สังคม

ผวาทั้งโรงเรียน! หนุ่มเมายาบ้าบุกห้องเรียนประถม บอก “อย่าสอนเสียงดัง” ซ้ำชกหน้าครูสาว 2 หมัดเจ็บ

โดย paranee_s

3 พ.ย. 2565

2K views

วันนี้ (3 พ.ย.65) ร.ต.อ.ลือชัย การุณ หัวหน้าสายตรวจชุมชน ต.บ้านผึ้ง อ.เมือง จ.นครพนม รับแจ้งเหตุจากครูโรงเรียนบ้านหนองปลาดุก บ้านหนองปลาดุก หมู่ 22 ว่า มีชายคลุ้มคลั่ง เมายาบ้า บุกเข้าไปในโรงเรียน เกรงว่าจะทำร้ายครูและนักเรียน ขอให้เร่งมาตรวจสอบด้วย


หลังรับแจ้งจึงรีบรุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเป็นโรงเรียนสอนชั้นประถมและมัธยม พบอาคารเรียนสูง 2 ชั้น บนชั้น 2 ซึ่งเป็นชั้นของนักเรียน ป.1 ส่วนชั้นล่างสอนชั้น ป.2 พบครูและนักเรียนอาคารใกล้เคียงต่างพากันแตกตื่น วิ่งออกมานอกห้องเรียน มุงดูหน้าอาคารที่เกิดเหตุ


ครูรีบกันเด็กนักเรียนให้เข้าห้องเรียน หวั่นเกรงคนร้ายจะมีอาวุธมาด้วย และอาจได้รับอันตราย จึงรายงาน พล.ต.ต.ธวัชชัย ถุงเป้า ผบก.ภ.จว.นครพนม พ.ต.อ.ณัฏฐวิชฌ์ ราชแก้ว ผกก.สภ.เมืองนครพนม ได้เดินทางไปที่เกิดเหตุพร้อมกับ ร.ต.อ.คงฤทธิ์ พลศรี พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม


พบนางไสว อายุ 43 ปี ครูประจำชั้น ป.1 โรงเรียนแห่งนี้ ซึ่งถูกคนร้ายเป็นชาย ทราบชื่อภายหลังคือนายธานินทร์ อายุ 32 ปี ซึ่งมีบ้านเรือนอยู่ตรงข้ามกับห้องเรียน ชกที่ใบหน้าบริเวณแก้มขวา มีรอยฟกซ้ำได้รับบาดเจ็บ ก่อนจะหลบหนีไป


นางไสว กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุกำลังสอนวิชาคณิตศาสตร์ มีนักเรียนชาย-หญิง อายุ 7-8 ปี ในห้องจำนวน 17 คน และเมื่อคนร้ายได้บุกขึ้นมาที่ชั้น 2 ตะโกนหน้าห้องบอกตนว่า “อย่าสอนเสียงดัง” ด้วยความกลัวจึงเงื้อมือจะปิดประตูห้อง แต่กลอนประตูเสีย


จากนั้นคนร้ายพูดย้ำอีกว่า “อย่าสอนเสียงดัง” ก่อนกำหมัดซ้ายปรี่ชกเข้าที่ใบหน้าตน 2 ครั้ง นักเรียนที่อยู่ในห้องต่างกลัว ตนจึงร้องบอกให้นักเรียนมุดหลบอยู่ใต้โต๊ะ เพราะเกรงว่าจะได้รับอันตราย


คุณครู กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้เมื่อ 2 ปีที่แล้ว นายธานินทร์ ซึ่งติดยาเสพติดเคยก่อเหตุใช้อาวุธฉมวกก่อเหตุแทงครูชายรายหนึ่ง ซึ่งสอนอยู่ห้องชั้น ป.2 ได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนจะลาออกไป ส่วนนายธานินทร์ ถูกตำรวจจับกุมและติดคุก 3 ปีในคดีทำร้ายร่างกายและเสพยาเสพติดมาแล้ว


และปีนี้นายธานินทร์ ได้ก่อเหตุชกต่อยตนได้รับบาดเจ็บ 2 ครั้งแล้ว ซึ่งทุกครั้งตนก็แจ้งความเอาเรื่อง กระทั่งครั้งล่าสุดเป็นช่วงที่นักเรียนใกล้จะเลิกพักเที่ยงพอดี คนร้ายรายเดิม และคาดว่าน่าจะมีอาการหลอนคลุ้มคลั่งเมายาบ้า มาก่อเหตุชกต่อยตนเป็นครั้งที่ 3 แล้ว ยืนยันจะเอาเรื่องและดำเนินคดีถึงที่สุด


