนนดินสอก่อนสลายการชุมนุม - ขณะที่ช่างภาพข่าวรอยเตอร์ โดนลูกหลง - นักข่าว The Matter ถูกผลักล้มแล้วกระทืบ


วานนี้ (18 พ.ย.65) เวลา 07.00 น. กลุ่มราษฎรหยุด APEC2022 มีการนัดหมายจัดกิจกรรมการชุมนุม โดยใช้ชื่อกิจกรรมว่า ราษฎรหยุดAPEC2022 ที่รวมตัวกันและจะเคลื่อนขวบด้วยการเดินเท้าจากลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) มุ่งหน้าไปยังศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อยื่นหนังสือข้อเรียกถึงผู้นำรัฐบาลของประเทศที่มาร่วมประชุมเอเปค ใน 3 ข้อ คือ

1.ให้พลเอกประยุทธ์ยกเลิกนโยบายBCG รวมถึงระเบียบกฎหมายใดๆ ที่เกี่ยวข้องที่ประชาชนไม่ได้มีส่วนร่วมและกระทบต่อทรัพยากรของคนในชาติ 

2.พลเอกประยุทธ์ ต้องยุติบทบาทในการเป็นประธานการประชุมเอเปค เพราะมองว่า ไม่มีความชอบธรรมที่จะลงนามข้อตกลงร่วมกับผู้นำกลุ่มเอเปค ในเวทีโลก และ 3. พลเอกประยุทธ์ ต้องยุบสภา และจะต้องเปิดทางให้มีการเลือกตั้ง และร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ตอบสนองความต้องการประชาชน รวมถึงผลกระทบจากปัญหาในพื้นที่ ปัญหาสิ่งแวดล้อม

โดยน.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือ มายด์ หนึ่งในแนวร่วมกลุ่มราษฎร บอกว่า กลุ่มผู้ชุมนุมจะเดินเท้าโดยใช้เส้นทาง ถนนบำรุงเมือง / ประปาแม้นศรี / สวนมะลิ / พระราม 1 และราชประสงค์ แต่ปรากฎว่าถูกตำรวจควบคุมฝูงชนปิดถนน จึงต้องเปลี่ยนเส้นทาง มาใช้ถนนดินสอ เพื่อเข้าอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยแทน

 ซึ่งน.ส.ภัสราวลี ได้ยืนยันว่า การไปยื่นขอเสนอนั้นไม่ได้ไปขัดขวางการประชุมหรือไปขับไล่ผู้นำประเทศต่างๆ ที่มาร่วมประชุม และจะพยายามเดินหน้าไปให้ใกล้จุดประชุมเอเปคมากที่สุด

ก่อนที่ในเวลา 08.30 น. กลุ่มผู้ชุมนุม ได้เคลื่อนมาทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ที่บริเวณใต้เสาชิงช้าในการทำกิจกรรม การลงโทษในสมัยอดีต (กิโยติน) จากนั้นเคลื่อนขบวนต่อ แต่ขบวนผู้ชุมนุมก็ต้องหยุดอยู่บนถนนดินสอ ปากทางออกอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เนื่องจากมีกำลังตำรวจควบคุมฝูงชน วางแนวกั้นห้ามผ่าน รวมทั้งตำรวจได้มีการนำรถกระบะของตำรวจมากีดขวางเส้นทาง เพื่อไม่ให้ผู้ชุมนุมเดินไปได้ รวมทั้งกั้นพื้นที่ไม่ให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง รวมทั้งสื่อมวลชนเข้าไป ให้อยู่หลังแนวกั้นตำรวจเพื่อความปลอดภัย

โดยทางตำรวจยืนยันจะไม่ใช้ความรุนแรงหากผู้ชุมนุมปฏิบัติตามกฏหมาย ไม่ก่อความวุ่นวาย ซึ่งผู้ชุมนุมพยายามเจรจาขอตำรวจผ่านแนวกั้น เพื่อไปรวมตัวกันที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ซึ่งห่างไปไม่ถึง 100 เมตร แต่ทางตำรวจไม่อนุญาต จึงทำให้ผู้ชุมนุมบางส่วนไม่พอใจ ทางกลุ่มผู้ชุมนุมจึงได้ใช้เชือกผูกกับรถตำรวจ และใช้กำลังในการจูงลากรถเพื่อเคลื่อนย้ายให้ออกจากเส้นทางที่จะเดิน ทำให้เกิดการชุลมุน และปะทะกันขึ้นระหว่าง 2 ฝ่าย ซึ่งผู้ชุมนุมได้มีการขว้างปาขวดน้ำ ถุงน้ำที่ผสมน้ำหวาน ผสมกาแฟ และปลาร้า ปาไปยังตำรวจควบคุมฝูงชน

