อาชญากรรม

จับทันควันโจรฉายเดี่ยววิ่งราวสร้อยคอทองคำรวม 6 บาท พบตีเนียนอมไว้ในปาก 1 เส้น

โดย kanyapak_w

2 ม.ค. 2567

497 views

จับทันควันโจรฉายเดี่ยววิ่งราวสร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท 2 เส้น รวม 6 บาทมูลค่า 211,140 บาท ตีเนียนแอบอมทอง 1 เส้นไว้ในปาก พอเจอนักข่าวสัมภาษณ์หนัก คายทองออกมาจากปาก



เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 1มกราคม2567 พ.ต.ต.(หญิง) ประวีณ์นุช ศิริสงคราม สว.(สอบสวน)สภ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งว่ามีเหตุคนร้ายวิ่งราวสร้อยคอทองคำที่ร้านทองแห่งหนึ่งใน เขตเทศบาลตำบลท่าศาลา อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.อภิชาติ จันทร์สำเร็จ ผกก.,พ.ต.ท.นรากร เอียดช่วย รอง ผกก.ป.,พ.ต.ท.เกษมสิทธิ์ จำปางทอง รอง ผกก.สอบสวน,พ.ต.ท.สมชาย มวยดี รอง ผกก.สส.พร้อมด้วยกำลังตำรวจชุดสืบสวนและสายตรวจระดมไปที่เกิดเหตุ



เมื่อไปถึงพบ น.ส.กัญจนพร อายุ 24 ปี,น.ส.อาริยา อายุ 24 ปี พนักงานขายของร้านทองและจนท.ของห้างยืนรอเจ้าหน้าที่ด้วยความตกใจให้การว่า ก่อนเกิดเหตุขณะกำลังยืนขายทองในร้านทองด้างดังกล่าว ท่ามกลางประชาชนที่เดินจำนวนมาก ทันใดนั้นคนร้ายเป็นชาย อายุประมาณ 25-30 ปี สวมเสื้อผ้าชุดสีดำ เปิดหน้าไม่สวมหน้ากากอนามัยเดินเข้ามาทำทีถามจะซื้อทองถามว่าทองบาทละเท่าไหร่กับพนักงานขายตอนนี้ อ้างว่าจะซื้อไปให้แม่วันปีใหม่ ปรากฏว่าระหว่างพนักงานเอาทองมาคนร้ายดังกล่าวทำท่ามาเลือกดูอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่คน้รายจะหยิบสร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท จำนวน 2 เส้น รวม 6 บาท มูลค่า 211,140 บาทมาให้คนร้ายดู ก่อนที่ชายคนดังกล่าวจะหยิบสร้อยคอทองคำทั้งสองเส้นวิ่งหนีออกจากห้างไปทางประตูด้านหน้าอย่างรวดเร็วทันที แล้วคนร้ายได้ขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่าฟีโน่ สีขาวเขียว ไม่ทราบทะเบียนหลบหนีเลี้ยวซ้ายขึ้นถนนสายท่าศาลา-นครศรีรธรรมราช มุ่งหน้าเข้าตัวเมืองอย่างรวดเร็วทันที



หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช ได้เดินทางไปอำนวยการไล่ล่าคนร้ายและตรวจสอบกล้องวงจรปิดจำนวนหลายจุด ในที่สุดสืบทราบว่าคนร้ายรายนี้คือนายศุภณัฐ อายุ 24 ปี จึงนำกำลังไปจับกุมนายศุภณัฐ ได้พร้อมของกลางสร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท 1 เส้นที่ซ่อนไว้ในบ้านพัก ส่วนอีก 1 เส้นยังหาไม่เจอ ก่อนคุมตัวนายศุภณัฐฯมาทำการสอบสวนขยายผลที่โรงพัก



ปรากฏว่าขณะสอบสวนและนักข่าวพยายามสัมภาษณ์อยู่นานนายศุภณัฐฯไม่ยอมพูดอะไรอ้ำอึ้งตลอดเวลา จนในที่สุดนายศุภณัฐฯได้ยอมคายสร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท เส้นที่ 2 ออกจากปากทันทีเนื่องจากทนไม่ไหว โดยเบื้องต้นนายศุภณัฐให้การรับสารภาพว่าได้ไปวิ่งราวสร้อยทองคำจำนวน 2 เส้นจริง แต่สาเหตุการวิ่งราวสร้อยคอทองคำนั้นตนยังไม่บอกในตอนนี้ว่าจะเอาเงินไปทำอะไร ซึ่งพล.ต.ต.สมชาย ได้นำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในเบื้องต้นในที่เกิดเหตุและคุมตัวดำเนินคดีตามกม.ต่อไป



พล.ต.ต.สมชาย กล่าวว่าคดีนี้ตำรวจสภ.ท่าศาลา ทุกนายสามารถจับกุมคนร้ายได้ในเวลาอันรวดเร็วเพราะความสามารถของตำรวจสภ.ท่าศาลาทุกนายและความร่วมมือของพลเมืองดีทีเห็นเหตุการณ์แจ้งเบาะแสแก่ตำรวจจนสามารถติดตามจับกุมคนร้ายได้ในเวลาอันรวดเร็ว ส่วนประวัติของผู้ต้องจากการสอบถามญาติของผู้ต้องหาทราบว่าผู้ต้องมีพฤติกรรมติดยาเสพติดและชอบเล่นเกมส์อาจจะต้องการนำเงินไปซื้อยาเสพติดมาเสพหรือต้องการเอาไเล่นเกมส์ที่ตนเองชอบซึ่งทางตำรวจจะได้ขยายผลต่อไป




คุณอาจสนใจ

Related News