ขณะที่นางภรรัช อายุ 55 ปี ครูสอนชั้น ป.2 ห้องติดกัน กล่าวว่า เดิมทีคนร้ายได้เดินทางมาที่ห้องตน นึกว่านางไสวยังสอนอยู่ห้องนี้ คนร้ายจึงได้บุกมาหน้าห้องตนก่อน ตนจึงรีบปิดประตูล็อกกลอน ทำให้คนร้ายหันไปทำร้ายนางไสว จนบาดเจ็บ ซึ่งตนยังตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น


ด้าน ร.ต.อ.ลือชัย กล่าวว่า เมื่อ 2 ปีที่แล้ว นายธานินทร์ทำร้ายครูชายรายหนึ่ง จนบาดเจ็บสาหัส ก่อนที่จะคลุ้มคลั่งยาบ้าเผากระต๊อบเถียงนามาแล้ว ครั้งนี้น่าจะเสพยาและบุกทำร้ายร่างกายครูสาวบาดเจ็บ คาดว่าอาจจะหลบหนีไปเถียงนาท้ายหมู่บ้าน อยู่ระหว่างส่งชุดสายตรวจ และชุดรักษาความสงบหมู่บ้าน (ชรบ.) ไล่ล่าตัวมาดำเนินคดีได้ในเร็ว ๆ นี้


พล.ต.ต.ธวัชชัย ถุงเป้า ผบก.ภ.จว.นครพนม เปิดเผยว่า ในขณะนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฯ ติดตามคนร้าย 3 ชุด คือ ฝ่ายป้องกันปราบปราม ฝ่ายสืบสวน และฝ่ายสายตรวจตำบล มีชุดดูแลความปลอดภัยที่บ้านคุณครู ให้มีความปลอดภัย


ขณะเกิดเหตุ คุณครูโทร.หาสายตรวจตำบล และการเดินทางมาโรงเรียน ใช้เวลาประมาณ 5-10 นาที ผู้ก่อเหตุหลบหนีไปแล้ว หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ฯ ตรวจสอบสถานที่ต่าง ๆ ที่คาดว่าผู้ร้ายจะหลบซ่อน มีการวางแผนในการปฏิบัติการ คนร้ายที่ก่อเหตุชกหน้าคุณครู ซึ่งเป็นญาติกัน แต่คุณครูไม่สนิทกัน และคนร้ายอาจจะขาดยา


เมื่อได้ตัวคนร้ายมา ต้องนำส่งตรวจสารเสพติดว่าจะมีอะไรในตัว เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติ โดยในวันนี้จะมีสายตรวจตำบล เพื่อดูแลความปลอดภัยของคุณครู เบื้องต้นมีชุดรักษาความปลอดภัยมาดูแลโรงเรียน กำลังกระจายกำลังเข้าไปตรวจสอบ สาเหตุคือคนร้ายไม่พอใจที่คุณครูสอนเสียงดัง ในเรื่องของผู้ป่วยติดยาเสพติด บางคนอาจมีอาการหลอนทางประสาทได้ยินอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ รู้สึกหวาดกลัวและเป็นภัย ไม่สบายใจ ในเป็นลักษณะที่คนร้ายขาดยา


พ.ต.อ.ณัฏฐวิชฌ์ ราชแก้ว ผกก.สภ.เมืองนครพนม เปิดเผยว่า สภ.เมืองนครพนม ได้จัดชุดดูแลความปลอดภัยครู นักเรียน สภาพจิตใจ พร้อมกับฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ฯ ดูแลสถานที่เกิดเหตุว่า การเกิดเหตุเป็นอย่างไร และมีชุดไล่ล่า คนร้ายก่อเหตุว่าอยู่ที่ไหน อยู่ในระหว่างติดตามจับกุมตัว ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องการแก้ไขแบบถาวร โดยตำรวจ ปกครอง กำนันผู้ใหญ่บ้าน พม. มาสอนการซ่อนตัว การปฏิบัติ หากมีเหตุเกิดโดยแบ่งเป็นส่วนของเด็ก ครู ว่าจะมีการป้องกันตัวอย่างไรถ้าเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น


โดยทางโรงเรียน จะตรวจสอบว่าห้องเรียนมีข้อบกพร่องอะไรบ้าง จะต้องมีการแก้ไข มีการวางแผนขั้นตอนในการเกิดเหตุว่าจะต้องทำอย่างไรบ้าง ทำเป็นขั้นตอน โดยใช้โรงเรียนเกิดเหตุเป็นโมเดล ตอนนี้เริ่มทำหลายโรงเรียนแล้ว ซึ่งยังไม่ได้เข้ามาโรงเรียนที่เกิดเหตุ

คุณอาจสนใจ