ขณะที่ตำรวจควบคุมฝูงชนเองก็ได้มีการใช้กระบอง และใช้กระสุนยางยิงกลับไป เพื่อสกัดไม่ให้ผู้ชุมนุมฝ่าแนวตำรวจไปได้ และจากเหตุการณ์ปะทะในครั้งนี้ มีการคุมตัวผู้ชุมนุมบางคนที่กระทำความผิดไปอีกด้วย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ นางวรวรรณ แซ่อั้ง หรือป้าเป้า ที่ถูกควบคุมตัวขึ้นรถตำรวจออกไปทันที


ต่อมาเวลาประมาณ 10.30 น. ตำรวจได้ประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงว่า การชุมนุม เป็นการกระทำผิดเงื่อนไขตาม พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ และขอให้กลับไปในพื้นที่การชุมนุมที่ลานคนเมืองและขอให้ผู้ชุมนุมยุติการชุมนุม ขณะที่ทางกลุ่มผู้ชุมนุม ยังคงยืนยันว่าจะไปยื่นขอเสนอต่างๆ ถึงผู้นำประเทศทั้ง 21 ประเทศที่มาประชุมเอเปค

 ต่อมาเวลา 12.00 น. ผู้ชุมนุมกลุ่มราษฎรหยุด APEC2022 ได้ทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ ตั้งเตาเผาพริกเผาเกลือ และนำเตาไปตั้งไว้บนรถตำรวจที่จอดขวางเพื่อปิดถนน ทำให้ตำรวจต้องประกาศเตือนผู้ชุมนุมให้หยุดพฤติกรรมดังกล่าว

จากนั้นฉีดสารเคมีดับเพลิงฉีดระงับควันจากเตาถ่าน ส่งผลให้เริ่มนำไปสู่การเผชิญหน้า และผู้ชุมนุมได้ขว้างปาขวดน้ำ ขวดแก้ว ใส่ตำรวจ และตำรวจฝั่งตรงข้ามได้มีการขว้างปากลับมาเพื่อตอบโต้ จากนั้นตำรวจ ได้ใช้ยุทธวิธี นำกำลังเข้าสลายการชุมนุม มีบางช่วงที่ใช้กระสุนยาง

 ขณะที่ผู้ชุมนุมใช้พลุควันตอบโต้กลับเช่นกัน และเกิดเหตุชุลมุน เกิดการปะทะกัน ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งตัวของผู้ชุมนุมที่ได้รับบาดเจ็บที่ดวงตาขวา เลือดอาบ แต่ว่าได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ทราบชื่อต่อมาคือนายพายุ อายุ 28 ปี

 ทั้งนี้ ยังมีช่างภาพข่าวหญิง จากสำนักข่าวรอยเตอร์ ได้รับลูกหลง เศษแก้วกระเด็นเข้าที่ดวงตา ได้รับบาดเจ็บที่เยื่อบุตาขาวข้างขวา เนื่องจากถูกเศษแก้วที่ปามาโดยไม่ทราบฝั่ง / เช่นเดียวกันกับนักข่าวพลเมืองของ The Isaan Record ถูกทำร้ายร่างกายและคือ 1 ในคนที่จับกุมตัว / ขณะเดียวกันกับสำนักข่าว the matter เผยภาพผ่านทวิตเตอร์ จังหวะที่ผู้สื่อข่าว The Matter ถูกทำร้ายร่างกาย

