สังคม

มูลนิธิดัง ยันตีเด็กจริงเป็นการลงโทษจากการเสพยาเสพติด วอนอยากให้ฟังทางฝั่งมูลนิธิบ้าง

โดย parichat_p

2 พ.ย. 2565

122 views

พม.ลงพื้นที่ตรวจสอบมูลนิธิดังหลังพบเด็กในมูลนิธิร้องถูกครู ทำร้ายร่างกาย จ่อเอาผิดตาม พรบ.คุ้มครองเด็ก 2546 ขณะที่ชาวบ้านยันเคยได้ข้อมูลเด็กถูกทำร้ายจริง ด้านครอบครัวเด็กที่เป็นเหยื่อ เผยข้อมูลคนละม้วน บอกเด็กติดยา และติดเพื่อน เลยอยากออก


นี่เป็นคลิปที่ถูกระบุว่า เกิดขึ้นภายในมูลนิธิแห่งหนึ่ง ใน จ.สมุทรสงคราม ที่ถูกบันทึกไว้ช่วงเดือนพฤษภาคม 2565 เป็นหลักฐานสำคัญ ที่มีหนึ่งในเด็กในมูลนิธิแอบบันทึกไว้ ความยาวประมาณ 5นาที ในคลิปจะมีเด็กผู้ชายยืนอยู่ 6-7 คน เนื่องจากถูกครูมูลนิธิดัง ทำโทษ เนื่องจากลงไปเล่นน้ำ และยังมีเด็กอื่นๆ ที่เหลือนั่งเรียงรายอยู่กับพื้น ท่ามกลาง ครูที่ยืนถือไม้เรียว อบรมสั่งสอนเด็ก จากในคลิปสังเกตเห็นลักษณะพฤติกรรม ที่ใช้คำไม่สุภาพ ลงโทษเด็ก


โดยเหตุการณ์ครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากนั้น ทางกลุ่มเส้นด้าย ได้รับเรื่องร้องเรียน จากกลุ่มนักศึกษาที่มาทำกิจกรรมจิตอาสา เมื่อวันจันทร์ที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมา ว่า มูลนิธิคุ้มครองเด็กแห่งหนึ่ง ที่ จ.สมุทรสงคราม มีการทำร้ายร่างกายเด็กในความดูแล โดยเล่าเรื่องราวว่า ได้ทำโครงการช่วยเหลือมอบอาหาร บริจาคสิ่งของต่างๆให้แก่น้องๆในมูลนิธิ แต่ระหว่างทำกิจกรรมได้คุยสารทุกข์สุกดิบ กับน้องๆ ซึ่งเล่าว่า โดนทำร้ายร่างกาย เช่น ต่อยตี ใช้ไม้ไผ่ฟาด ไม้ม็อบฟาด จนเลือดออก บางรายโดนจับกดน้ำ และโดนเอาเปรียบให้อาบน้ำคลอง


ขณะที่เด็กบางคน ถูกพาไปใช้แรงงานที่รีสอร์ตของเจ้าของ ถ้าขัดขืนไม่ยอมไปทำ จะถูกทำโทษถูกลงโทษ หักค่าไปโรงเรียน บางคนโดนหักเหลือ 10 บาท // หลังจากที่ได้ทราบเรื่องราวจากเด็กๆ จึงมีการประสานหน่วยงานต่างๆ และเส้นด้าย เพื่อให้เข้าช่วยเหลือเด็กออกมาได้ 8 คน ออกจากมูลนิธิเมื่อวันที่ 30 ตุลาคมที่ผ่านมา จากเด็กทั้งหมด 55 คน เพื่อทำการแยกเด็กออกไปคุ้มครอง และสอบสวนข้อเท็จจริง


นั่นทำให้เมื่อเช้านี้ ที่ศาลากลางจังหวัดสมุทรสงคราม เจ้าหน้าที่จากกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้ลงพื้นที่มาติดตามเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยนายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พร้อมด้วยรองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม เปิดเผยว่า มูลนิธิแห่งนี้ มีเด็กทั้งหมด 55 คน


