เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 2 พ.ย.65 ครม.ชิงปลดล็อกสุราพื้นบ้าน-กองสลากปัดล็อกเลขรางวัลที่ 1-จำคุกลูกสาวอาม่าฮวย

-บิ๊กต่อ-บิ๊กโจ๊ก สองรองผบ.ตร.แถลงผลตรวจสถานบันเทิง-บ้านพัก 42 จุด 7 จังหวัด รวบตัวผู้บริหารร้าน Baby Face ยึดรถหรู 3 คันมูลค่า ร้อยล้าน พบเชื่อมโยงนายทุนจีนเปิดผับชลบุรี -พัวพันพนันออนไลน์ ด้านชูวิทย์ร่วมสังเกตการณ์ในฐานะผู้ชี้เป้า พอใจตำรวจทำงานรวดเร็ว แฉเพิ่ม 5 เสือจีนเทา เป็นนายทุนรายใหญ่ ถูกรวบแล้ว 4 คน เหลือ 1 คน

-ตำรวจคุมตัว ‘ต้าเต้า’ หัวโจกแก๊งมังกรจีน อุ้มเพื่อนนักธุรกิจจีนตัดนิ้ว บังคับให้กลืนกิน ที่เเท้เป็นเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด เคยร่วมลงทุน แต่ขัดเเย้งในธุรกิจสีเทา สาเหตุลงมืออย่างโหดเหี้ยม เพราะสุดแค้น ทวงหนี้แล้วเพื่อนไม่มีจ่าย ไม่ทำตามสัญญา ตำรวจคุมตัวเข้าห้องขัง เจ้าตัวยังให้การปฏิเสธ

-ตำรวจคอมมานโด จับเฮียเอี่ยว เจ้าของคลับวัน พัทยา ตัวจริง โดนข้อหาหนัก ทำบัตรประชาชนปลอม เป็นคนจีนสวมบัตรเป็นคนไทย ด้านทนายงัดหลักฐานโต้ เฮียเอี่ยวไม่ได้สวมสัญชาติ แต่มีบรรพบุรุษ เป็นชาวจีนโพ้นทะเล มีเเหล่งพำนักที่โคราช เเละชลบุรี ย้ำเป็นคนไทย ล้านเปอร์เซ็นต์ สถานบันเทิงที่ถูกจับกุม มีใบอนุญาตอย่างถูกต้อง

-ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น จำคุกลูกสาว อาม่าฮวย ลักทรัพย์แม่ 24 ล้าน ไม่รอลงอาญา โดยศาลให้ประกันตัว ตีราคาประกัน 2ล้าน 4 แสนบาท จำเลยเตรียมเดินหน้าสู้คดีในชั้นศาลฏีกา ส่วนคดียักยอกเงินกว่า 250 ล้าน ศาลนัดชี้ชะตา 14 พฤศจิกายนนี้

-กองสลาก แจงไม่ได้ล็อกรางวัลที่ 1 หลังเลขหน้าต่างเพียงตัวเดียว จากเลข 6 เป็น เลข 9 ส่วนเลขหลัง 5 ตัว เรียงซ้ำงวดที่แล้วยืนยันการออกรางวัล โปร่งใส ตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน ย้ำตัวเลขที่จะออกรางวัล มีโอกาสเท่ากันทุกตัว ขณะที่สลากดิจิทัลงวดนี้มีคนดวงโครตเฮง ถูกรางวัลที่หนึ่ง 10 ใบ คนเดียว รับเงินรางวัล 60 ล้าน



เรื่องเล่าการเมือง

-สืบเนื่องจากกระแสข่าวจะมีการ ยุบสภา วันที่ 24 ธ.ค.นี้ เมื่อวานนี้ นักข่าวถามเรื่องนี้กับท่านนายกรัฐมนตรี ท่านนายกฯ สวนกลับให้ไปถามจากคนที่ปล่อยข่าวแทน

นักข่าวถามว่าย้ำอีกว่าหลังการประชุมเอเปค ท่าทีทางการเมืองจะชัดเจนใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า "ยังไม่รู้ ยังไม่มีอะไรทั้งสิ้น" แล้วก็เดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าไปทันที

หลังจากท่านนายกฯขึ้นตึกไป ทางนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ก็เป็นคนที่ออกมายืนยันว่า ท่านนายกฯพูดถึงวันที่จะยุบสภาแล้ว

โดยนายอนุทิน ยอมรับว่า ตนเองเป็นคนถามท่านนายกรัฐมนตรีเอง ระหว่างรับประทานอาหารเที่ยง ว่าท่านนายกฯจะยุบสภา เมื่อไหร่ ซึ่งท่านนายกฯก็ตอบว่า ประมาณวันที่ 31 ก.พ.ปีหน้า ก็ทำเอาบรรดาผู้สื่อข่าว สตั๊นกันไปหลายวิ ก่อนจะมีนักข่าวถามกลับว่า 31 ก.พ. อยู่ในศักราชไหน

