อาชญากรรม

พ่อ-น้องสาวสุดทน วอนหน่วยงานพาชายวัย 40 ติดยาไปรักษา ชอบปีนกำแพงบุกบ้าน อ้างได้ยินเสียงคนเรียก

โดย kanyapak_w

26 ต.ค. 2565

159 views

จากกรณีผู้สื่อข่าวได้รับการร้องทุกข์จากนางสาวภิญญดา อายุ 34 ปี ซึ่งเป็นชาวบ้านตำบลควนลัง อำเภอหาดใหญ่ ว่าได้ถูกเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้กันมีพฤติกรรมบุกปีนกำแพงเข้ามาในบริเวณบ้านช่วงเวลายามวิกาล ก่อนมายืนมองนางสาวภิญญดาที่บริเวณหน้าต่างห้องพักส่วนตัว ซึ่งพฤติกรรมของเพื่อนบ้านคนดังกล่าวได้ทำแบบนี้มานาน 3 ปี และทุกครั้งหลังเกิดเหตุก็ได้มีการแจ้งไปทางญาติและกลับถูกปฎิเสธความรับผิดชอบจากทางญาติ จึงทำให้นางสาวภิญญดาเกิดความกลัวต้องอยู่อย่างหวาดระแวงตลอดเวลา จึงเป็นสาเหตุร้องทุกข์สื่อ





ต่อมา พ.ต.อ.อัครวุฒ ธานีรัตน์ ผกก.สภ.หาดใหญ่ หลังรับเรื่องจึงได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ชนาวิน รัตนวิน สวป.สภ.หาดใหญ่ พร้อมนำกำลังพลเจ้าหน้าที่ตำรวจ ลงพื้นที่ตรวจสอบบ้านพักของนางสาวภิญญดา ซึ่งเป็นผู้เสียหาย จากนั้นหลังสอบถามข้อมูลของผู้ก่อเหตุ เบื้องต้นทราบชื่อ นายสุวัฒชัย เป็นผู้ก่อเหตุปีนกำแพงบ้านของนางสาวภิญญดาและได้พักอาศัยอยู่กับพ่อแม่ซึ่งห่างจากบ้านพักของนางสาวภิญญดา เพียง 20 เมตร จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการชี้แจงนางสาวภิญญดาให้ดำเนินการนำหลักฐานกล้องวงจรปิดเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.หาดใหญ่ เพื่อดำเนินการเข้าจับกุมตัว



จากการตรวจสอบประวัติทราบว่า เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2563 เวลา 08.40 น. ทางผู้เสียหายได้มีการเข้าแจ้งความและเจ้าหน้าที่ได้ทำการเข้าจับกุม นายสุวัฒชัยมาแล้ว 1 ครั้ง ในข้อหาบุกรุก โดยพฤติกรรมของนายสุวัฒน์ชัย ได้บุกรุกเข้าไปในบ้านผู้เสียหายและพยายามบิดลูกบิดประตูเข้ามาในห้องผู้เสียหาย ต่อมา เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 ศาลได้ตัดสินจำคุกนายสุวัฒน์ชัย 1 ปี แต่ทางนายสุวัฒน์ชัยได้มีการรับสารภาพศาลจึงลดโทษจำคุกเหลือ 2 เดือน ก่อนจะออกมาใช้ชีวิตปกติและได้ก่อเหตุซ้ำอีก





ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านพักตำบลควนลัง อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นบ้านพักของนายสุวัฒชัย  หรือ อาร์ม อายุ 40 ปี โดยนายสุวัฒชัยได้พักอาศัยอยู่กับพ่อแม่และน้องสาว หลังผู้สื่อข่าวเดินทางไปถึงก็ได้พบกับ นายอนันต์  อายุ 72 ปี (พ่อ) และ นางสาวศิริยากร อายุ 24 ปี (น้องสาว) นั่งอยู่หน้าบ้าน ก่อนที่ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยเกี่ยวกับพฤติกรรมของนายสุวัฒชัย ว่าได้ทราบหรือไม่ว่า นายสุวัฒชัยได้ไปก่อเหตุปีนกำแพงบ้านก่อนที่พยายามเปิดประตูบุกเข้าไปในบ้านของนางสาวภิญญดาในช่วงเวลากลางวันและยามวิกาล ก่อนที่ผู้สื่อข่าวได้นำคลิปกล้องวงจรปิดขณะที่นายสุวัฒชัยกำลังก่อเหตุ



โดยทาง นายอนันต์ อายุ 72 ปี ได้เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาตนทราบมาตลอดว่าลูกชายของตนได้ไปก่อเหตุปีนบ้านเค้า ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ได้ถูกดำเนินคดีมาแล้วครั้งหนึ่ง หลังกลับมาบ้านก่อได้เหตุซ้ำอีก ซึ่งตนไม่รู้จะทำยังไงเพราะตนต้องไปขายของกับภรรยาในช่วงเช้าและจะกลับบ้านมาอีกทีก็ช่วงเวลา 15.00 น. ทุกวัน ส่วนลูกชายก็ไม่ทำงานอยู่แต่บ้าน ตนก็ทำได้แต่เพียงตะโกนห้ามปรามและได้แค่พูดคุยกับลูกชายเท่านั้นทุกวันนี้ตนกับภรรยาเครียดมาก ซึ่งตนเชื่อว่าสาเหตุที่ลูกชายตนลงมือก่อเหตุนั้นน่าจะมาจากการเสพยาเสพติดจึงมีอาการจิตหลอน



