สังคม

เร่งล่าโจรแสบชิงทอง 70 บาท กลางห้างดังอยุธยา วางระเบิดปลอมถ่วงเวลาหนี

โดย panwilai_c

4 พ.ย. 2565

79 views

เกิดเหตุคนร้ายพกปืนบุกเดี่ยวชิงทองน้ำหนัก 70 บาท ภายในร้านทอง ห้างแห่งหนึ่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทั้งใช้ปืนยิงขู่ วางระเบิดปลอม เพื่อถ่วงเวลา ไม่ให้เจ้าหน้าที่ติดตามจับได้ คาดเป็นคนในพื้นที่ที่ชำนาญเส้นทางอย่างดี



นี่เป็นวินาทีที่คนร้ายสวมแจ็คเก็ตดำแขนยาว พกปืนเข้ามาก่อเหตุทุบกระจก แล้วกวาดสร้อยทองในถาดที่แขวนอยู่ รวมแล้วน้ำหนักประมาณ 70 บาท ภายในห้างแห่งหนึ่ง ใน อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยาไป แล้ววิ่งหลบหนีออกไป โดยเหตุนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 11 นาฬิกา 20 นาทีที่ผ่านมา ซึ่งคลิปนี้ มีพลเมืองดีรายหนึ่งสามารถ่ายคลิปเก็บไว้เป็นหลักฐานให้ตำรวจไว้ได้



ขณะเดียวกัน ยังมีพลเมืองดีซึ่งเป็นเจ้าของร้านขายอุปกรณ์ไฟฟ้า วิ่งไล่ติดตามคนร้ายออกมา และพบวัตถุต้องสงสัยที่คนร้ายวางทิ้งไว้ มีลักษณะเป็นท่อ PVC ขนาดเท่าข้อมือ ความยาวประมาณ 20 เซ็นติเมตร พันด้วยเทปสายไฟ มีนาฬิกาคล้ายระเบิดตั้งเวลา ซึ่งพลเมืองดี สังเกตด้วยว่านาฬิกาตั้งเวลาไว้ 3 นาที จึงตัดสินใจหยิบแล้วขว้างออกไป บริเวณทางป่าหญ้าข้างห้าง



โดยต่อมา ตำรวจไปตรวจสอบวัตถุต้องสงสัย ที่พลเมืองดีนำไปทิ้งป่าหญ้าข้างห้าง และพบว่าเป็นระเบิดปลอม เชื่อว่า คนร้ายทำวางแผนข่มขวัญ ขู่ไม่ให้ติดตามเพื่อหลบหนีจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน



ขณะที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ พร้อมเก็บลายนิ้วมือแฝง และพร้อมสอบปากคำ พนักงานของร้าน ซึ่งยังอยู่ในอาการตกใจ เล่าว่า คนร้ายเป็นชายสวมเสื้อแจ็คเก็ตสีดำ หมวกกันน็อกสีดำ เดินตรงเข้ามาที่ร้าน ครั้งแรกเข้าใจว่า เป็นลูกค้าประจำที่มักจะชอบเข้ามาแหย่เล่นกับพนักงาน



จากนั้นคนร้ายพูดว่า มาปล้นนะ แล้วก็ยิงปืนเข้ามาภายในร้าน พนักงานต่างพากันหลบ เพราะกลัวอันตราย คนร้ายก็ตรงเข้าไปทุบกระจกและกวาดเอาสร้อยคอทองคำ หลบหนีไป



นอกจากนี้ ตำรวจยังได้เบาะแสคนร้ายจากกล้องวงจรปิดของห้าง ซึ่งเป็นภาพคนร้ายกำลังขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาในห้างเพื่อก่อเหตุและหลบหนี



เบื้องต้นทราบว่า คนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า ฟีโน่ สีเทาดำ หลบหนีออกจากห้างออกทางประตูด้านหลัง ซึ่งพบว่าเส้นทางดังกล่าวเป็นถนนคันกั้นน้ำ จะไม่มีกล้องวงจรปิด และตำรวจเชื่อว่า คนร้ายน่าจะเป็นคนในพื้นที่ ที่รู้เส้นทางหลบหนีอย่างดี ส่วนทองรูปพรรณที่คนร้ายชิงไป น้ำหนักรวมประมาณ 70 บาท มูลค่ากว่า 2 ล้านบาท โดยขณะนี้ตำรวจเร่งตรวจสอบวงจรปิด เพื่อติดตามคนร้ายแล้ว

https://youtu.be/D74St3J0OhE

คุณอาจสนใจ

Related News