นายอนุทิน ยังยืนยันด้วยว่า การจะยุบสภาเมื่อไหร่นั้นขึ้นอยู่กับ ท่านนายกฯเพียงคนเดียว ตอนนี้ยังไม่มีปัจจัยอะไรที่จะนำไปสู่การยุบสภา เพราะรัฐบาลยังทำงานไปได้ด้วยดี และทุกคนก็เร่งทำงานแก้ไขปัญหา อย่างเต็มที่



-การประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวานนี้ ที่ประชุมอนุมัติปรับปรุงกฎกระทรวงว่าด้วยการอนุญาตผลิตสุรา ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ เพื่อปลดล็อกการผลิตสุราพื้นบ้านให้ง่ายขึ้น ทำให้ถูกมองว่าเป็นการตัดหน้า ร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ของพรรคก้าวไกล

โดยกฎกระทรวงที่ปรับปรุงใหม่ มีสาระสำคัญ เช่นการ ลดคุณสมบัติของผู้ขอใบอนุญาตผลิต "สุราแช่" อย่าง น้ำตาลเมา / อุ /เบียร์ / ไวน์ โดยให้ยกเลิกเงื่อนไข ทุนจดทะเบียน จากเดิมที่กำหนด ต้องมีไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท

ส่วนสุรากลั่น หรือเหล้าขาว ปลดล็อกให้สามารถเพิ่มโรงงานสุรากลั่นเป็นขนาดกลาง ที่ใช้เครื่องจักรไม่เกิน 50 แรงม้าได้ จากเดิมต้องเป็นโรงงานขนาดเล็ก ใช้เครื่องจักรได้ ไม่เกิน 5 แรงม้า

ซึ่งหลังจากที่ ครม.อนุมัติแล้ว รัฐบาลก็ได้ประกาศ กฎกระทรวงลงในราชกิจจานุเบกษาทันที เพื่อให้มีผลบังคับใช้ตามกฎหมาย ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมายยืนยันว่า เหตุผลที่มีการปลดล็อก เนื่องจากรัฐบาลได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่ากฎหมายเข้มข้นมากเกินไป จึงได้ใช้เวลาประมาณ 6เดือน ในการทบทวน ยืนยันว่า ไม่ใช่การชิงไหวชิงพริบ เร่งปรับปรุงกฎระเบียบก่อนที่ร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า จะเข้าสู่สภาในวาระที่ 2 และ3

ด้านนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล มองว่า มติ ครม. ครั้งนี้เป็นเกมการเมือง มีการแก้ไขกฎกระทรวง ก่อนการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า เพียง 1 วัน ทำให้รู้สึกว่าประชาชนและพรรคก้าวไกล โดนหลอกมานาน โดยที่การแก้กฎกระทรวงไม่ได้ยากอย่างที่คิด แต่กลับเพิ่งมาทำ

ซึ่งถ้าดูที่รายละเอียดกฎกระทรวง แม้จะมีการลดเงื่อนไขต่างๆ แต่ไม่ได้ตอบโจทย์การปลดปล่อยอุตสาหกรรมสุราจากทุนผูกขาด เป็นการปลดล็อกเรื่องกำลังการผลิตแต่กลับใส่ข้อจำกัดอื่น จึงเป็นเครื่องพิสูจน์ว่ารัฐบาลชุดนี้ไม่สนใจประชาชน เเค่เพียงกลัวเสียหน้า กลัวขัดผลประโยชน์นายทุนเท่านั้น



-ส่วนกระแสข่าวการฮั้วแลกโหวตกันระหว่าง ร่าง พ.ร.บ.กัญชา ของพรรคภูมิใจ กับ ร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ของพรรคก้าวไกล เมื่อวานนี้ นายอนุทิน ยืนยันว่าการลงว่ามติต่างๆ จะต้องเป็นไปตามวิปรัฐบาล

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ยืนยันว่า ไม่มีการฮั้วแลกโหวตกันตามที่เป็นข่าว เพราะการลงมติให้ร่างกฎหมายฉบับใดนั้น จะต้องเป็นไปตาม ความเห็นของวิปรัฐบาล เพราะเป็นพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน และพรรคภูมิใจไทยก็เป็นพรรคมืออาชีพ รู้เรื่องมารยาทดี