  โดยทางตำรวจได้พุ่งเข้ามาหาผู้สื่อข่าว พร้อมเอาโล่ดัน และถูกกระบองฟาด พร้อมทั้งเตะเข้าที่ศีรษะ ขณะไลฟ์สดการสลายชุมนุมของตำรวจที่ถนนดินสอ ทั้งที่ใส่ปลอกแขนและยืนยันว่าตัวเองเป็นสื่อมวลชน โดยผู้สื่อข่าวคนดังกล่าวได้แจ้งแก่ผู้ชมในไลฟ์ว่า ถูกกันไม่ให้ทำหน้าที่ ก่อนจะโดนดันจนล้ม แล้วตามมาด้วยการรุมกระทืบอย่างดุเดือด จนเจ้าตัวต้องบอกว่าพอแล้ว แต่ก็ยังถูกทำร้ายจากเจ้าหน้าที่ประมาณ 1 นาทีกว่า พร้อมพยายามแย่งมือถือไปด้วย จนเจ้าตัวต้องแจ้งว่าเป็นโทรศัพท์มือถือของที่ทำงาน ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะมีการพูดว่า "พวกกูเนี่ยของจริง มึงจำไว้"

ก่อนที่นางสาวภัสราวลี จะออกมาแถลงกับตำรวจ เพื่อเรียกร้องขอให้ปล่อยตัวผู้ชุมนุมทุกคน และต้องแจ้งว่าผู้ชุมนุมที่บาดเจ็บอยู่ที่ไหน ถ้าไม่ปล่อย กลุ่มผู้ชุมนุมไม่กลับ พร้อมประนามการกระทำของเจ้าหน้าที่ที่มีการใช้กำลังและใช้กระสุนยางในการสลายการชุมนุม ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงนักข่าวด้วย

 นอกจากนี้ยังมีการจับกุมผู้ชุมนุมขณะนั้นมากกว่า 10 ราย ซึ่งทางกลุ่มราษฎรต้องการเรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ที่ถูกจับกุมโดยไม่มีเงื่อนไข โดยเป็นข้อเรียกร้องล่าสุดที่กลุ่มผู้ชุมนุมต้องการ

ทั้งนี้ ระหว่างการประกาศแถลงการณ์ ตำรวจได้มีการตั้งตู้คอนเทนเนอร์ขึ้น 2 ชั้น ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนมีการขว้างปาขวด และพลุควันไปยังแนวตู้คอนเทนเนอร์


 ซึ่งขณะเดียวกันนั้นตำรวจได้นำเอาตู้คอนเทนเนอร์จำนวน 4 ตู้มาขวางถนนดินสอไว้เพื่อไม่ให้ผู้ชุมนุมฝ่าเข้ามาได้ หลังจากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุม มีการปาข้าวของเข้าใส่แนวของตำรวจอีกครั้ง ทำให้ตำรวจต้องหลบเข้าไปอยู่หลังตู้คอนเทนเนอร์ จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมก็ล่าถอยไปอยู่ที่ลานคนเมืองและทำกิจกรรมต่อ หลังจากไม่สามารถเดินเครื่องขบวนมุ่งหน้าไปยังศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ได้

ก่อนที่ในเวลาประมาณบ่าย 15.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมที่ถอยกลับไปชุมนุมที่ลานคนเมือง ได้ประกาศยุติการชุมนุมที่ลานคนเมือง เพื่อเดินทางไปรวมกลุ่มกันที่ สน.ทุ่งสองห้อง หลังจากมีการประกาศระดมมวลชนไปกดดันให้ปล่อยตัวผู้ชุมนุมที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมขณะเข้าสลายการชุมนุม พร้อมเรียกร้องให้ ปล่อยตัวผู้ชุมนุมที่ถูกจับกุมไปประมาณ 25 ราย โดยไม่มีเงื่อนไข

ซึ่งภายหลังกลุ่มผู้ชุมนุมออกจากพื้นที่ ถนน.ดินสอ แล้ว เจ้าหน้าที่จากเขตพระนคร ได้ลงมาสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้นเบื้องต้น และได้ให้เจ้าหน้าที่เทศกิจ เก็บกวาดทำความสะอาดพื้นที่ รวมถึงนำสีดำมาทาทับข้อความและสัญลักษณ์ที่กลุ่มผู้ชุมุนมได้ใช่สเปรย์ขีดเขียนเอาไว้บนพื้นถนนก่อนหน้านี้

ส่วนความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการชุมนุมทั้งหมด ยังไม่สามารถสรุปได้ ต้องรอให้กลุ่มผู้ชุมนุม ออกจากพื้นที่ลานคนเมืองให้หมดก่อน แต่เท่าที่สำรวจดูเบื้องต้น พบว่าความเสียหายส่วนมาก อยู่แค่ที่บริเวณถนนดินสอ ซึ่งเป็นจุดที่มีการเผชิญหน้ากันระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

https://youtu.be/TtVz3trzh9s