ทนายนักธุรกิจสิงคโปร์ ร้อง ขอความเป็นธรรม อสส.สอบอัยการ หลังมีคำสั่งไม่ฟ้องไฮโซและพวก

ทนายนักธุรกิจชาวสิงคโปร์ ร้องอัยการสูงสุด ให้ตำรวจสอบการทำงานของอัยการ หลังมีคำสั่งไม่ฟ้องไฮโซกับพวก คดีอุ้มนักธุรกิจชาวสิงคโปร์ ชี้เวลาในการพิจารณาสั่งไม่ฟ้องรวดเร็วโดยใช้เวลาเพียง 1 วัน

จากเหตุการณ์ ที่นายแดริล นักธุรกิจชาวสิงคโปร์ เข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.ห้วยขวาง ว่าถูกไฮโซ หรือ นายธฤต, นายเพชร พร้อมพวกรวม 8 คน อุ้มตัวนำไปปล้นทรัพย์ ซึ่งมีทั้งเงินสด รถปอร์เช่ รุ่นคาเยนต์ และทรัพย์สินอื่น ๆ รวมกว่า 4 ล้าน 5 แสนบาท ไปจากที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ย่านเหม๋งจ๋าย เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน ที่ผ่านมา



ต่อมาวันที่ 3 ตุลาคม พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 3 มีความเห็นสั่งไม่ฟ้องในคดีที่นายธฤต และพวกนั้น



ล่าสุดนายธัชชัย ทนายความของนายแดริล นักธุรกิจชาวสิงคโปร์ ได้เดินทางมาที่สำนักงานอัยการสูงสุด ศูนย์ราชการ เพื่อยื่นหนังสือขอให้สำนักงานอัยการสูงสุดตรวจสอบข้อเท็จจริง



โดยนายธัชชัย เปิดเผยว่าตนเองมองว่าพนักงานอัยการเร่งรัดการทำสำนวนเกินไปหรือไม่ เพราะมีการใช้เวลาเพียง 1 วัน ในการพิจารณาสำนวนและมีคำสั่งไม่ฟ้องคดีผู้ต้องหา



ตนเองเชื่อว่าพฤติกรรมดังกล่าว อาจจะเข้าข่ายการทุจริต หรือมีการกระทำผิดต่อหน้าที่ราชการ ของพนักงานอัยการที่เกี่ยวข้อง เพราะสำนวนการสอบสวนจำนวนหลายร้อยหน้า ปกติจะใช้เวลาการพิจารณาอย่างน้อย 2-3 ผลัด หรือประมาณเกือบ เดือน



ซึ่งพนักงานสอบสวนเองก็ยังแปลกใจเพราะสำนวนมีความรัดกุม รวมถึงศาลยังมีการอนุมัติออกหมายจับกลุ่มผู้ต้องหา พนักงานสอบสวนมีการส่งสำนวนในวันที่ 2 ตุลาคม แต่พอส่งสำนวนพนักงานอัยการกลับมีคำสั่งไม่ฟ้องโดยใช้เวลาเพียง 1 วัน ซึ่งพนักงานสอบสวนยังมองว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ที่จะพิจารณาได้อย่างรวดเร็วขนาดนี้



นอกจากนี้ยังมีข้อมูลที่ภรรยาของนายแดริล ได้รับคือเรื่องของ สินบนหลายสิบล้านบาท ที่มีการจ่ายให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีนี้



ส่วนตัวไม่ติดใจการทำงานของทางพนักงานสอบสวน เพราะมีการทำงานติดต่อกันมาตลอด รวมถึงพนักงานสอบสวนยังมีการออกหมายจับและมีความเห็นส่งฟ้องตามขั้นตอน ในวันนี้จึงนำหลักฐานมายื่นแสดงเพื่อให้ตรวจสอบ พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 3 ที่เป็นผู้ออกคำสั่งดังกล่าว







ซึ่งข้อมูลที่ตนเองได้รับเป็นข้อมูลจากทางฝั่ง ผู้ต้องหาที่มีการติดต่อกับทางภรรยา นายแดริล ที่มีการระบุว่ามีคำสั่งไม่ฟ้องกลุ่มผู้ต้องหา และยังมีการพูดถึงประเด็นสินบนหลายสิบล้านด้วยเช่นกัน



โดยต่อจากนี้ตนเองจะเดินหน้ายื่นหนังสือให้ครบ 4 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง



คือ 1.สำนักงานอัยการสูงสุด



2.สำนักงานตำรวจแห่งชาติ



3.สำนักงาน ป.ป.ช.



4.สภาผู้แทนราษฎร



ขณะที่นายโกศลวัฒน์ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ระบุว่าขั้นตอนต่อจากนี้จะนำหนังสือและข้อมูลหลักฐานทั้งหมดส่งให้ ท่านนารี ตัณฑเสถียร อัยการสูงสุด พิจารณา โดยจะมีการเร่งรัดการดำเนินการเพื่อให้รวดเร็วตามนโยบายของท่านอัยการสูงสุด