ขณะนี้ ตำรวจได้สอบปากคำ ตาม ป.วิอาญากับเด็ก 8 คน ที่อ้างว่า ถูกทำร้ายร่างกาย ซึ่งทราบพฤติการณ์เบื้องต้นของครูคนดังแล้ว คือ ใช้แรงงานเด็ก ซึ่งบางอย่างเด็กทำไม่ได้ตามที่ต้องการ จึงมีการลงโทษ แต่อย่างไรก็ตาม ลักษณะเช่นนี้ถือว่า "เด็กถูกกระทำ" ถึงแม้จะอ้างว่า ตีเพื่อสั่งสอน คือ ว่ามีความผิดชัดเจน


สำหรับเรื่องการจัดตั้งมูลนิธิแห่งนี้เปิดมานานหลายปี ซึ่งเจ้าหน้าที่ พม.จ.สมุทรสงคราม ได้เข้ามาตรวจสอบทุกปี มูลนิธิคุ้มครองเด็กแห่งนี้ ประวัติค่อนข้างดีในอดีต ซึ่งการเข้ามาตรวจสอบเจ้าหน้าที่ได้มีการสุ่มพูดคุยกับเด็กในมูลนิธิ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ ไม่ได้รับสัญญาณอะไรจากเด็ก


ในส่วนเรื่องของเงินบริจาค ทางมูลนิธิจะใช้จ่ายเงิน ที่ได้รับบริจาค เรื่องดูแลเด็ก การศึกษา อาหาร ซึ่งจำนวนเงินบริจาคก็จะหมดไปปีต่อปี


หลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะเร่งหาข้อสรุป 2 ส่วน คือ การย้ายเด็กออกจากมูลนิธิคุ้มครองเด็กแห่งนี้ เพื่อให้ไม่ได้รับอันตราย แต่ไม่สามารถแจ้งได้ว่าจะย้ายไปที่ไหน เพราะเป็นสิทธิส่วนบุคคล


ส่วนที่ 2 เจ้าหน้าที่จะเร่งพิจารณารายละเอียด เรื่องการหยุดการดำเนินการของมูลนิธิแห่งนี้ ซึ่งเป็นไปตามกฎหมาย



สำหรับการเพิกถอนใบอนุญาต ขอให้มีการดำเนินการของพนักงานสอบสวนให้ชัดเจนก่อน เนื่องจาก หลักฐานการไปตรวจร่างกาย หาบาดแผลไม่เจอ ขณะนี้มีเพียงคำให้การของเด็กที่บอกว่าถูกทำร้ายเท่านั้น


เบื้องต้น ความผิดที่ชัดเจนในขณะนี้ มีเพียงการทำร้ายร่างกายเด็ก คงามผิดตาม พ.ร.บ. คุ้มครองเด็ก มาตรา 61 ขณะที่ทีมข่าว ได้ลงพื้นที่ไปละแวกใกล้เคียงกับมูลนิธิดังกล่าว และได้พูดคุยกับหนึ่งในชาวบ้านที่ให้ข้อมูล อ้างว่า เคยช่วยเหลือเด็กให้ข้าวให้น้ำ บางครั้ง เคยเห็นครูที่ถูกกล่าวหา เคยให้เด็กที่ทะเลาะกัน ให้เด็กตี และสลับกันตบที่ผ่านมา เด็กคงไม่ได้กล้าเข้ามาร้องขอความช่วยเหลือตรงๆ


บางทีตอนที่พาเด็กมาทำงาน เก็บมะพร้าว เด็กก็จะขอกินข้าว และขอดื่มน้ำหน่อย ซึ่งเห็นพฤติกรรมแบบนี้บ่อยครั้ง และบางทีการให้เด็กมาทำงาน ก็ไม่ใช่หน้าที่ของเด็ก ที่ต้องมาทำ เช่นให้เด็กอายุ 4-5 ขวบ มาเก็บมะพร้าวที่ผ่านมา เคยรับทราบพฤติกรรมมานานแล้วแต่พูดไม่ได้ เพราะเขาเหมือนพ่อพระ สุดท้ายแล้วคนเล็กๆ ชาวบ้านหลายๆ คน ก็พูดอะไรไม่ได้


