กรมอุตุฯ คาดปีนี้ไทยเข้าฤดูหนาวอย่างเป็นทางการสิ้นเดือนตุลาคม

วันนี้ (17 ตุลาคม 2565) ว่าที่ร้อยตรีธนะสิทธิ์ เอี่ยมอนันชัย รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ได้สัมภาษณ์ผ่านทางโทรศัพท์ถึงสภาพอากาศและมวลอากาศหนาวว่า ตอนนี้ขอเฝ้าดูอีกสักระยะ และดูว่าเข้าข่ายฤดูหนาวหรือยัง ซึ่งมีเกณฑ์ 3 ข้อ คือ 1. อุณหภูมิช่วงเช้าในประเทศไทยตอนบน ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคตะวันออก ภาคกลาง ต่ำกว่า 23 องศาเซลเซียสหรือไม่

2. ลมระดับ 300 เมตร ถึง 3 กิโลเมตรครึ่ง เป็นลมพัดทิศเหนือซึ่งเป็นลมหนาว หรือ ลมจากทิศตะวันออกเป็นลมเย็น ครอบคลุกมากแค่ไหน

3. ปริมาณและการกระจายของฝนลดลงมากเพียงใด ณ ขณะนี้อุณหภูมิช่วงเช้าต่ำลงเกือบทุกภาค ยกเว้นภาคกลางที่มีอุณหภูมิสูงกว่าเล็กน้อย และปริมาณฝนแถวตอนบนของประเทศลดลงอย่างเห็นได้ชัด


ส่วนอากาศเย็นเมื่อช่วงหยุดยาวสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวเพิ่มเติมว่า เกิดจากมวลอากาศเย็นมาปกคลุม อีกทั้งอิทธิพลจากพายุเซิงกาเข้ามา ทำให้มีมวลอากาศเย็นและหนาวเย็นชัดเจนขึ้น ปริมาณเมฆเพิ่มขึ้น


ทั้งนี้ต้องดูวันที่ 16-18 ตุลาคม จะมีมวลอากาศเย็นค่อนข้างแรงพัดลมมาจากประเทศจีนอีกระลอกหนึ่ง คาดว่าอุณหภูมิจะลดต่ำลง


อย่างไรก็ตามกรมอุตุนิยมวิทยาขอเฝ้าดูสถานการณ์อีก 1-2 วัน จึงจะสามารถประกาศได้ ซึ่งอ้างอิงจากที่คาดการณ์ไว้ตั้งแต่แรกว่าจะเข้าสู่ฤดูหนาวอย่างเป็นทางการ ประมาณสัปดาห์สุดท้ายของเดือนตุลาคมนี้ คาดว่าจะมีอากาศหนาวนานกว่าและอุณหภูมิต่ำกว่าปีที่แล้ว เฉลี่ย 21 องศาเซลเซียส ขณะที่กรุงเทพมหานครคาดการว่าจะมีอุณหภูมิอยู่ที่ 17-18 องศาเซลเซียส บางวันอาจต่ำกว่านั้น



ด้านพายุ “เนสาท” ที่ก่อตัวแล้วกำลังเคลื่อนเข้าฝั่งประเทศเวียดนาม รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เสริมว่า ยังไม่ใช่พายุลูกสุดท้าย เพราะฤดูฝนยังไม่หมด อีกทั้งมีโอกาสที่พัดเข้าภาคใต้ ซึ่งยังมีอยู่ ส่วนภาคอื่น ๆ ไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด ทั้งนี้ขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารพยากรณ์อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด