บันเทิง

ดรามาไม่พัก! 'โตโน่' ใช้อุโมงค์น้ำ สรุปเสียเงินหรือฟรี? เจ้าตัวพร้อม 100% ไม่สนดรามา ขอทำเพื่อหมอ-พยาบาล

โดย passamon_a

20 ต.ค. 2565

38 views

สมาคมนิสิตเก่าวิทยาศาสตร์การกีฬา จุฬาฯ แจงดรามา 'โตโน่' ใช้อุโมงค์น้ำทดสอบร่างกาย นิสิตก็ใช้ได้เพื่อการศึกษาวิจัย ส่วนคนนอกใช้บริการต้องจ่ายรายชั่วโมง พร้อมโชว์เอกสารอนุญาต ก่อนลบโพสต์ ระบุมีผู้เข้าใจผิด อยากให้คณะออกมาชี้แจงเอง หลังคนขุดโตโน่โพสต์ไอจีชม เจ้าหน้าที่ไม่คิดค่าใช้จ่ายสักบาท


ด้านโตโน่ พร้อมว่ายน้ำโขง 100% ไม่สนกระแสดราม่า เผยคลิปว่ายทวนกระแสน้ำแล้วอ่อนแรง เป็นการว่ายทวนน้ำระดับสูงสุด ระบุการขอใช้อุโมงค์น้ำจุฬามีค่าใช้จ่ายแต่อาจารย์ช่วย เพราะเห็นงบน้อย



จากกรณีดรามามีผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่ง ออกมาอ้างว่าเรียนอยู่คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความถามว่า อยากพูดในฐานะคนที่เรียนคณะนั้น คณะที่ให้โตโน่ ไปใช้บริการอุโมงค์น้ำ และวัดค่าปอดก่อนจะว่าย อาจารย์ที่คณะบอกว่า ตั้งแต่ปี 1 อุโมงค์น้ำเนี่ยแพง ไม่ค่อยเปิดใช้ แต่เรางงมากว่า นิสิตเข้าไปไม่ได้เรียนรู้อะไรกับอุโมงค์น้ำนี้เลย ไม่เคยเปิดให้นิสิตดู แต่โตโน่ เข้าไปใช้ไม่เสียเงิน


ล่าสุด เพจสมาคมนิสิตเก่าคณะวิทยาศาสตร์การกีฬา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย CU Sports Science Alumni ออกมาชี้แจ้งข้อมูลว่า เรื่องราวเกี่ยวกับอุโมงค์น้ำ คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา จุฬาฯ มีออกรายการมาตั้งแต่ปี 2560 แล้วค่ะ อุโมงค์น้ำ “Swimming Flume” นวัตกรรมกีฬาที่ช่วยเสริมสร้างความฟิตให้กับร่างกาย https://youtu.be/57uX5iiRswM ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มีนิสิตเข้าใจงานเพื่อการศึกษา วิจัย ทดสอบ ทดลองมาโดยตลอดและยังเปิดโอกาสให้บุคคลภายนอก ทัพนักกีฬาไทย เข้าใช้งานได้ โดยมีค่าใช้จ่ายด้วยค่ะ


พร้อมทั้งแนบเอกสารรายละเอียดค่าบริการการใช้งานอุโมงค์น้ำ โดยมีการกำหนดราคาที่แตกต่างกันระหว่างบุคลากรของคณะและบุคคลภายนอก โดยบุคลากรของคณะฯ มีค่าบริการชั่วโมงแรก 1,900 บาท ส่วนบุคคลภายนอกหากสังกัดจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จะอยู่ที่ 2,000 บาท บุคลากรของภาครัฐอยู่ที่ 2,100 บาท บุคลากรของภาครัฐวิสาหกิจอยู่ที่ 2,200 บาท และบุคคลทั่วไปซึ่งคาดว่าดาราหนุ่มจะอยู่ในส่วนนี้ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 2,300 บาท ในชั่วโมงแรก ส่วนชั่วโมงถัดไปของทุกประเภทจะคิดค่าใช้จ่ายที่ 1,000 บาท ต่อชั่วโมง


จากนั้น ทางคณะฯ ยังได้โพสต์ภาพเอกสารในช่องคอมเมนต์ พร้อมระบุว่า "นี่เป็นเอกสารที่มีการส่งหนังสือมาขอความอนุเคราะห์จากคณะฯ และคณะฯ ได้ให้ความอนุเคราะห์โดยให้คิดค่าใช้จ่ายตามระเบียบค่ะ" เอกสารดังกล่าวเป็นการขอความอนุเคราะห์ขอฝึกซ้อมว่ายน้ำในอุโมงค์ จากโครงการหนึ่งคนว่าย หลายคนให้ โดยทางคณะฯ ได้ลงนามว่า "คณะฯ ยินดีให้ความอนุเคราะห์โดยมีค่าใช้จ่ายตามระเบียบ"