ส่วนกระแสคัดค้าน ร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง นายอนุทินยืนยันว่าพรรคภูมิใจไทยไม่ได้เห็นด้วยกับ กัญชาเสรี เพราะนโยบายของพรรค เป็นเรื่องกัญชาทางการแพทย์ พร้อมสวนกลับคนที่ตีความร่างกฎหมายกัญชา ว่าทำให้เกิดกัญชาเสรีและควบคุมยากนั้น ควรกลับไปเรียนกฎหมายมาใหม่



-ส่วนเรื่องนโยบายการเปิดให้ต่างชาติซื้อที่ดินในไทย ยังเป็นประเด็นร้อนหลังมีกระแสคัดค้าน เมื่อวานนี้ นายกรัฐมนตรี ตอบคำถามเป็นครั้งแรก ก็บอกว่า พร้อมรับฟังความเห็นจากทุกฝ่าย แต่ยืนยันชี้แจงได้ทั้งหมด

นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ ภายหลังการประชุมครม. กรณีร่างกฎกระทรวงอนุญาตให้คนต่างชาติถือครองที่ดินได้ไม่เกิน 1ไร่ แลกกับนำเงินมาลงทุนในไทยอย่างน้อย 40 ล้านบาท ที่มีกระแสคัดค้านจากหลายฝ่ายอยู่ขณะนี้ ก็บอกว่า ขั้นตอนยังอยู่ที่กฤษฎีกากำลังพิจารณา และต้องรับฟังความเห็นจากทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง

เมื่อถามว่ามีอะไรจะชี้แจงเพิ่มเติมต่อสังคมกรณีนี้หรือไม่ ท่านนายกฯ บอกว่า "ไม่มีอะไร ชี้แจงได้ทั้งหมด"

ขณะที่ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรคสร้างอนาคตไทย ซึ่งเป็นอดีตรองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ บอกว่า ไม่อยากวิพากษ์วิจารณ์ แต่ "ถ้าเป็นไปได้ อาจใช้เป็นการให้เช่าระยะยาว แล้วให้สิทธิพิเศษหลายด้านแทน"

ซึ่งส่วนตัว ไม่ได้ต่อต้าน เพราะถือเป็นนโยบายแต่ละคน แต่ละพรรค เพียงแต่ "ขอให้รอบคอบ" และยังบอกว่า "สำหรับพรรคสร้างอนาคตไทย ยังไม่มีนโยบายนี้"

ด้าน นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ด้านเศรษฐกิจ บอกว่า นี่เป็นความล้มเหลวในการบริหารเศรษฐกิจของ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งตอกย้ำ จากนโยบาย ที่อนุญาตให้ต่างชาติซื้อที่ดินได้ง่าย โดยอ้างว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ



-ความเคลื่อนไหวพรรคการเมือง นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรคสร้างอนาคตไทย พร้อมแกนนำพรรค ทำกิจกรรม “คิด-ถึง-บ้าน” ที่ย่านเยาวราช ซึ่งเป็นบ้านเกิดของนายสมคิด

มีการนั่งรถตุ๊กตุ๊ก ไปกราบนมัสการสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (สมเด็จธงชัย) เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ที่วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร ซึ่งตลอดเส้นทางการลงพื้นที่เยาวราช มีการทักทายกับประชาชนและร้านค้าริมถนนเยาวราช พร้อมพูดคุยกับผู้ประกอบการที่โรงแรมไชน่าทาวน์ เพื่อผลักดันเยาวราชให้เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ

นายสมคิด ได้แนะนำว่าที่ผู้สมัครของพรรค พร้อมขอโอกาสคนรุ่นใหม่กับชาวเยาวราช และย้ำตนไม่ได้หวังจะเป็นนายกรัฐมนตรี แต่หวังที่จะทำพรรคสร้างอนาคตไทยเป็นสถาบันการเมือง ส่วนอนาคตจะทำงานร่วมกับ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้หรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า พรรคมีจุดยืนชัดเจน ว่า มาเป็นความหวัง และทางเลือกใหม่ โดยไม่เป็นปฏิปักษ์กับใคร

ขณะที่ เมื่อวานนี้ พรรคเพื่อไทย มีการประชุมคณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการเลือกตั้ง นัดแรก ซึ่งมีแกนนำและคณะกรรมการเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง รวมถึง นางสาวแพทองธาร และ นายพานทองแท้ ชินวัตร ในฐานะที่ปรึกษาเข้าร่วมด้วย

ซึ่งเป็นการคิกออฟของศูนย์ฯ และจะทยอยเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส.ให้ครบทั้ง 400 เขต ภายในต้นเดือนธันวาคมนี้ ก็ย้ำเป้าหมายการแลนด์สไลด์ เพื่อเข้ามาแก้วิกฤติเศรษฐกิจ

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/GN9zXUiX1Ls