เห็นแน่นอนให้มาเก็บมะพร้าวให้มาเก็บเศษมะพร้าวซึ่งเด็กยังเล็กอยู่ชุดหลังไม่ควรจะให้เด็กมาทำเด็กเล็กเกินไปหรือเปล่าที่จะมาทำประมาณสี่ถึงห้าขวบช่วงหลังที่เห็นก่อนหน้านี้เคยเห็นเป็นเด็กโตในอดีตเคยเห็น นอกจากเก๊บมะพร้าว ยังเห็นให้เด็กทำแม้กระทั่งห้องพัก เด็กโตหน่อยก็ให้ตัดหญ้า โดยเด็กบอกกับตนว่าไม่ได้รับค่าแรงตอบแทน


ด้านคุณชลิดา พะละมาตย์ อาสาสมัครมูลนิธิเส้นด้าย ดูแลด้านเด็กและสตรี เล่าว่า หลังจากได้รับเรื่องร้องเรียนจากนักศึกษาที่ไปบริจาคในมูลนิธิ เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา และมีเด็กบางกลุ่มที่เดินเข้ามาพูดคุยกับนักศึกษาว่า อยากให้ช่วยเหลือเพราะถูกทำร้าย จะแจ้งเรื่องไปที่มูลนิธิเส้นด้าย


ทางมูลนิธิจึงได้ลงพื้นที่มาสุ่มสอบถามข้อมูลจากเด็ก และได้ข้อมูลสอดคล้องกับที่เด็กแจ้งมาที่นักศึกษา จึงลงพื้นที่มาที่มูลนิธิ และได้เห็นสภาพที่ทำให้ตั้งคำถามกับตัวเองว่า ต่อใบอนุญาตมาได้อย่างไร พร้อมกันนี้มีเด็กเล่าให้ฟังว่า เคยถูกครูคนดัง ตีนะทำร้ายเวลาที่อารมณ์เสีย หรือบางครั้งทีมฟุตบอลที่เชียร์แพ้ก็มาลงกับเด็ก //โดยมีทั้งเอาไม้มาตีเด็กจนเหล็กงอ //เอาปัสสาวะมาราดใส่เสื้อผ้าเด็ก รวมถึง เอาเสื้อผ้าของเด็ก มาคลุกดิน และคลุกอุจจาระของเด็กคนอื่น


ทำให้รับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงประสานพมจ. จังหวัดเข้ามา และพาเด็ก 8 คนที่ประสงค์จะขอออก ออกไปอยู่ภายใต้การดูแลของราชการ จากข้อมูลของนักเรียนที่ออกแฉถึง พฤติกรรมครู ในมูลนิธิดัง จากที่รวบรวมมา อ้างว่า มีการ