จากนั้นได้มีผู้ไปคอมเมนต์ถามย้ำว่า "ไม่ ๆ ที่เขาสงสัยกันคือนิสิตได้ใช้ไหม โตโน่ใช้ฟรีไหม" ทางเพจตอบกลับว่า "บุคคลภายนอกเสียค่าใช้จ่ายตามปกติค่ะ นิสิต สามารถใช้งานได้ เพื่อการทำทดสอบและงานวิจัยค่ะ" ตรวจสอบเมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 19 ต.ค.65 พบว่าเพจเฟซบุ๊ก CU Sports Science Alumni ได้ลบโพสต์ดังกล่าวออกไปแล้ว


ซึ่งก่อนที่โพสต์จถูกลบ ผู้ที่เป็นศิษย์เก่ามาแสดงตัวว่าเคยใช้เครื่องอุโมงค์น้ำในการทำงานวิจัยของตนสมัยที่ยังเรียนอยู่ ไม่ถึงขั้นห้ามการใช้งานตามที่เป็นข่าว ขณะเดียวกันก็มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่าถ้าเป็นเช่นนั้น ทำไมดาราหนุ่มจึงลงรายละเอียดไว้ในอินสตาแกรมของตนเองว่าทางคณะฯ ไม่คิดค่าใช้จ่าย


เมื่อย้อนไปดูข้อความในอินสตาแกรมของโตโน่ เมื่อวันที่ 12 ต.ค. พบว่าได้โพสต์ข้อความบางช่วงบางตอน ระบุว่า "คุณหมอ อาจารย์ เจ้าหน้าที่ของคณะวิทยาศาสตร์การกีฬา จุฬาลงกรณ์ ที่มีน้ำใจและน่ารักมาก ๆ ไม่คิดค่าใช้จ่ายการทดสอบสมรรถภาพผมสักบาท"


เวลาต่อมา 16.11 น. (19 ต.ค.) เพจเฟซบุ๊ก CU Sports Science Alumni  โพสต์ข้อความระบุว่า "ขอแจ้งให้ทราบว่า เพจนี้ คือเพจของสมาคมนิสิตเก่าวิทยาศาสตร์การกีฬา จุฬาฯ หน้าที่หลักคือประชาสัมพันธ์กิจกรรมต่าง ๆ ให้แก่นิสิตเก่า ในส่วนของเรื่องราวของคณะวิทยาศาสตร์การกีฬา จุฬาฯ สามารถติดตามได้จากเพจของคณะเลยค่ะ"


นอกจากนี้ ทางเพจฯ ยังได้โพสต์ข้อความในช่องคอมเมนต์ว่า "โพสต์เกี่ยวกับอุโมงค์น้ำคือโพสต์เกี่ยวกับว่าที่คณะมีอุโมงค์น้ำ ประโยชน์มีอย่างไรและการเข้าใช้ต้องทำเรื่องอย่างไร มีวิธีการอย่างไรค่ะ ต่อมามีผู้เข้าใจผิด คิดว่าเป็นการชี้แจงเรื่องที่เกี่ยวกับที่ประเด็น และทางเพจมองว่าหากไปเกี่ยวข้องกับทางคณะ ก็อยากให้เป็นทางคณะออกมาชี้แจงเองจะดีกว่าค่ะ เท่านั้นเองค่ะ"


ขณะที่ โตโน่ ได้เดินทางถึงจังหวัดนครพนม ก็เข้าประชุมกับจังหวัด และช่วงเย็น ได้เดินทางมาที่ริมฝั่งแม่น้ำโขง บริเวณโป๊ะเรือ ใกล้กับจวนผู้ว่าเก่า เพื่อจะลงเรือสำรวจเส้นทางน้ำและกระแสน้ำในแม่น้ำโขง


ก่อนลงเรือ โตโน่ ให้สัมภาษณ์การเตรียมความพร้อม ว่า วันนี้มีการประชุมทีมและจัดระเบียบในการว่ายน้ำ ไม่ให้กระทบกับบุคคลอื่น ซึ่งจุดประสงค์คืออยากช่วยโรงพยาบาลทั้งสองฝั่งให้ได้มากที่สุด หวังว่าวันที่ 22 ต.ค. ทุกคนจะมีรอยยิ้ม โดยเฉพาะคุณหมอ คุณพยาบาล จะได้ทำงานเต็มที่มากขึ้น ตั้งแต่ซ้อมมา 1 เดือน ตอนนี้ ร่างกายและสภาพจิตใจ พร้อมแบบ 100%


