'สภาผู้บริโภค' ส่งหนังสือด่วนถึง กสทช. มติ 'ควบทรู-ดีแทค' 3:2:1 ผิดกฎหมาย ซ้ำอาจละเว้นหน้าที่

จากกรณี คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) มีการลงมติด้วยคะแนนเสียง 3:2:1 โดยมีการสรุปว่าคณะกรรมการได้ตัดสินว่า กสทช. มีหน้าที่เพียง 'รับทราบ' 3 เสียง ซึ่งชนะกรรมการที่ลงมติว่า 'ไม่อนุญาต' ให้ควบรวมที่มีคะแนน 2 เสียง โดยมีหนึ่งคะแนนเสียง 'งดออกเสียง' นั้น

น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ ประธานอนุกรรมการด้านการสื่อสาร โทรคมนาคมและเทคโนโลยีสารสนเทศ สภาองค์กรของผู้บริโภค และอดีตกรรมการ กสทช. เปิดเผยว่า

สภาองค์กรของผู้บริโภคได้ส่งหนังสือด่วนถึง กสทช. ว่ามติดังกล่าวอาจเป็นมติที่ผิดกฎหมาย เนื่องจากผิดระเบียบข้อบังคับการประชุมของ กสทช. และมติดังกล่าวขัดกับคำวินิจฉัยของศาลปกครองกลาง ประกอบถ้อยคำให้การที่ กสทช. ให้ไว้ในการพิจารณาคดีที่ศาลปกครองว่า กสทช. เป็น ผู้มีอำนาจอนุญาต หรือ ไม่อนุญาต พิจารณาการควบรวมบริษัท

หาก กสทช. ไม่รับฟังการทักท้วงครั้งนี้ จะดำเนินการส่งหนังสือแจ้งมติไปยังบริษัทเอกชนทั้งสอง อาจถือว่าเป็นเจตนาจงใจฝ่าฝืนกฎหมาย

การประชุมที่มีมติ 2:2:1 แล้วประธานมีการออกเสียงเพิ่มอีกหนึ่งเสียงเพื่อตัดสินชี้ขาดนั้น อาจเป็นการกระทำที่ขัดต่อข้อ 41 แห่งระเบียบคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ว่าด้วยข้อบังคับการประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ พ.ศ. 2555

------------

เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม รายงานข่าวจากทรูและดีแทค แจ้งว่า ได้รับหนังสือแจ้งอย่างเป็นทางการจาก กสทช. ถึงมติรับทราบการควบรวมระหว่างดีแทคและทรู โดยดีแทคจะประเมินเงื่อนไขอย่างละเอียด และรายงานความคืบหน้าที่มีนัยสำคัญต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในการนี้ ทั้งสองบริษัทยังคงแยกกันอย่างอิสระในการดำเนินธุรกิจขององค์กรต่อไปตามปกติ

------------

แหล่งข่าวจาก กรุงเทพธุรกิจ บอกว่า ทรู-ดีแทค อาจจะต้องคิดหนัก เพราะกฎเกณฑ์ที่ต้องลดค่าบริการลง 12% ภายใน 90 วัน และต้องส่งต้นทุนในดำเนินกิจการอีกทั้งยังต้อง มีเครือข่าย 5G ครอบคลุมจำนวนประชากร 90% ภายใน 5 ปี 
------------

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/WGNF-tuXRhI