- ทำร้ายทุบตี ไม่มีเหตุผล

- ใช้ไม้ตีเด็ก

- จับกดน้ำ

- ใช้ปัสสาวะตัวเอง ราดเสื้อผ้าเด็ก

- นำเสื้อเด็ก คลุกอุจจาระเด็ก

- ติดวงจรปิดในห้องอาบน้ำ

- ห้ามติดต่อคนภายนอก

- ห้ามใช้มือถือ

- ใช้แรงงานเด็กทำงานในรีสอร์ต

- ให้กินเเต่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป , ปลากระป๋อง

- ให้กินอาหารใกล้หมดอายุ เป็นต้น


ขณะเดียวกัน ทีมข่าวได้คุยกับ 1 ใน ครอบครัวของเด็ก 8 คน ที่ขอความช่วยเหลือ และออกไปจากมูลนิธิออกไปเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทำให้ข้อมูลอีกด้านว่า ทางครอบครัวเพิ่งทราบเรื่องจากทางมูลนิธิว่าน้องชายวัย 17 ปี ว่า น้องชายได้มาอยู่ที่มูลนิธิตั้งแต่อายุ6 ขวบ ที่ผ่านมายืนยันว่าทางมูลนิธิไม่เคยทุกปีหรือทำร้ายน้องชายตนเอง จึงไม่ทราบว่าสาเหตุที่ไปเรียกร้องให้ทางหน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือเป็นเพราะอะไร แต่เชื่อว่าอาจจะเป็นเพราะ น้องชายตนเอง ติดเพื่อนข้างนอก ติดหญิง และ เกี่ยวข้องกับยาเสพติด จึงทำให้อยากออกไปข้างนอก ซึ่งตอนนี้ ตนก็ติดต่อน้องชายไม่ได้ และตนก็อยากให้กลับมาอยู่ที่มูลนิธิเช่นเดิม


จากนั้นในเวลา 14.00น. เจ้าหน้าที่ พม. จังหวัด พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้นำเอกสาร เเละรายละเอียดเกี่ยวกับการคุ้มครองเด็กเข้ามาตรวจสอบสถานที่ เเละพูดคุยกีบเด็กภายในมูลนิธิ


โดยระหว่างที่มาถึง ได้มีลูกชายของครูคนดัง มาพบ โดยครูคนดังไม่ได้ปรากฏตัว ทางเจ้าหน้าที่ จึงเเจ้งสิทธิ และ แจ้งเกี่ยวกับ พรบ.คุ้มครองเด็ก ในการติดต่อขอรับเด็กที่เหลือไปดูเเล ทำให้ลูกชายของครูคนดัง โทรหา นายแก้วสรร อติโพธิ อดีตสมาชิกวุฒิสภาไทย ซึ่งเป็นประธานมูลนิธิ


นายเเก้วสรร ยืนยันว่า ที่นี่เป็นบ้านเด็กๆ มูลนิธิเเห่งนี้สร้างขึ้นมาเพื่อดูเเลเด็กมีปัญหาจากครอบครัวที่ไม่สามารถเลี้ยงดูได้ เเละเด็กที่ถูกกระทำความรุนเเรง เเละเรื่องทางเพศ ยืนยันว่าไม่มีอันตรายอะไรกับเด็ก เปรียบเหมือนบ้านของเด็กที่ไร้ที่พึ่ง //ไม่ใช่การยกพวกมาเอาเด็กไป เด็กกำลังเรียนอยู่ทั้งนั้น การร้องเรียนที่เกิดขึ้นให้ฟังความมูลนิธิบ้าง อย่าฟังความ จนไม่ให้เด็กไม่ได้เรียน ความสงบจิตใจเขาจะเสียไหม อยากทบทวนให้ดี เเละให้สอบถามว่าเด็กเขาอยากไปหรือไม่


ทั้งนี้ ยืนยันว่า เด็กที่ถูกตี เป็นเด็กติดยาเสพติด เอายาเสพติดมาเผยเเผร่ให้น้องๆ เเละยังพาเด็กเสีย พาเด็กลงน้ำ ที่ผ่านมาพยายามดึงๆกันไว้ ว่าเด็กจะเสียอนาคต อยากให้ฟังทางฝั่งมูลนิธิบ้าง การเข้ามาเเบบนี้ ไม่ต่างจากการมายึดลูกจากพ่อเเม่เขาไป เเละถามว่าเอาเด็กไปจะดูเเลอย่างไร มารังเเกเด็กผมไม่ยอม กว่าจะสร้างมูลนิธิมาได้ ถามปลัดว่าใช้อำนาจอะไรจะเข้ามาเอาเด็กไป


จากนั้นจึงตกลงกันระหว่าง 2 ฝ่ายว่า ทาง พม.จะขอเข้าไปพูดคุยสอบถามเด็กที่อยู่ในมูลนิธิ และพาดูส่วนต่างๆ โดยขอพูดคุยเป็นการส่วนตัว



รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/T7PvYJaVaqk

คุณอาจสนใจ

Related News