ส่วนกระแสน้ำที่เห็น ก็ไม่ได้กังวล มองว่าเป็นเรื่องปกติ ซึ่งวันจริง อาจจะมีกระแสน้ำแรง หรือเบากว่านี้ก็ได้ จุดนี้ไม่ใช่ความสำคัญ แต่ความสำคัญของตนคือ ต้องการมาช่วย มาเสริมกำลังหมอ พยาบาล ซึ่งในวันจริงออกสตาร์ทจะว่ายเลาะนิมตลิ่งไปก่อน ตรงนี้คิดว่าไม่เหนื่อย แต่จุดที่จะเหนื่อยคือจุดที่การว่ายข้ามไปฝั่งลาว


ส่วนกระแสดราม่าต่าง ๆ นั้น มีมาทุกวัน ตั้งแต่มีโครงการ ซึ่งส่วนตัวยอมรับกระทบจิตใจบ้างเพราะตนก็เป็นมนุษย์ แต่ตนเห็นว่า นครพนมสำคัญกว่า คุณหมอ คุณพยาบาลสำคัญกว่า ตนเหนื่อยว่ายน้ำแค่วันเดียว ถ้าจะแบ่งเบาภาระคุณหมอ พยาบาลได้ จะดราม่าตนก็ยินดี


นอกจากนี้ โลกออนไลน์มีการแชร์คลิป โตโน่ทดลองว่ายน้ำต้านกระแสน้ำ (เทียม) ในอุโมงค์น้ำ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ในคณะวิทยาศาสตร์การกีฬา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย


จากในคลิปสังเกตว่า โตโน่ว่ายแล้วมีอาการเหนื่อยหอบอย่างมาก โดยเวลาทำได้สูงสุดที่ 1.30 เมตร/วินาที ซึ่งกรณีการใช้อุโมงค์น้ำนี้ ก็เกิดกระแสวิพากวิจารณ์ว่า เป็นอุปกรณ์ในคณะวิทยาศาสตร์การกีฬา ซึ่งหลายรายที่อ้างว่าเป็นนักศึกษาในคณะดังกล่าว ทั้งศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบัน บอกว่า ตอนกำลังศึกษา เครื่องทดสอบดังกล่าวเปิดให้ใช้งานยากมาก แต่ทำไมถึงได้มาใช้กับโตโน่ และการเปิดใช้แต่ละครั้งทีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง


กรณีนี้ โตโน่ บอกว่า คลิปที่เห็นว่าตนอ่อนแรงนั้น ไม่ได้หมายความว่าว่ายต้านน้ำไม่ได้ แต่วันที่ทดลอง เป็นการปรับระดับการว่ายทวนกระแสน้ำ ระดับสูงสุด ซึ่งความเป็นจริง ที่แม่น้ำโขง ไม่ได้แรงเหมือนที่ซ้อม คลิปที่ซ้อมจึงออกมาแล้วเหมือนตนเหนื่อยมาก


ส่วนการเข้าไปใช้อุโมงค์น้ำ ที่ได้ไปใช้เพราะทางอาจารย์ในคณะทราบข่าว เรื่องจะช่วยคุณหมอที่นครพนมและทางฝั่งลาว จึงอยากช่วยสนับสนุน และอยากรู้ว่าร่างกายตนพร้อมหรือไม่ จึงให้ตนไปทดสอบเป็นการส่วนตัว ส่วนค่าใช้จ่าย ปกติตนก็จ่ายโครงการที่ผ่านมาก็จ่าย แต่ครั้งนี้อาจารย์ใจดี เพราะเขารู้ว่างบเราน้อย จึงให้ความอนุเคราะห์ไม่ได้เสียค่าใช้จ่าย เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการทำบุญครั้งนี้ด้วย


ส่วนค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่ดราม่าและเกิดควาทสงสัยกันนั้น โตโน่ยืนยันว่า สามารถชี้แจงได้หมด และทางจังหวัดนครพนม ได้ชี้แจงไปแล้ว ถ้าจะดราม่าเรื่องโครงการนี้ เชิญตามสบาย ตนไม่ได้สนใจ "ผมจะว่าย ใครจะว่า ผมไม่สนใจ จะทำโครงการนี้ ส่วนใครที่เป็นห่วงก็ขอบคุณมากๆ"


ผมรู้สึกว่า ถ้าจะดราม่ากัน แล้วจะต้องให้คตที่เขาอยากมาช่วย เขารัก เขาอยากช่วย มีน้ำใจ ผมไม่สนใจ ใครจะการเมือง ผมสนใจแค่ว่า จะหาเครื่องไอซียูเด็กให้ได้ ผมไม่ท้อ ผมจะว่าย


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/ALMq9Zq2kOo

คุณอาจสนใจ

Related News