ผบ.ตร.สั่งเอาผิด 'เค ร้อยล้าน' ถึงที่สุด เหตุป่วนซ้ำซาก เข้าข่ายบุคคลอันตราย เล็งกักบริเวณ

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติสั่งเอาผิด "เค ร้อยล้าน" ให้ถึงที่สุด หลังก่อเหตุซ้ำซาก ส่วนจะเอาผิดครอบครัวได้หรือไม่ ต้องให้พนักงานสอบสวนพิจารณา ลาสุด "เค ร้อยล้าน" ครอบครัวรับตัวกลับบ้านแล้ว



ย้อนกลับไปเมื่อช่วง 16.40 น. วานนี้ (23ต.ค.) นาย คเณศพิศณุเทพ จักรภพมหาเดชา หรือ "เค ร้อยล้าน" เดินเข้าไปที่ด้านหลังของ นาย ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า" ถึงในบูธหนังสือขณะกำลังนั่งแจกลายเซ็นต์ ในงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ แล้วใช้แขนขวาล็อคเข้าที่ลำคอของ นาย ธนาธร ก่อนจะตะโกนว่า "พี่น้องที่เคารพครับ มีระเบิด มีระเบิด" จากนั้นบรรดาการ์ด และคนที่เห็นเหตุการณ์ก็เข้าไปชาร์จตัว นาย เค ร้อยล้าน กดลงกับพื้นทันที



จากนั้น นาย ธนาธร ก็ลุกขึ้นมาจากโต๊ะที่นั่งแจกลายเซ็นต์ แล้วบอกกับกลุ่มคนที่จับ นาย เค ร้อยล้านว่า "อย่าทำร้ายเขา" ท่ามกลางประชาชนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างวิ่งหนีกันโกลาหล เพราะตกใจกับคำว่า "ระเบิด"



จากนั้น 2-3 นาที ต่อมา ตำรวจ สน.ลุมพินี เข้ามาควบคุมตัว นาย เค ร้อยล้าน ไปดำเนินคดี แต่นาย เค ร้อยล้าน ให้การปฏิเสธเรื่องการทำร้ายร่างกายนาย ธนาธร อ้างว่า ไม่ได้ทำร้าย แค่เข้าไปตักเตือนเท่านั้น ไม่ได้โดนตัว นาย ธนาธร เลย มีแต่การ์ดนาย ธนาธร ที่ทำร้ายเขา เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหา ปล่อยข่าวเท็จทำให้ประชาชนตื่นตกใจ โทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ก่อนจะส่งตัวไปตรวจอาการทางประสาทที่โรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา



ล่าสุดมีรายงานว่า ลูกของ เค ร้อยล้านมารับตัวกลับไปที่บ้านแล้ว และตำรวจจะนัดมาให้ปากคำและรับทราบข้อหาในวันที่ 8 พฤศจิกายนนี้



นอกจากนี้ผู้จัดงานมหกรรมหนังสือแห่งชาติก็เตรียมเข้าแจ้งความเอาผิดผู้ก่อเหตุเพิ่มเติมอีกหลายข้อหาเช่นกัน แต่ยังไม่ระบุว่าจะเข้าแจ้งความวันไหน



พลตำรวจตรี จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี อยู่ระหว่างพิจารณาว่า การที่ครอบครัว นาย เค ร้อยล้าน ปล่อยให้ออกมาสร้างความวุ่นวายกับประชาชนชนส่วนใหญ่หลายครั้ง จะเข้าข่ายเป็นการปล่อยปละละเลยไม่ดูแลผู้ป่วยจนทำให้เกิดความเดือดร้อนหรือไม่ หากพบว่ามีพฤติการณ์เข้าข่ายก็จำเป็นต้องดำเนินคดีกับญาติหรือผู้ดูแลที่ระบุไว้ในคดีก่อนหน้านี้



สอดคล้องกับความเห็นของ พลตำรวจเอก ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ย้ำว่า ตำรวจจำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมายในทุกคดี โดยเฉพาะที่เป็นความผิดซึ่งเกิดขึ้นในสถานที่สำคัญ หรือสถานที่ราชการ จะมีการดำเนินคดีอย่างจริงจังและเด็ดขาด และหลังจากคดีนี้ จำเป็นต้องมีการทบทวน ถอดบทเรียน กรณีผู้ที่ป่วยทางจิต ใช้ชีวิตร่วมกับคนในสังคม โดยมีการประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อวางแนวทางในอนาคตต่อไป



ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา นาย เค ร้อยล้าน เคยทำร้ายร่างกาย นาง วรวรรณ แซ่อั้ง หรือ ป้าเป้า บริเวณสกายวอล์ก เขตปทุมวัน ขณะร่วมทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ทางการเมือง บริเวณสกายวอล์คปทุมวัน ซึ่ง สน.ปทุมวัน ทำสำนวนส่งอัยการแล้ว แต่ นาย เค ร้อยล้าน หลบหนี จึงถูกออกหมายจับ เมื่อวานนี้ (23 ต.ค.)



เช่นเดียวกับคดีที่นำงูเห่า 3 ตัว ไปปล่อยบนถนนราชดำริ ใช้มีดทำร้ายตนเอง เทขวดน้ำแดงราดตัว และโปรยดอกดาวเรือง เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนนัดส่งฟ้องต่อศาลแขวงปทุมวัน ในวันที่ 3 พฤศจิกายนนี้



มีความเห็นเรื่องนี้จาก ทนายเกิดผล แก้วเกิด โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า "กรณี เค ร้อยล้าน บุกงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 27 แล้วล็อคคอ ธนาธร คนแบบนี้เป็นอันตรายต่อสังคมนะครับ ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ที่มีอำนาจโดยตรง โดยเฉพาะกรมสุขภาพจิต ทำอะไรอยู่ครับ กฎหมายในมือ ที่จะนำมาใช้ คือ พรบ.สุขภาพจิต พ.ศ.2551 ให้อำนาจหน้าที่เจ้าพนักงาน สามารถควบคุมตัวผู้ป่วย นำไปรักษาหรือบำบัด คัดแยก ได้ตามกฎหมาย ทำไมนิ่งเฉย ⁉ ที่นกน้อย #ตัวตึงระยอง ทำไมทำได้ ‼หรือกฎหมายมันบังคับใช้กับคนจน ยกเว้นคนรวย แม้แต่ผู้ป่วย / คนบ้า ขอให้รวย กฎหมายก็เฮงซวยไร้ประสิทธิภาพไปเลยใช่ใหมครับ ⁉"



นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย โพสต์ระบุว่า ช่วยหยุดพฤติกรรมเลียนแบบเหตุล็อคคอธนาธร กลางฝูงชนอย่าปล่อยให้สังคมไทยป่วยยิ่งไปกว่านี้ ขัดแย้งกันได้เป็นเรื่องธรรมดา แต่ต้องมีอารยะ

ชมผ่าน YouTube ได้ที่นี่ : https://youtu.be/nMtA3L62EoM