ก่อนหน้านี้ได้ไปสมัครงานเป็นช่างโฟร์แมนก่อนจะโดนไล่ออกไม่ทำงานมา 1 สัปดาห์แล้ว ส่วนสาเหตุที่โดนไล่ออกนั้นน่าจะมาจากเสพยาเสพติดและเกิดอาการหลอนต่อหน้าเจ้าของบริษัทจึงถูกไล่ออกจากงาน ช่วงที่ผ่านมาศาลตัดสินและให้เจ้าหน้าที่พาไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลธัญญารักษ์พอออกมาก็เหมือนเดิมอีก จึงอยากวอนเจ้าหน้าที่ช่วยเข้ามาช่วยเหลือนำตัวลูกชายของตนไปทำการรักษาให้หายขาดจะกี่เดือนกี่ปีก็ได้แค่ขอให้หายขาด







จากนั้น นางสาวศิริยากร ก็ได้เดินเข้าไปในบ้านหยิบยาที่ใช้รักษานายสุวัฒชัยมาให้ผู้สื่อข่าวได้ทำการตรวจสอบและยืนยันว่านายสุวัฒชัยเป็นผู้ป่วยและอยู่ระหว่างรักษาตัวแต่ไม่ถึงกับอาการหนัก ซึ่งเบื้องต้นได้เปิดเผยว่า ปัจจุบันตนกับพ่อก็ได้ช่วยกันดูแลพี่ชายมาตลอดแต่ไม่ตลอดเวลาเพราะต้องไปทำงาน



ส่วนสาเหตุที่พี่ชายเป็นแบบนี้นั้นเกิดจากการที่พี่ชายนั้นย้อนกลับไปเมื่อเกือบ 10 ปีที่แล้ว พี่ชายเป็นคนเก่งและได้สอบเข้าบรรจุเป็นลูกจ้างประจำของกรมทางหลวง อันดับ 4 ซึ่งก่อนหน้าที่จะสอบบรรจุเป็นลูกจ้างประจำพี่ชายเป็นลูกจ้างชั่วคราวอยู่ซึ่งได้ทำงานที่เดียวกันกับพ่อที่กรมทางหลวง โดยพ่อทำหน้าที่เป็นพลขับ หลังพี่ชายทราบผลสอบในช่วงเช้ามีชื่อติดอยู่ที่บอร์ดกระดานก่อนจะมีการเลี้ยงฉลองกับครอบครัวที่บ้านในช่วงเย็น



จากนั้นมาช่วงเช้าปรากฎว่ารายชื่อพี่ชายมีการนำออกไปและเอาชื่อคนอื่นมาใส่แทน จึงทำให้พี่ชายเสียใจอย่างหนักกับการกระทำดังกล่าว ส่วนพ่อก็ไม่สามารถพูดทักท้วงอะไรได้เนื่องจากพ่อเป็นข้าราชการเล็กๆ จึงได้แต่เงียบจนกระทั้งพ่อได้เกษียณอายุราชการ ตั้งแต่วันน้้นมาพี่ชายก็กินเหล้า เสพยามาตลอดจนเกิดอาการหลอนก่อเหตุปีนบ้านของผู้เสียหาย ตนอยากฝากถึงหน่วยงานใดก็ได้ช่วยเข้ามานำตัวไปรักษาให้หายขาดและกลับมาเป็นคนเดิม




ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ถามหานายสุวัฒชัยว่าได้ไปไหน ก่อนที่พ่อของนายสุวัฒชัยตอบว่านั่งอยู่ในบ้านพร้อมกับเรียกนายสุวัฒชัยออกมาข้างนอก หลังนายสุวัฒชัยเดินมานั่งที่เก้าอี้ ผู้สื่อข่าวจึงได้พูดคุยกับนายสุวัฒชัยว่าทำไมจึงไปก่อเหตุปีนบ้าน โดยทางนายสุวัฒชัยตอบกลับมาว่า ตนเองได้ยินเสียงคนมากมายวิ่งไปวิ่งมาและก่อกวนผม ผมไปไล่แล้วก็ไม่ออกและมีคนบอกว่า มีคนรู้จักผมอยู่ในบ้านเค้าและผมจะเข้าไปในบ้านทำให้เจ้าของบ้านไม่พอใจ ซึ่งเจ้าของบ้านคิดว่าผมจะเข้าไปทำร้าย แต่จริงๆแล้วผมได้ยินเสียงเรียกจากคนในบ้านซึ่งเจ้าของบ้านไม่เปิดประตู จากนั้นคนในบ้านได้บอกว่าให้ยืนรอสักแป๊บนึง เค้าอาจจะเปิดให้ ที่นี่ผมรอแล้วเค้่ไม่เปิดให้ผมก็เลยเดินออกมา



จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงได้สอบถามต่อว่า ได้ก่อเหตุมากี่ครั้งแล้ว นายสุวัฒชัยได้ตอบกลับมาว่า ได้ดำเนินคดีมาแล้วหลายครั้ง หลังจากนั้นก็ไม่ยุ่งมาเป็นปีแล้ว จนกระทั้งตนพึ่งเข้าไปในบ้านเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ผู้สื่อข่าวจึงได้ถามต่อว่า หลังจากนี้จะก่อเหตุปีนกำแพงอีกไหม นายสุวัฒชัยจึงได้ตอบกลับมาว่า ไม่แล้วครับ เพราะทุกวันนี้ตนพยายามอยู่แต่ในบ้านของตน ตนอยู่ของตน



แท็กที่เกี่ยวข้อง  อาชญากรรม ,ยาเสพติด ,บุกรุก

คุณอาจสนใจ

Related News